เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-3 เที่ยวชมสถานที่ที่น่าสนใจภายใน “สวนปราสาทโอซาก้า”「OSAKA CASTLE PARK」
OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN เช่าชุดกิโมโนที่ร้าน「WASOBI」ในตัวเมืองโอซาก้า และได้เดินทางมายังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโอซาก้าอย่าง “สวนปราสาทโอซาก้า” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Day1-2 เช่าชุดกิโมโนที่ร้าน「WASOBI」เพื่อมุ่งหน้าไปยัง “สวนปราสาทโอซาก้า”
ซึ่งบริเวณรอบๆ สวนปราสาทโอซาก้านี้ก็จะมีจุดต่างๆ ที่น่าสนใจมากมายทั้ง “หอคอยปราสาทโอซาก้า” หรือ “ศาลเจ้าโฮโกกุ”「HOKOKU(豊国神社)」นอกจากนี้ยังมีแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารที่เพิ่งเปิดให้บริการใหม่อย่าง「MIRAIZA」หรือ「JO-TERRACE OSAKA」อยู่อีกด้วย โดยบริเวณนี้จะเป็นจุดที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนในพื้นที่ คนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยตลาดทั้งปีเลยทีเดียว
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 3 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ เที่ยวชมหอคอยปราสาท พร้อมบรรยากาศธรรมชาติรอบๆ สวนปราสาทโอซาก้าที่อุดมสมบูรณ์ใจกลางเมืองโอซาก้ากันค่ะ
สวนปราสาทโอซาก้าแห่งนี้จะล้อมรอบ “ปราสาทโอซาก้า” ที่เป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้า ซึ่งเต็มไปด้วย ต้นซารุระกว่า 3000 ต้น ที่จะบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และถนนสายต้นแปะก๊วยยาวกว่า 1km ที่จะบานเหลืองอร่ามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ซึ่งปราสาทโอซาก้านั้นสามารถเข้าถึงได้จากประตูต่างๆ โดยสถานีรถไฟต่างๆ ดังนี้
ตะวันออกเฉียงเหนือ : JR Osaka Loop Line “สถานีโอซาก้าโจโคเอ็น”「OSAKAJOKOEN STATION」
ตะวันออกเฉียงใต้ : JR Osaka Loop Line “สถานี โมริโนมิยะ”「MORINOMIYA STATION」
ตะวันตกเฉียงใต้ : รถไฟฟ้าใต้ดินสายทานิมาจิ (Tanimachi Line) และ (Chuo Line) “สถานีทานิมาจิ 4 โจเมะ”「TANIMACHI 4 CHOME STATION」
ตะวันตกเฉียงเหนือ : รถไฟ Keihan Main Line・รถไฟใต้ดินสาย (Tanimachi Line) “สถานีเทมมะบาชิ”「TEMMABASHI STATION」
ซึ่งประตูต่างๆ เหล่านี้จะล้อมรอบปราสาทโอซาก้าทำให้สามารถเดินจากแต่ละสถานีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งภายในบริเวณสวนปราสาทโอซาก้าที่กว้างใหญ่แห่งนี้ นอกจากจะมี หอคอยปราสาท หรือแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตฮอลล์ หรือลานกว้างจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ อยู่อีกด้วย
ส่วน ICHIGO-CHAN ได้เดินทางมาลงที่สถานีโมริโนมิยะ สามารถเดินไปยังหอคอยปราสาทโอซาก้าได้ โดยเดินเลยศาลเจ้าโฮโกกุไปประมาณ 12 นาที ระหว่างทางเราก็จะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ใจกลางเมืองโอซาก้าไปด้วย
เมื่อออกจากสถานีโมริโนมิยะ ประตู「3A」แล้ว ก็เดินตรงไปทางหอยคอยปราสาทเรื่อยๆ เพียงไม่กี่นาทีก็จะเจอคูน้ำอยู่ทางด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายก่อนถึงเลย จากนั้นก็ขึ้นบันไดยาวไปเรื่อยๆ และตรงไปก็จะออกมาสู่ถนนใหญ่ ให้เลี้ยวไปทางขวา จากนั้นก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอโทริอิขนาดใหญ่ของ “ศาลเจ้าโฮโกกุ”「HOKOKU(豊国神社)」อยู่ทางซ้ายมือเลย
“ศาลเจ้าโฮโกกุ”『HOKOKU(豊国神社)』เป็นศาลเจ้าที่เซ่นไหว้ไดเมียว “โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ” เจ้าของปราสาทโอซาก้าที่ได้เลื่อนตำแหน่งจากนายพลธรรมดา จนได้ขึ้นเป็นโชกุนที่อยู่ตำแหน่งสูงสุด โดยศาลเจ้าแห่งนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์ทางด้าน “การประสบความสำเร็จ” “การงานประสบความสำเร็จ” หรือ “การได้งาน” และ “ชัยชนะ” เป็นต้น
ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้นอกจากจะเป็นศาลเจ้าบูชาไดเมียว “โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ” และได้รับความเลื่อมใสจากผู้คนเป็นจำนวนมากแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของคนในพื้นที่ และคนในเมืองโอซาก้าอยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้นหากมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็อาจได้ชมบรรยากาศงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็เป็นได้
และที่บริเวณด้านหน้าศาลเจ้าจะมี「CHINOWA(茅の輪)」อ่านว่า “จิโนะวะ” อยู่ด้วย โดย “จิโนะวะ” นี้จะถูกตกแต่งอยู่ในศาลเจ้าช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกรกฏาคม หรือช่วงปลายปี เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ในช่วงครึ่งปีออกไป โดยมีความเชื่อว่าหากได้ลอดผ่าน “จิโนะวะ” ก็จะช่วยให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ชำระร่างกายให้บริสุทธิ์นั่นเอง
ยังไงถ้าโชคดีได้ไปช่วงที่มี “จิโนะวะ” พอดีก็ลองไปรอดผ่านดูได้เลย เมื่อลอดผ่านเรียบร้อยแล้ว ก็ไปล้างมือชำระล้างร่างกายได้ที่จุดชำระล้างร่างกายที่อยู่บริเวณทางเข้ากันเลย
หลังจากชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่บริเวณศาลเจ้าหลัก(ที่มีระฆังและกล่องทำบุญอยู่หน้าอาคาร) โค้งคำนับเล็กน้อย 1 ครั้ง และโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ（ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5－50 เยน）จากนั้นสั่นสายระฆังที่ห้อยลงมา และทำการ
โค้งคำนับ 2：โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง
ปรบมือ 2：ปรบมือ 2 ครั้ง
โค้งคำนับ 1：อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ
ซึ่งหลักการกราบไหว้แบบ โค้งคำนับ 2 ปรบมือ 2 โค้งคำนับ 1 นั้นจะเป็นการสักการะที่ศาลเจ้าเท่านั้น ในกรณีการสักการะที่วัดจะไม่มีการปรบมือ สามารถสักการะโดย พนมมือธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น
“ศาลเจ้าโฮโกกุ”「HOKOKU(豊国神社)」ที่มีความโดดเด่นทางด้าน “ประสบความสำเร็จ” “หมดทุกข์หมดโศก” หรือ “การค้าขายรุ่งเรือง” นี้ก็จะมีทั้งเครื่องรางของขลังต่างๆ มากมายจำหน่ายอยู่ ซึ่งจุดจำหน่ายเครื่องรางของขลังนั้นให้เดินออกจากอาคารหลักศาลเจ้าไปบริเวณทางเข้า จุดจำหน่ายจะอยู่ทางซ้ายมือเลย
เมื่อออกจากโทริอิศาลเจ้าโฮโกกุแล้ว หอคอยปราสาทโอซาก้าก็อยู่ไม่ไกลแล้ว โดยเดินออกจากโทริอิศาลเจ้า จากนั้นก็เดินข้ามสะพานคูน้ำไป ลอดผ่านประตู จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ไปจนถึงลานกว้างหน้าหอคอยปราสาทโอซาก้า ก็จะได้ชมความยิ่งใหญ่ของหอคอยปราสาทที่มีความสูงกว่า 58 เมตรได้อย่างสวยงาม
ภายในหอคอยโอซาก้าแห่งนี้ จะมีทั้งการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของปราสาทโอซาก้า และอุปกรณ์ทางการรบต่างๆ ที่เคยถูกใช้จริงใน “ปราสาทโอซาก้า”『OSAKA CASTLE』เมื่อ 400 ปีก่อน นอกจากนี้หากขึ้นไปยังชั้นสูงสุดก็จะเป็นจุดชมวิวเมืองโอซาก้าได้แบบรอบทิศ
ค่าเข้าชมหอคอยปราสาทโอซาก้าจะอยู่ที่ 600 เยน ซื้อตั๋วเข้าชมได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วทางด้านขวามือบริเวณทางเข้า(รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น)
บริเวณลานกว้างหอคอยปราสาทโอซาก้าจะเป็นจุดถ่ายรูปชั้นเลิศที่สามารถถ่ายรูปคู่กับหอคอยปราสาทโอซาก้าได้แบบชัดและใกล้มากๆ วันนี้เราได้ Mong-Chan ที่ไปเปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนร่วมเดินเที่ยวกับเราในครั้งนี้ด้วย เพราะฉะนั้นถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันซักหน่อย ได้ใส่ชุดกิโมโนเดินเที่ยวสถานที่ทางประวัติศาสตร์แบบนี้แล้ว ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แลเป็นอีกหนึ่งสีสันในการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
และที่บริเวณหน้าลานกว้างหอคอยปราสาทโอซาก้านี้จะมี『MIRAIZA』อยู่ โดยอยู่ทางฝั่งขวามือเมื่อหันหน้าเข้าหาหอคอยปราสาท
ซึ่งเดิมทีสถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฐานทัพของทหารญี่ปุ่นในช่วงก่อนสงครามแปซิฟิก ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานกับตึก MIRAIZA ได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นแหล่งช้อปปิ้งร้านจำหน่ายของฝาก ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ ที่เป็นจุดพักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีจุดทดลองสวมชุดซามุไรอยู่ภายในตึกนี้ และที่พิเศษสุดๆ เลยก็คือมี Rooftop Bar ที่สามารถทานอาหาร นั่งดื่มไปพร้อมๆ กับวิวหอคอยปราสาทโอซาก้าได้อีกด้วย
ภายใน MIRAIZA จะมี「JAPAN TATEDO ASSOCIATION OSAKA DOJO」ที่นอกจากจะได้ลองสวมชุดนินจา หรือนักรบ เพื่อถ่ายรูปแล้ว ยังได้เรียนรู้วิธีการจับดาบ การเหวี่ยงดาบ หรือ ทดลองต่อสู้ด้วยดาบ เรียกได้ว่าเพื่อนๆ จะสามารถเปิดประสบการณ์ “การฟันดาบต่อสู้” หรือเรียกว่า “ทาเทะ : 殺陣” ได้ที่นี่เลย
โดยจะมีอยู่วันละ 6 รอบคือ ตั้งแต่เวลา
10:00 -, 11:20 -, 13:40 -, 15:00 -, 16:20 –
ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 6000 เยน เด็ก 4000 เยน สามารถชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต
เมื่อเพลิดเพลินกับ MIRAIZA ไปเต็มที่แล้ว ก็ไปที่「JO-TERRACE OSAKA」แหล่งช้อปปิ้ง และของกินที่เพิ่งเปิดบริการใหม่ในสวนปราสาทโอซาก้ากันเลย โดยเดินออกจากลานกว้างหน้าหอคอยปราสาทโอซาก้ากลับไปตามทางเดิมไปจนถึงศาลเจ้าโฮโกกุ ข้ามสะพานพาดผ่านคูน้ำไปและเดินไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เดินลงเนินตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางจนเจอประตู ให้ลอดผ่านประตูนี้ไป และข้ามสะพาน จากนั้นก็เดินไปทางขวามือ
เมื่อเดินไปซักพักก็จะเจอลานกว้างอยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้าย ซึ่งที่บริเวณลานกว้างสวนปราสาทโอซาก้าในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะเป็นสถานที่จัดงาน「Thai Festival」เป็นเวลา 2 วัน ที่มีสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งอาหาร แฟชั่น และ ศิลปวัฒนธรรมของไทย นอกจากนี้ยังมีโชว์มวยไทย รำไทย หรือโชว์ลูกทุ่ง ซึ่งเป็นงานที่ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นจำนวนมากเลยทีเดียว
โดยเราจะเดินผ่านลานกว้างทางขวามือนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ「JO-TERRACE OSAKA」อยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ
『JO-TERRACE OSAKA』นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7:00-24:00 น.
ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายของฝากเฉพาะของปราสาทโอซาก้า หรือร้านอาหารโอซาก้าต่างๆ มากมายอย่างเช่น ทาโกยากิ หรือ โอโคโนมิยากิ เท่านั้นไม่พอยังมีร้านกาแฟต่างๆ อย่างเช่น STARBUCKS หรือ Tully’sCoffee อยู่อีกด้วย
และหนึ่งในร้านอาหารยอดนิยมที่สามารถเพลิดเพลินไปกับ ทาโกยากิ โอโคโนมิยากิ และกระทะร้อน “เท็ปปังยากิ” ได้อย่างเต็มที่กับร้าน「CHIBO(千房)」ซึ่งเป็นร้านที่มีสาขาหลักอยู่ที่โดทงโบริ เปิดให้บริการทุกวัน และเป็นร้านที่จะพบเห็นอยู่บ่อยครั้งในหนังสือท่องเที่ยวต่างๆ ด้วยความที่ร้านสาขาสวนปราสาทโอซาก้าแห่งนี้เพิ่งเปิดให้บริการใหม่ เพราะฉะนั้นคนจึงไม่ค่อยเยอะมาก บรรยากาศภายในร้านจะตกแต่งแบบญี่ปุ่นโมเดิร์น มีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ที่ติดกับส่วนครัว และที่นั่งแบบโต๊ะรวมแล้วกว่า 50 ที่นั่ง รองรับลูกค้าแบบกลุ่มได้สบายเลยค่ะ
ซึ่งเมนูหลักๆ ของร้าน「CHIBO(千房)」ก็คือเมนู “โอโคโนมิยากิ” อาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบอย่างเช่น 「CHIBOYAKI(千房焼)」（1830 เยน）หน้าหมูและซีฟู้ด, KUROBUTATAMA(黒豚玉)」（1350 เยน）ที่ประกอบไปด้วยเนื้อหมูชั้นดี หมูคุโรบุตะของคาโงชิมะ หรือ เมนูซีฟู้ดแบบอัดแน่น「KAISENYAKI(海鮮焼)」（1500 เยน）นอกจากนี้ยังมี สเต็ก แฮมเบิร์ก และหอยนางรมกระทะร้อน ให้ได้เพลิดเพลินกับเมนูกระทะร้อนได้อย่างเต็มที่
หากได้นั่งที่นั่งเคาน์เตอร์ก็สามารถดูตอนทำโอโคโนมิยากิ หรือเมนูกระทะร้อนได้ตรงหน้าเลยค่ะ ในโอซาก้าที่เป็นเมืองต้นกำเนิดของโอโคโนมิยากินี้ ร้านส่วนใหญ่จะให้ลูกค้าได้ย่างโอโคโนมิยากิเอง ตามความชอบของแต่ละคน แต่ร้านนี้เชฟมือโปรจะพิถีพิถันย่างให้อย่างดี เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะไม่เคยทานโอโคโนมิยากิก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ได้ทานแบบอร่อยๆ จากมือเชฟโดยตรง อีกทั้งยังเหมือนได้ชมโชว์ทำอาหารระหว่างรออีกด้วย
ICHIGO-CHAN สั่งเป็น KAISENYAKI(海鮮焼) ขนาดโอโคโนมิยากิใหญ่เท่าหน้า ICHIGO-CHAN เลยค่ะ ด้านนอกหอมกรอบและด้านในนุ่มๆ ราดด้วยซอสเฉพาะของที่ร้านและมายองเนส โรยด้วยผงปลาคาสึโอะ รสชาติทุกอย่างเข้ากันกำลังดีเลยค่ะ อร่อยมากๆ ได้ทานแบบร้อนๆ ย่างใหม่ต่างกับตอนที่ทานที่ไทยเลยค่ะ
หากเพื่อนๆ ไม่ทราบวิธีการทาน หรือวิธีการท้อปปิ้งต่างๆ ก็สามารถถามพนักงานได้เลย เนื่องจากลูกค้ามากกว่าครึ่งของร้าน CHIBO ที่「JO-TERRACE OSAKA」เป็นชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นพนักงานสามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ(หรือภาษาจีน เกาหลี) ได้ค่ะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของร้านนี้ที่มีการบริการต้อนรับลูกค้าเป็นอย่างดี
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้สัมผัสธรรมชาติใจกลางเมืองใหญ่ เยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่น และถ่ายรูปคู่กับหอคอยปราสาทโอซาก้าแลนด์มาร์กของโอซาก้า จากนั้นได้ทานอาหารประจำโอซาก้าที่สวนปราสาทโอซาก้าแล้ว
ตอนต่อไปเราจะเดินทางไปยัง “ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ”「NAMBA YASAKA SHRINE(難波八坂神社)」และเที่ยวย่านดังของโอซาก้าที่ “นัมบะ・ชินไซบาชิ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪
【ตารางการเดินทาง Day1-3 OSAKA CASTLE PARK】
