เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day4-3 จบทริป! เดินทางเข้าสู่ “นาโกย่า” พร้อมกิน เที่ยว ช้อป ส่งท้ายทริป
TOKYO-FUJI-MISHIMA-SHUZENJI-SHIMIZU-MIHONOMATSUBARA-HAMAMATSU-NAGOYA
พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini』
พาสที่สามารถใช้นั่งเส้นทางระหว่าง อาตามิ-โทโยฮาชิ(Tokaido Main Line), นุมะซุ-มัตสึดะ(Gotemba Line)หรือ ฟูจิ-ชิโมเบะออนเซ็น(Minobu Line)รวมการนั่งรถไฟแบบด่วนพิเศษได้ไม่อั้น(ยกเว้นรถไฟแบบนอน)นอกจากนี้ยังสามารถใช้นั่งยานพาหนะอื่นๆ เช่น รถไฟ Izuhakone Railway(ทุกสายของสายซุนซึ Sunzu Line), รถบัสเพื่อใช้ท่องเที่ยว โกเทมบะ พรีเมียม เอ้าท์เล็ตส์ขนาดใหญ่ และ ทะเลสาบคาวากุจิ หรือ เรือเฟอร์รี่「The Suruga Bay Ferry」เพื่อนั่งเรือชมภูเขาไฟฟูจิจากทะเลได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพาสสุดคุ้มที่ให้เพื่อนๆ ได้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」มีอายุ 3 วัน ราคาเพียง 4500 เยนเท่านั้น แค่เพียงราคาตั๋วรถบัสไปกลับระหว่างโกเท็มบะ และ คาวากุจิโกะแบบปกติอยู่ที่ 3020 เยนและเรือเฟอร์รี่ The Suruga Bay Ferry(ราคาปกติ 2100 เยน)รวม 2 อย่าง อยู่ที่ 5300 เยน จะเห็นได้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้นั่งรถไฟใดๆ ก็คุ้มเกินทุน โดยครั้งนี้เราจะใช้พาสนี้ท่องเที่ยวแบบสุดคุ้ม เพื่อเดินทางจาก “ฮะมะมัตสึ” ไปยัง “นาโกย่า” กันค่ะ
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ท่องเที่ยวภายใน “สวนดอกไม้ฮะมะมัตสึ” เพื่อชมดอกไม้ของประเทศญี่ปุ่น พร้อมชมโชว์น้ำพุสุดอลังการไปแล้ว
Day4-2 เที่ยวชม “สวนดอกไม้ฮะมะมัตสึ”「HAMAMATSU FLOWER PARK」พร้อมทาน “ฮะมะมัตสึเกี๊ยวซ่า”
วันนี้ก็เป็นช่วงท้ายของการท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」กันแล้ว เราจะเดินทางจาก “ฮะมะมัตสึ” ไปยัง “นาโกย่า” ที่เราจะต้องเดินทางออกจากกรุงเทพ โดยจะช้อปปิ้งช่วงท้าย และทานหนึ่งในอาหารประจำเมืองนาโกย่า「NAGOYAMESHI」กับเมนู “มิโซะ นิโคมิ อุดง”「MISO NIKOMI UDON」ในมื้อค่ำกันก่อนเดินทางไปสนามบินกันค่ะ
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจาก “ฮะมะมัตสึ” ไปยัง “นาโกย่า” พร้อมช้อปปิ้งและทานอาหารค่ำกันค่ะ
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ทาน “ฮะมะมัตสึเกี๊ยวซ่า” ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของฮะมะมัตสึแล้ว ตอนนี้ก็เป็นช่วงท้ายของการท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」แล้ว เราจะออกเดินทางจาก “ชิซุโอะ” ที่เราท่องเที่ยวไปทั้งหมด 3 วัน เพื่อเดินทางไปยังสนามบินที่อยู่ในนาโกย่ากันค่ะ ถึงแม้ว่าเส้นทางระหว่าง “ฮะมะมัตสึ” กับ “นาโกย่า” จะมีรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นวิ่งตรงอยู่ แต่เราสามารถใช้「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ในเส้นทางรถไฟทั่วไปไปจนถึง “สถานีโทโยฮาชิ” โดยเราจะนั่งรถไฟ JR สายโทไคโด JR TOKAIDO LINE จาก “ฮะมะมัตสึ” ไปยัง “โทโยฮาชิ”(เส้นทางปกติ)ก่อนแล้วจึงเปลี่ยนเป็นรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นที่สถานีโทโยฮาชิ เพื่อมุ่งหน้าไปนาโกย่ากันค่ะ
เมื่อทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว เราจะออกจากร้าน「UOGASHI SUSHI」ไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ จนออกมาสู่ลานจุดนัดพบภายในสถานีฮะมะมัตสึและบริเวณด้านซ้ายมือลานจุดนัดพบจะมีช่องตรวจตั๋วที่เขียนว่า「JR線のりば JR Line」อยู่ สามารถแสดง「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ได้ที่ช่องตรวจตั๋วริมขวาสุดเพื่อผ่านเข้าไปที่ชานชาลาได้เลย
ซึ่งชานชาลาของรถไฟสายโทไคโด Tokaido Line ที่มุ่งหน้าไปสู่ “โทโยฮาชิ” จะออกจากชานชาลาหมายเลข 3・4 โดยผ่านช่องตรวจตั๋วและขึ้นบันไดไปจะอยู่ขวามือเลย
รถไฟในช่วงระหว่างสถานีฮะมะมัตสึ ไปยัง สถานีโทโยฮาชิจะวิ่งชั่วโมงละ 3 เที่ยว รถไฟแบบธรรมดาจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 35 นาที(ขึ้นอยู่กับรถไฟ)
『ตารางเวลารถไฟจากสถานีฮะมะมัตสึ』
ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้นั่งทางฝั่งซ้ายมือ เพราะว่าระหว่างทางจะได้ชมวิวทะเลสาบฮามานะ ที่เป็นสถานที่เพาะเลี้ยงปลาไหลอุนางิชื่อดังได้อย่างสวยงาม
พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ที่เราใช้ในครั้งนี้ ช่วงเส้นทางสุดท้ายของครั้งนี้ก็คือ “สถานีฮะมะมัตสึ” ไปยัง “สถานีโทโยฮาชิ” เราจะไปดูกันว่าได้ใช้พาส 3 วัน ราคา 4500 เยนนี้ไปคุ้มแค่ไหน
สถานีมิชิมะ – สถานีโกเท็มบะ(ไปกลับ):1160 เยน
สถานีโกเท็มบะ – ทะเลสาบคาวางุจิ:1510 เยน
หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก – สถานีโกเท็มบะ:1280 เยน
สถานีมิชิมะ – สถานีชูเซ็นจิ:510 เยน
สถานีชูเซ็นจิ – ชูเซ็นจิ ออนเซ็น:220 เยน
Shuzenji Onseniriguchi Bus Stop – ท่าเรือโทอิ:1320 เยน
ท่าเรือโทอิ – ท่าเรือชิมิสึ(เรือเฟอร์รี่ The Suruga Bay Ferry):2100 เยน
Hatoba-Verkehr Bus Stop – Mihono Matsubara Iriguchi:300 เยน
Mihono Matsubara Iriguchi – สถานีชิมิสึ:360 เยน
สถานีชิมิสึ – สถานีฮะมะมัตสึ:1490 เยน
สถานีฮะมะมัตสึ – Shiyakushomae:120 เยน
Shiyakushomae – Hamamatsu Flower Park:520 เยน
Hamamatsu Flower Park – สถานีฮะมะมัตสึ:560 เยน
สถานีฮะมะมัตสึ – สถานีโทโยฮาชิ:670 เยน
Total:12120 เยน
ไม่น่าเชื่อเลยว่าค่าเดินทางที่เราใช้ไปราคา 3 เท่าของราคาพาสเลย คุ้มมาก !
ออกจากสถานีฮะมะมัตสึมา 36 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึงสถานีโทโยฮาชิเป็นที่เรียบร้อย เมื่อถึงสถานีโทโยฮาชิแล้วก็เดินไปทางด้านหน้าและขึ้นบันไดไปเปลี่ยนเป็นรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นเลย และบริเวณด้านขวามือช่องเปลี่ยนเส้นทางรถไฟชินคันเซ็นจะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติซึ่งเราจะต้องซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นจากสถานีโทโยฮาชิ ไปยังนาโกย่า(2300 เยน)(รับบัตรเครดิต)พร้อมแสดง「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」เพื่อผ่านเข้าไปในช่องตรวจตั๋วได้เลย
รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น ที่ออกจากสถานีโทโยฮาชิ มุ่งหน้าไปยังนาโกย่านั้นจะออกจากชานชาลาหมายเลข 13 เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วมาแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ที่ชานชาลาหมายเลข 13 เลย
รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น จาก “สถานีโทโยฮาชิ” ไปยัง “สถานีนาโกย่า” ในช่วงเวลา 9:00 – 20:00 จะมีรถไฟวิ่งอยู่ทั้งหมดรวมเป็น 2 ชั่วโมงละ 5 เที่ยวคือ
(จอดทุกสถานี)KODAMA:1 ชั่วโมงละ 2 เที่ยว
(รถด่วน)HIKARI:2 ชั่วโมงละ 1 เที่ยว
『ตารางเวลารถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นจากสถานีโทโยฮาชิ』
รถไฟ New Rapid ในเส้นทางปกติจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 52 นาที แต่ถ้าเป็น KODAMA จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที ส่วน HIKARI จะใช้เวลาเดินทางเพียง 19 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าสามารถประหยัดเวลาได้พอสมควรเลย
ที่นั่งแบบธรรมดาจะถูกแบ่งออกเป็น 3 แถวและ 2 แถว รวมเป็น 5 แถว ซึ่งที่นั่งนี้สามารถหมุนได้โดยเหยียบแป้นที่อยู่ใต้พนักที่นั่ง ยิ่งถ้ามากันเป็นกลุ่มยิ่งได้นั่งคุยกันระหว่างเดินทางเลยค่ะ และบริเวณที่นั่งติดหน้าต่างในที่นั่ง A・E จะมีปลั๊กไฟให้เสียบชาร์ตแบตได้อีกด้วย
ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN ได้เลือกนั่งรถไฟ KODAMA ใช้เวลาเดินทางจาก “สถานีโทโยฮาชิ” มาสถานีนาโกย่าเพียง 31 นาทีเท่านั้น
ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย เราจะขอแวะช้อปปิ้งที่บริเวณสถานีนาโกย่ากันก่อน โดยเฉพาะย่านประตูทางออกซากุระโดริ SAKURADORI-GUCHI ที่มีห้างใหญ่ๆ มากมายทั้ง「JR NAGOYA TAKASHIMAYA」「MEITETSU DEPARTMENT STORE」หรือ「MIDLAND SQUARE」เป็นต้น
โดยลงจากรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นไปทางด้านหน้า และลงบันไดไปผ่านช่องตรวจตั๋ว「NORTH EXIT」ให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือ เพื่อไปทาง “ประตูทางออกซากุระโดริ”「SAKURADORI-GUCHI」เลย
ตอนนี้เราก็อยู่ที่ย่าน SAKURADORI-GUCHI สถานีนาโกย่าที่ได้รับความนิยม มีห้างใหญ่ๆ ที่มีทั้งร้าน 「Onitsuka Tiger」「BAOBAO ISSEY MIYAKE」หรือ「Bic Camera」ที่น่าสนใจอยู่มากมาย ซึ่งเราเคยได้พูดถึงย่าน SAKURADORI-GUCHI สถานีนาโกย่ากันไปแล้วในทริปอื่น
อ่านรีวิว คลิ๊กเลย ! 『เที่ยว กิน ช้อปภายใน “นาโกย่า” ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย』
หลังจากช้อปปิ้งที่ย่าน SAKURADORI-GUCHI สถานีนาโกย่าแล้ว ก็ไปทานอาหารมื้อสุดท้ายของทริปนี้กันเลย โดยเดินออกจากช่องตรวจตั๋วรถไฟชินคันเซ็นประตูเหนือไปทางขวามือ ซึ่งประตู SAKURADORI-GUCHI จะอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยมีสถานีกลั้นกลาง ไปทาง TAIKO DORI เมื่อออกจากประตู TAIKO DORI แล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ และลงบันไดเลื่อนไปที่ย่านใต้ดิน「ESCA」กันเลย เมื่อลงมาที่ย่านใต้ดิน「ESCA」แล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ จนสุดทางสามแยกและเดินไปทางขวามือ และเดินไปจนสุดทางก็จะเจอร้าน “มิโซะอุดง” อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับร้าน 「YAMAMOTOYA HONTEN(ESCA)」อยู่ซ้ายมือเลย
“ร้านอาหารยามาโมโตะยะ” 『YAMAMOTOYA HONTEN(ESCA)』
เป็นร้านดูดีที่ให้ความรู้สึกเหมือนคาเฟ่ ภายในร้านมีที่นั่งกว่า 60 ที่นั่ง และจะมีที่นั่งโต๊ะ 4 คน 6 คนอยู่บริเวณรอบๆ โต๊ะขนาดใหญ่ที่อยู่กลางร้าน ซึ่งร้านนี้เป็นร้านอาหารภายในนาโกย่าที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากไปตอนคนเยอะมากๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาพีคไปนะคะ
ร้าน YAMAMOTOYA HONTEN(ESCA) ที่ตั้งอยู่ใกล้ช่องตรวจตั๋วรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ไม่น้อย นอกจากจะมีเมนูภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีรูปภาพประกอบอีกด้วย เพราะฉะนั้นแม้แต่ชาวต่างชาติก็สามารถสั่งอาหารได้ง่ายๆ เลย
วันนี้ ICHIGO-CHAN สั่งเป็นเมนู “นาโกย่านิโคมิอุดงเนื้อไก่โคชิน”「COCHIN IRI MISO NIKOMI UDON」(2100 เยน+ภาษี)กับอุดงร้อนๆ ที่เสริฟ์แบบหม้อดิน เดือดปุดๆ สีของน้ำซุปจะเป็นสีเข้มที่หน้าตาธรรมดาแต่ถ้าลองได้ทานแล้วรับรองจะต้องติดใจอย่างแน่นอน
เป็นเมนูซุปมิโซะเข้มข้น กับเส้นหนา ร้อนๆ ที่รสชาติเข้ากันสุดๆ ถ้าทานโดยตรงเลยอาจจะร้อนมากๆ เพราะฉะนั้นตักมาพักไว้ในจานแบ่งทาน จะยิ่งทานได้ง่ายยิ่งขึ้น ภายในซุปก็จะมีทั้ง “เนื้อไก่โคชิน” ขึ้นชื่อของนาโกย่า กับเมนู “นาโกย่านิโคมิอุดงเนื้อไก่โคชิน” เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่จะได้สัมผัสกับอาหารนาโกย่าได้อย่างเต็มที่มากๆ
การชำระเงินของที่ร้านสามารถชำระเงินได้ด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิต ถึงจะช้อปปิ้งเพลินจนเงินหมดก็จ่ายบัตรได้ไม่ต้องกังวลเลย
หลังจากที่ได้ทาน “มิโซะ นิโคมิ อุดง” ไปจนเต็มอิ่มก็ได้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยกันแล้ว โดยเราจะเดินทางจากสถานีรถไฟเมเท็ตสึสถานีนาโกย่า ไปท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ด้วยรถไฟเมเท็ตสึ โดยใช้เวลาเดินจากร้านอาหารยามาโมโตะยะ YAMAMOTOYA HONTEN(ESCA) ไปยังสถานีรถไฟเมเท็ตสึสถานีนาโกย่าเพียง 7-8 นาทีเท่านั้น ออกจากร้านไปทางขวามือ และเลี้ยวขวาที่แยกใหญ่ที่สอง จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็จะออกมาสู่ลานจุดนัดพบสถานีนาโกย่าเลย เมื่อออกมาสู่ลานจุดนัดพบสถานีนาโกย่าแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอลานกว้างที่มี “นาฬิกาทอง”「KIN NO TOKEI」อยู่ให้เลี้ยวไปทางขวามือ
เลี้ยวขวาที่แยกลานกว้างนาฬิกาทองก่อนถึงลานกว้างไป ก็จะเจอประตู「HIROKOJI GUCHI」ให้เลี้ยวซ้ายที่นี่เพื่อออกไปนอกอาคารสถานี จากนั้นข้ามทางม้าลายไปก็จะเจอบันไดทางเข้า “สถานีรถไฟเมเท็ตสึนาโกย่า”「MEITETSU NAGOYA STATION」อยู่ทางด้านขวามือทันที
เมื่อลงบันไดมาแล้ว จุดขายตั๋วรถไฟจะอยู่ซ้ายมือทันที
ก่อนอื่นจะต้องทำการเช็คราคาค่าเดินทางจากบอร์ดแผนผังรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วกันก่อนค่ะ โดยค่าเดินทางไปสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu Centrair International Airport(Nagoya)จะอยู่ที่ 870 เยน เมื่อเช็คราคาเรียบร้อยแล้ว ก็ใส่เงินเข้าไปในช่องใส่เงินเลยค่ะ จากนั้นก็กดปุ่มราคาบนหน้าจอคือ 870 เท่านี้ก็เรียบร้อย
ซึ่งหากเพื่อนๆ คนไหนต้องการเช็คราคาตั๋วล่วงหน้าก็สามารถค้นหาได้ทางเว็บไซต์เพียงแค่กรอก สถานีต้นทาง และสถานีปลายทางเท่านั้น อ่านรายละเอียดได้ที่นี่
คลิ๊กเลย !『การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้』
นอกจากนี้หากไปกันเป็นกลุ่มใหญ่เกิน 10 คนก็สามารถซื้อตั๋วแบบคูปองในราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อยได้อีกด้วย นั่นก็คือ ตั๋วคูปองที่เรียกว่า “ไคซูเค็น KAISUUKEN (回数券)” สามารถอ่านรายละเอียดวิธีการซื้อได้ที่นี่
คลิ๊กเลย !『ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ』
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปเลย จากนั้นขึ้นบันไดเล็กๆ ที่อยู่ซ้ายมือเพื่อไปที่ชานชาลา รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu International Airport(Nagoya)จะออกจากชานชาลาหมายเลข 4 ซึ่งที่ชานชาลาหมายเลข 4 จะมีรถไฟอื่นๆ ออกตัวจากชานชาลานี้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาขึ้นรถไฟต้องสังเกตุให้ดูก่อนขึ้นนะคะ ถ้าพลาดอาจทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทันเลย
รถไฟที่มุ่งหน้าไปสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu Centrair International Airport(Nagoya)จะมีอยู่หลากหลายแบบทั้ง Rapid Limited Express μ- SKY, Limited Express, Express และ Semi-Express ซึ่งทุกคันจะเป็นแบบ Reserved Seat โดยครั้งนี้เราจะใช้เป็น รถไฟด่วนพิเศษค่ะ ภายในรถไฟด่วนพิเศษจะเป็นที่นั่งแบบ CROSS SEAT ที่หันหน้าเข้าหากัน รวมเข้ากับที่นั่งแบบแถวยาว ถือว่าเป็นแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันนบ่อยๆ ถ้ามากันเป็นกลุ่มก็แนะนำว่าให้รีบนั่งแบบ CROSS SEAT ไว้เลยนะคะจะได้หันหน้าคุยกัน
รถไฟด่วนพิเศษจะใช้เวลาเดินทางมาที่สนามบิชูบุเซ็นแทรร์เป็นระยะเวลา 33 นาที เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินขึ้นทางสโลปไปเพื่อไปเคาน์เตอร์เช็คอินที่อยู่ซ้ายมือเลย
ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ (นาโกย่า) Chubu International Airport (Nagoya) เปรียบเสมือนประตูหน้าบ้านของภาคชูบุ (ตอนกลางของญี่ปุ่น) ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ที่มีเสน่ห์มากมาย ทั้ง “ชิซุโอกะ” “ทาคายาม่า” “เส้นทางแอลป์” หรือ “อิเสะ” ฯลฯ อีกมากมาย นอกจากนี้ภายในสนามบินเองก็ยังมีเมืองเก่าจำลอง「CHOUCHIN YOKOCHO(ちょうちん横丁)」หรือ ช้อปปิ้งสตรีท「RENGA DORI(レンガ通り)」ที่มีทั้ง UNIQLO และร้านขายของฝากต่างๆ มากมาย อีกทั้งยังมี「FUU NO YU(風の湯)」บ่อออนเซ็นอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่สามารถผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นได้พร้อมๆ กับการชมวิวเครื่องบินขึ้นลง สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ได้ส่งท้ายทริปเลย
ครั้งนี้เราจะเดินทางกลับประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เมื่อเข้ามาภายในเทอร์มินอลของสนามบินแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ ถัดไป 2 เคาน์เตอร์ที่เคาน์เตอร์ F สามารถเช็คอินได้ที่เคาน์เตอร์ที่มีพนักงานประจำการอยู่เลยค่ะ
รอบบินตรงไปจากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ไปยังประเทศไทยในรอบกลางคืนจะมีสายการบินไทยเพียงรอบเดียวเท่านั้น ต่างจากสนามบินคันไซ หรือสนามบินฮาเนดะที่คนจะเยอะมากๆ ในช่วงรอบดึก เพราะฉะนั้นสามารถผ่านเข้าเช็คกระเป๋าและตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วมากๆ
ครั้งนี้เราได้ท่องเที่ยวด้วยพาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」เพื่อเดินทางจาก “โตเกียว” เที่ยวชม “ภูเขาฟูจิ”, บริเวณตะวันตกของอิซุที่โด่งดังเรื่องวาซาบิ,ชมวิวภูเขาฟูจิ พร้อมต้นสนญี่ปุ่นและทะเลที่สวยงามจาก “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” และท่องเที่ยวเมืองแห่งอุนางิที่ “ฮะมะมัตสึ” เรียกได้ว่าเป็นทริปที่สามารถท่องเที่ยวรอบๆ “ชิซุโอกะ” ได้เต็มที่และคุ้มมากๆ โดยครั้งนี้เราได้ใช้พาสเดินทางไปทั้งหมด 12120 เยน ในราคาพาสเพียง 4500 เยนเท่านั้น คุ้มมาก ! ซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นยังมีพาสสุดคุ้มแบบนี้อยู่อีกมากมาย แล้วในทริปหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาสแบบไหน อย่าลืมติดตามการท่องเที่ยวด้วยพาสสุดคุ้มของทาง ICHIGO-JAPAN แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า♪
【ตารางการเดินทาง Day4-3 NAGOYA】
PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini”