เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-2 เช่าชุดกิโมโนที่ร้าน「WASOBI」เพื่อมุ่งหน้าไปยัง “สวนปราสาทโอซาก้า”
OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินทางจากประเทศไทยมาเป็นเวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง ตอนนี้ก็ได้เดินทางมาที่ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ที่เปรียบเสมือนประตูหน้าบ้านของโอซาก้า และเกียวโต เป็นที่เรียบร้อย
Day1-1 เริ่มทริป! เดินทางจากกรุงเทพ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ และเข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้า
และหลังจากนี้เราจะมุ่งหน้าไปที่ร้านเช่าชุดกิโมโน「WASOBI」ใจกลางเมืองโอซาก้าที่ฮนมาจิ ซึ่งเป็นร้านที่สามารถเช่าชุดกิโมโนที่สามารถถ่ายรูปได้ทั้งภายในร้าน อีกทั้งยังสามารถเช่าชุดออกไปนอกร้านได้สูงสุด 2 วัน ใส่ชุดกิโมโนเดินเที่ยวภายในเมืองโอซาก้าได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 2 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปเช่าชุดกิโมโนที่ร้าน「WASOBI」และมุ่งหน้าไปยัง “สวนปราสาทโอซาก้า” กันค่ะ
ที่พักของเราในคืนนี้ก็คือโรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」ตั้งอยู่บริเวณย่านที่พักราคาถูกใจโอซาก้าบริเวณสถานีชินอิมามิยะที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเดิมทีเป็นย่านพักอาศัยของกรรมกร แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นย่านที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย หากเทียบราคาที่พักบริเวณย่านดังอย่าง “นัมบะ” “ชินไซบาชิ” หรือ “อุเมดะ” ห้องทวินรูมต่อคืนจะอยู่ที่ประมาณ 15000-20000 เยน (ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล) แต่ที่ย่านชินอิมามิยะนี้อาจมีราคาที่พักต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 3000 เยนเท่านั้น ถ้าเทียบกับประเทศไทยแล้วก็คงเป็นที่พักย่านถนนข้าวสารนั่นเอง
สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายที่พักก็สามารถเลือกพักบริเวณย่านนี้ได้เลย
โดยสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สามารถเดินจากโรงแรมในย่านชินอิมามิยะนี้ไปได้ก็มีอยู่มากมาย ทั้งตึกที่สูงที่สุดในโอซาก้า และญี่ปุ่นอย่าง「ABENO HARUKAS(あべのハルカス)」ที่ใช้เวลาเดินไปเพียง 15 นาที นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ “ย่านชินเซไก” ที่ให้บรรยากาศเมืองโอซาก้าแบบสุดๆ เพียงปลายจมูก ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารต่างๆ มากมายทั้ง ของทอดเสียบไม้คุชิคัตสึ หรือ ทาโกยากิ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของโอซาก้าอย่าง “หอคอยโอซาก้า”「TSUTENKAKU TOWER(通天閣)」อีกด้วย
โดยที่พักภายใน “ย่านชินอิมามิยะ” นี้ไม่เพียงแต่จะเป็นแหล่งรวมที่พักราคาถูกเท่านั้น แต่ในปีหน้ายังมีแผนจะก่อตั้งโรงแรมระดับ 5 ดาวที่คาดการณ์ว่าจะเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เลยก็ว่าได้ รีบไปก่อนใครได้เลย
หลังจากที่เราได้ฝากสัมภาระต่างๆ ไว้ที่โรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」แล้ว ต่อไปเราจะเดินทางไปยังร้านเช่าชุดกิโมโน「WASOBI」กันเลย โดยการเดินทางจาก โรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」ไปยังร้านเช่าชุดกิโมโน「WASOBI」นั้นเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ (Midosuji Line) จะสะดวกที่สุด ก่อนอื่นก็เดินออกจากโรงแรมไปเลี้ยวซ้ายที่ถนนใหญ่ และเดินตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นก็เดินข้ามทางข้ามรางรถไฟไป จากนั้นเดินเข้าตึกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน “สถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ”「DOBUTSUEN-MAE STATION」กันเลย เมื่อลงบันไดไปแล้วก็จะเจอเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติอยู่ทางด้านซ้ายมือ
หากเพื่อนๆ ต้องการท่องเที่ยวภายในเมืองโอซาก้าแบบสุดคุ้มก็ขอแนะนำเป็นตั๋วแบบ 1 day「Enjoy eco card ticket 1 day」สามารถซื้อตั๋วแบบ 1 day นี้ได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลย มีวิธีการซื้อดังนี้คือ
1.กดปุ่ม「English」บนหน้าจอด้านซ้ายมือ
2.กดกลุ่ม「Card」
3.เลือกกดปุ่ม「One Day Pass」
4.ใส่เงินเข้าไปในเครื่อง
5.กดปุ่ม 800 เท่านี้ก็เรียบร้อย
โดย「Enjoy eco card ticket 1 day」นี้จะเป็นตั๋วพาสที่เพื่อนๆ สามารถใช้นั่งรถไฟใต้ดินภายในโอซาก้าได้ทุกสาย และสายนังโกพอร์ตทาวน์ทุกสาย นอกจากนี้ยังสามาถใช้นั่ง “โอซาก้าซิตี้บัส” ได้อีกด้วย ซึ่งสามารถใช้นั่งได้ทุกแบบทุกสายแบบไม่อั้นหนึ่งวันเต็มๆ สามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวไปยัง “ย่านชินไซบาชิ” “ย่านโดทงโบริ” “บริเวณสถานีโอซก้าโก”(ใกล้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง) หรือ “ปราสาทโอซาก้า” ฯลฯ อีกมากมายที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของโอซาก้าได้อย่างเต็มที่
แต่มีข้อควรระวังอยู่เล็กน้อยในการใช้เส้นทางรถไฟ ที่ไม่สามารถใช้พาสนี้ในการเดินทางได้ ยกตัวอย่างเช่น เส้นทางไปยัง “เซนริ SENRI(千里)” ระหว่าง “เอซากะ ESAKA(江坂)-เซนริ ชูโอ SENRI CHUO(千里中央)” ที่มี EXPOCITY หรือ การนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายซากาอิซึจิ(Sakaisuji Line) ที่จะเปลี่ยนเป็นสายฮันคิวระหว่างทาง เป็นต้น ในกรณีที่ใช้เส้นทางเหล่านี้ในการเดินทางสามารถขึ้นรถไฟด้วย「Enjoy eco card ticket 1 day」ก่อน จากนั้นจะต้องทำการเคลียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขณะออกจากช่องตรวจตั๋วของสถานีปลายทาง
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปเลย หากต้องการเดินทางไปยัง “สถานีฮนมาจิ” ก็จะต้องลงบันไดที่อยู่ซ้ายมือไปที่ชานชาลาหมายเลข 2 เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ(Midosuji Line) โดยเราจะใช้เวลาในการเดินทางจาก “สถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ DOBUTSUEN-MAE STATION” ไปยัง “สถานีฮนมาจิ”เป็นเวลา 8 นาที นั่งไป 4 สถานี
เมื่อนั่งรถไฟสายมิโดสึจิ(Midosuji Line) มาที่สถานีฮนมาจิแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนหรือบันไดที่อยู่ด้านหลังภายในชานชาลา จากนั้นเมื่อขึ้นมาแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทาง เลี้ยวขวา เพื่อเดินมุ่งหน้าไปยังชานชาลารถไฟใต้ดินสายชูโอ (Chuo Line)
เมื่อถึงชาลารถไฟใต้ดินสายชูโอ (Chuo Line)แล้ว ก็ขึ้นบันไดที่อยู่ภายในชานชาลา จากนั้นผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติเลย และขึ้นบันไดเลื่อนหน้าช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติจากประตูทางออกหมายเลข 16 ไปชั้น 1F ก็จะเจอร้านเช่าชุดกิโมโน『WASOBI』
ถึงแม้ว่าภายในโอซาก้านี้จะมีร้านเช่าชุดกิโมโนอยู่มากมาย แต่ร้าน「WASOBI」นี้ถือได้ว่าเป็นร้านที่ “ตั้งอยู่ในจุดที่เดินทางสะดวก” “ราคาสมเหตุสมผล” และ “การบริการที่ดี” ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อออกจากสถานีฮนมาจิจากประตูหมายเลข 16 เดินข้ามไปยังตึก SEMBA CENTER BLDG 10 ร้านจะอยู่ที่ชั้น 1F ภายในร้านจะมีแพลนต่างๆ ให้เลือกอย่างเช่น แพลนใส่ชุดกิโมโน 1 ชั่วโมง（2000 เยน）หรือ แพลนที่สามารถเช่าชุดกิโมโนได้ถึงเที่ยงของอีกวันเพื่อเพลิดเพลินกับการเดินเล่นสวมชุดกิโมโนยามค่ำคืนกับแพลน 1 คืน 2 วัน（8500 เยน）ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกใช้บริการได้ตามความชอบ จะได้ใส่ชุดกิโมโนท่องเที่ยว และถ่ายรูปคู่กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซาก้า ทั้งปราสาทโอซาก้า ย่านโดทงโบริ หรือศาลเจ้านัมบะยาซากะ แบบได้บรรยากาศการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
และพิเศษสุดๆ เลยก็คือ แบบฟอร์มการจองของที่ร้านยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย ซึ่งวิธีการจองก็ง่ายนิดเดียว เพียงกรอกแพลน และวันเวลาที่ต้องการเช่าชุด พร้อมกรอกข้อมูลทั่วไปต่างๆ อย่างเช่นที่อยู่ที่พักเท่านั้น
『แบบฟอร์มการจองเช่าชุดกิโมโนร้าน “WASOBI”』
เมื่อเข้าไปในร้านแล้ว ก็กรอก “ใบลงทะเบียน” เพื่อเป็นการเช็คอินเลย โดยกรอกชื่อ ที่อยู่ และแพลนที่เลือก จากนั้นก็ทำการชำระเงิน ซึ่งที่ร้านจะรองัรบการชำระเงินด้วย เงินสด บัตรเครดิต และการชำระเงินผ่านทาง LINE PAY เป็นต้น
เมื่อทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปใส่ชุดกิโมโนกันเลย และนี่ก็คือทีมพี่ๆ ที่จะช่วยมาแปลงโฉมให้เราในวันนี้
ภายในร้านก็จะมีชุดกิโมโนให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน พร้อมอุปการณ์เสริมต่างๆ อีกมากมายทั้งผ้ารัดชุดกิโมโน รองเท้าเกี๊ยะ และกระเป๋าที่มีแบบให้เลือกมากมาย ลวดลายก็จะมีทั้งแบบเรียบๆ ไปจนถึงลวดลายสีสันสดใส หรือหากเพื่อนๆ เลือกไม่ถูกก็สามารถให้พนักงานช่วยคิดให้ก็ได้เช่นกัน เพราะว่าพี่ๆ ที่มาแต่งชุดให้เราเป็นมืออาชีพ สามารถให้มืออาชีพเลือกชุดให้เข้ากับฤดูกาล หรือรวมองค์ประกอบให้ดูดีได้อีกด้วย
และในครั้งนี้เราได้ชวน Mong-Chan เพื่อนของเราที่อยู่เกียวโตมาร่วมทริปในครั้งนี้กับเราด้วย ตื่นเต้นจังเลยว่า Mong-Chan แต่งชุดกิโมโนแล้วจะเป็นยังไงบ้าง !?
สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่เคยสวมชุดกิโมโนมาก่อน ก็จะได้ตื่นตากับการใส่ชุดวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่มีระเบียบการแต่งชุดซับซ้อน และประณีต หลากหลายขั้นตอนมากๆ และเมื่อสวมชุดกิโนเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปทำผมกันเลย(ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 500 เยน) ไปแต่งหน้าที่ห้องแต่งหน้ากันเลย
เสร็จแล้ว !!!! Mong-Chan สวยมากๆ เลย ทั้งหน้าผมและชุดเข้ากันมากๆ
เมื่อสวมชุดกิโมโนเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปที่สตูดิโอ เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันเลย สามารถให้พนักงานถ่ายรูปที่มุมต่างๆ ด้วยมือถือ หรือกล้องของเราได้เลย ฉากต่างๆ ก็เหมือนได้ไปเที่ยวป่าไผ่ที่เกียวโต หรือห้องแบบญี่ปุ่นที่ได้บรรยากาศและเข้ากับชุดสุดๆ
นอกจากนี้ยังมีฉากปราสาทโอซาก้าในช่วงดอกซากุระบานอีกด้วย สำหรับเพื่อนๆ ที่ซื้อแพลนแบบ 1 ชั่วโมงก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ภายในสตูดิโอมีฉากให้เลือกมากมาย ทั้งสมจริง ได้บรรยากาศ และเข้ากับชุดกิโมโนสุดๆ ไปเลยค่ะ ส่วนเพื่อนๆ ที่อยากสวมชุดกิโมโนเดินเที่ยวภายในเมืองโอซาก้า ร่วมถ่ายรูปกับวิวต่างๆ ในสถานที่จริง ซัก 1-2 สถานที่ภายในเมืองโอซาก้า ก็สามารถซื้อแพลนแบบ 3 ชั่วโมง（3000 เยน）หรือ แพลนแบบหนึ่งวัน（คืนชุดภายในเวลา 18:30 น. 5000 เยน）เป็นต้น
ถ่ายรูปที่หน้าร้านอีกนิดหน่อย ก็ออกเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองโอซาก้าด้วยชุดกิโมโนสวยๆ กันเลย และสถานที่แรกของวันนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนมาร์กของโอซาก้าอย่าง “ปราสาทโอซาก้า” ซึ่งการเดินทางจากร้านเช่าชุดกิโมโน「WASOBI」ที่ฮนมาจิ ไปยัง “ปราสาทโอซาก้า” นั้นเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายชูโอ(Chuo Line) จะสะดวกที่สุด หากเพื่อนๆ คนใดมีสัมภาระขนาดใหญ่ ก็สามารถฝากสัมภาระเอาไว้ที่ร้านได้ฟรี เดินเที่ยวแบบตัวปลิว สบายๆ เลยค่ะ
ออกจากร้านเดินกลับไปตามทางเดิมเพื่อเข้าไปในสถานีจากประตูหมายเลข 16 และผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วด้วย “Enjoy eco card ticket 1 day” จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนไป เพื่อไปที่ชานชาลารถไฟสายชูโอ(Chuo Line) โดยจะต้องขึ้นรถไฟจากชานชาลาหมายเลข 1 รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่「MORINOMIYA・GAKKEN NARA TOMIGAOKA」
นั่งรถไฟไปลงที่สถานีใกล้ปราสาทโอซาก้า ที่ “สถานีทานิมาจิ 4 โจเมะ”「TANIMACHI 4 CHOME STATION」หรือ “สถานีโมริโนมิยะ”「MORINOMIYA STATION」สายชูโอ(Chuo Line) ไม่ว่าสถานีไหนก็สามารถเดินไปยังปราสาทโอซาก้าได้ โดยเราเลือกลงที่ “สถานีโมริโนมิยะ” นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีฮนมาจิ ไปยังสถานีโมริโนมิยะ 3 สถานี ใช้เวลาในการเดินทาง 6 นาที
เมื่อถึง “สถานีโมริโนมิยะ” แล้วก็เดินไปทางด้านหลัง เพื่อขึ้นบันไดเลื่อนไป และผ่านออกจากช่องตรวจตั๋ว เมื่อผ่านออกมาแล้วก็ขึ้นบันไดที่อยู่เยื้องไปทางซ้ายมือ เพื่อเดินไปทาง “สวนปราสาทโอซาก้า” กันเลย
และเมื่อขึ้นบันไดมา ก็จะเจอสวนปราสาทโอซาก้าอยู่ตรงหน้าเลย โดยบริเวณสวนปราสาทโอซาก้าที่กว้างใหญ่ อยู่รอบล้อมหอคอยปราสาทโอซาก้านี้ จะเป็นพื้นที่ที่สามารถสัมผัสบรรยากาศความสวยงามของฤดูกาลต่างๆ ได้ทั้งซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่ม พร้อมงานดอกไม้ไฟต่างๆ ในฤดูร้อน หรือใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งสวนปราสาทโอซาก้าแห่งนี้จะคึกคักไปด้วยผู้คนทั้งภายในเมือง คนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “หอคอยปราสาทโอซาก้า” พร้อมเที่ยวชมจุดต่างๆ ภายในสวนปราสาทโอซาก้าอย่างเช่น “ศาลเจ้าโฮโกกุ”「HOKOKU(豊国神社)」หรือ「JO-TERRACE OSAKA」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day1-2 KIMONO WASOBI/OSAKA CASTLE】
