เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-2 เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจระหว่าง “ทาเทยาม่า” ถึง “มูโระโด” ในเส้นทางอัลไพน์「TATEYAMA KUROBE ALPINE ROUTE」
NAGOYA- TAKAYAMA- SHIRAKAWAGO- TOYAMA- ALPENROUTE- MATSUMOTO- TSUMAGOJUKU- NAGOYA
พาสสุดคุ้มที่ใช้ในการท่องเที่ยวในทริปนี้ก็คือ พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass』
หากเดินทางจากประเทศไทย บินตรงมายัง “นาโกย่า” สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยัง “เกโระออนเซ็น Gero Onsen” ที่อยู่ท่ามกลางหมู่เขา “ฮิดะทาคายาม่า” “โทยามะ” หรือ เส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง เมืองพักแรมที่เรียกว่า “คิโซะจิ KISOJI” อย่าง “เส้นทางอัลไพน์” “มัตสึโมโตะ” “นาราอิจุกุ” หรือ “ซึมาโกะจุกุ” ได้เท่านั้นไม่พอยังสามารถ นั่งยานพาหนะของเส้นทางอัลไพน์ได้ไม่อั้นอีกด้วย(อย่างเช่น กระเช้าลอยฟ้า เป็นต้น)
ยกตัวอย่างการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟ「LIMITED EXPRESS WIDE VIEW HIDA」จาก นาโกย่า ไป โทยามะ ราคาปกติจะอยู่ที่ 7650 เยน(ช่วงเวลาปกติ・Reserved Seat)และนั่งรถไฟจากโทยามะ ไปจนถึงเส้นทางอัลไพน์ และผ่านเข้าสู่เมือง Shinano Omachi(信濃大町) ฝั่งจังหวัดนางาโนะ ปกติอยู่ที่ 10,850 เยน รวมราคาแล้วเป็น 18,500 เยน แค่คิดเพียงเท่านี้ก็แทบจะคืนทุนได้เลยทีเดียว
ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยวสุดคุ้มในเส้นทางธรรมชาติ “เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ”「TATEYAMA KUROBE ALPINE ROUTE」สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการชมการเดินทางตั้งแต่ต้นสามารถคลิ๊กไปสู่ ท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」5 วัน 3 คืน เพื่อร่วมเดินทางไปกับเราได้เลย
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้นั่งรถไฟชมวิวธรรมชาติระหว่างทางจาก “โทยาม่า” มาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตอนนี้ก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีทาเทยาม่า” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอัลไพน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งทริปในครั้งนี้เป็นการท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ในตอนที่ 9 โดยตอนนี้เราจะพาเพื่อนๆ นั่ง เคเบิ้ลคาร์ และรถบัส เพื่อเดินทางไปยัง “มูโระโด” ที่อยู่จุดสูงสุดของเส้นทางบนความสูง 2450m ซึ่ง “มูโระโด” ในเส้นทางอัลไพน์นี้เป็นสถานที่ที่เพื่อนๆ สามารถเที่ยวชม กำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ” 「YUKI NO OTANI(雪の大谷)」ได้ในช่วงเดือนเมษายน ไปจนถึงเดือนมิถุนายน และนอกจากนี้ยังสามารถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามปลอดโปร่ง เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถสัมผัสได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
“สถานีทาเทยาม่า” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอัลไพน์ จากจุดนี้เราจะนั่ง เคเบิ้ลคาร์ และรถบัส ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่ 2450m ที่ “มูโระโด” โดยก่อนอื่นเราจะนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปก่อน ซึ่งเราจะต้องนั่งเคเบิ้ลคาร์จาก “สถานีทาเทยาม่า Tateyama Station” ไป “สถานีบิโจไดระ Bijodaira Station” เป็นระยะทางเพียง 1.3km ระยะความสูง 500m นักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดที่เดินทางมาจากโทยาม่าจะต้องใช้เคเบิ้ลคาร์ในการเดินทางเข้าสู่เส้นทางอัลไพน์ เพราะฉะนั้นคนจะเยอะมากๆ โดยเฉพาะช่วงที่สามารถชมกำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ”「YUKI NO OTANI(雪の大谷)」ในช่วงเดือนเมษายน ไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายน และช่วง “ใบไม้เปลี่ยนสี” ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ไปจนถึงเดือนตุลาคม หลักๆ ในช่วงวันหยุด อาจต้องรอนานถึง 1-2 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้จองตั๋วที่สถานีโทยาม่าเอาไว้เลยจะสะดวกที่สุด
เมื่อเคเบิ้ลคาร์ออกตัวจากสถานีทาเทยาม่ามาแล้วก็จะเป็นทางขึ้นเขาชันไปเรื่อยๆ และที่บริเวณด้านล่างห้องโดยสารจะมีที่วางของอยู่ในวงกลมสีเหลืองตามภาพล่างซ้าย โดยปกติแล้วส่วนนี้จะมีไว้สำหรับขนย้ายวัสดุ หรืออาหารต่างๆ ที่ต้องใช้ในแต่ละสถานที่ที่อยู่บนเขา ซึ่งเดิมทีส่วนนี้เคยใช้ขนรถบัสที่ใช้ในการเดินทางในเส้นทางบนเขาอีกด้วยค่ะ
เคเบิ้ลคาร์ก็จะค่อยๆ เคลื่อนผ่านอุโมงค์ไปหลายจุด นั่งไปประมาณ 7 นาที ก็ถึง “สถานีบิโจไดระ” เลยค่ะ
เมื่อลงเคเบิ้ลคาร์ที่สถานีบิโจไดระแล้ว ก็ลงบันไดชันไปและตรงไปเรื่อยๆ และข้างหน้าจะมีจุดขึ้นรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ “มูโระโด” ที่อยู่จุดสูงสุด(ความสูงประมาณ 2450m)ในเส้นทางอัลไพน์ ทาเทยามะ คุโรเบะ เลย ต่อแถวเพื่อรอขึ้นรถได้เลย จากตรงนี้จะใช้เวลาเดินทางด้วยรถบัสไป “มูโระโด” อีกประมาณ 50 นาที
รถบัสจะออกจาก “บิโจไดระ” ที่อยู่บนความสูง 1000m เพื่อขึ้นไปสู่ “มูโระโด” ที่อยู่บนความสูง 2450m นั่นหมายความว่ารถบัสจะใช้เวลาประมาณ 50 นาทีเพื่อขึ้นไปเป็นระยะ ควาสูง 1450m เลยทีเดียว ระหว่างทางจะมีทิวทัศน์ที่งดงาม อย่าง “มิดะงะฮาระ弥陀ヶ原” และกำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ”「YUKI NO OTANI(雪の大谷)」ซึ่งวิวเหล่านี้สามารถชมได้จากภายในรถบัสเลยค่ะ
ซึ่งรถบัสระหว่างเส้นทางจาก “บิโจไดระ” ไป “มูโระโด” จะใช้รถบัสแบบนำเที่ยว ที่ไม่ว่านั่งที่นั่งใดก็สามารถชมวิวธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบได้ ถ้าเป็นไปได้แนะนำเป็นที่นั่งทางฝั่งซ้ายมือ เพราะว่าระหว่างทางเราจะได้ชมน้ำตก「Shomyo Falls(称名滝)」ที่มีความสูงที่สุดในญี่ปุ่น(350m)ได้จาก「Takimidai(滝見台)」บนความสูง 1250m นั่นเอง
ออกจาก “บิโจไดระ” มาประมาณ 30 นาที ก็จะเดินทางมาสู่ “มิดะงะฮาระ” เป็นจุดที่สามรถเดินเล่นภายในที่ราบน้ำขัง ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม และนอกจากนั้น….
ที่ “มิดะงะฮาระ” ยังมีโรงแรม『Midagahara Hotel(弥陀ヶ原ホテル)』โดยสามารถเดินปีนเขาในทิวเขาทาเทยาม่าได้อย่างเต็มที่โดยใช้ที่นี่เป็นที่ตั้ง และถ้าโชคดีก็จะได้เห็นวิวทะเลเมฆอีกด้วย
และเมื่อเดินทางออกจาก “มิดะงะฮาระ” มาประมาณ 20 นาที ก็จะผ่านกำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ”「YUKI NO OTANI」ที่โด่งดัง ซึ่งเราจะได้เห็นกำแพงหิมะนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งกำแพงหิมะจะมีความสูงมากกว่า 10m เลยทีเดียว วิวหิมะที่ขาวโพลนตัดกับท้องฟ้าสดใส เป็นวิวที่สวยเกินคำบรรยายจริงๆ เลยค่ะ
นั่งรถบัสผ่านไป 50 นาที เราจะมาถึง “มูโระโด”「MURODO(室堂)」บนความสูง 2450m ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ไฮไลท์ของเส้นทางอัลไพน์ เนื่องจากที่นี่มีทั้ง กำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ” และมีจุดเดินชมภายในทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ “ทะเลสาบมิคุริงะ”「MIKURIGA IKE(みくりが池)」นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นท่ามกลางทิวเขาทาเทยาม่าที่ใช้เวลาเดินเที่ยวละ 2 ชั่วโมง และที่สำคัญคือที่ “มูโรโด” แห่งนี้จะมี「Murodo Tourist Information Center」ที่จะจัดทัวร์เที่ยวชมมูโระโด(500 เยน)วันละ 4 รอบ พร้อมรับแผ่นพับภาษาต่างๆ ที่มีภาษาไทยได้อีกด้วย
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเดินเที่ยวชมเส้นทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวกับเส้นทางไปจนถึง “ทะเลสาบมิคุริงะ”「MIKURIGA IKE(みくりが池)」กันค่ะ ใช้เวลาในการเดินจาก เทอร์มินอลบัสมูโระโด ไปถึง ทะเลสาบมิคุริงะ MIKURIGA IKE(みくりが池) เป็นเวลา 15 นาที หากใช้เส้นทาง「A」ที่อยู่ในแผนที่ ก็สามารถใช้เวลาเดินไปกลับเพียง 40-50 นาทีเท่านั้นก็สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างเต็มที่
ก่อนอื่นไปที่ทางออกมูโระโดไดระ「Exit(室堂平出口)」ที่ชั้น 3F จากบัสเทอร์นินอล โดยลงจากรถบัสไปทางซ้ายมือจนสุดทาง จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางก็จะเจอบันไดอยู่ทางขวามือ ขึ้นบันไดนี้เพื่อไปชั้นบนเลย บริเวณทางขึ้นบันไดจะมี “ที่ทำการไปรษณีย์ยอดเขาทาเทยาม่า” (POST OFFICE) อยู่ด้วย แน่นอนว่าสามารถส่งจดหมาย ส่งของได้ทั้งภายในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศอย่างประเทศไทยได้อีกด้วย ซึ่งหากส่งจดหมาย หรือโปสการ์ดจากที่นี่ก็จะได้ตราประทับสวยๆ จากที่นี่ตามรูปภาพล่างขวาเลยค่ะ
ไหนๆ ก็ได้มา “มูโระโด” ที่อยู่บนความสูง 2450m แล้ว ก็ลองส่งจดหมาย หรือโปสการ์ดเป็นของฝากให้ที่บ้าน หรือเพื่อนๆ ดูนะคะ
เมื่อขึ้นบันไดมาที่ชั้น 3 ก็จะมาสู่ทางออกมูโระโดไดระ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางเพื่อเดินเที่ยวชม「ยูกิโนะโอทานิ (雪の大谷)」「MIKURIGA IKE(みくりが池)」หรือ「ยอดเขาทาเทยาม่า」ซึ่งการจะเดินไปทางทะเลสาบมิคุริงะ MIKURIGA IKE(みくりが池) นั้นจะต้องเริ่มเดินจากเส้นทางด้านซ้ายมือ
เมื่อเดินออกมาซักพักก็จะมีหินสลักคำว่า「立山(ทาเทยาม่า)」ตัวโตที่มีพื้นหลังเป็นวิวทิวเขาทาเทยาม่าที่สวยงาม เป็นจุดถ่ายรูปที่ดีมากๆ เลยค่ะ เมื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกจากจุดถ่ายรูปไปทางขวามือ เพื่อเดินไปทาง “ทะเลสาบมิคุริงะ”「MIKURIGA IKE」 เลยค่ะ
เราจะเดินไป “ทะเลสาบมิคุริงะ” ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ด้านหน้าจะเห็นวิวทิวเขาทาเทยาม่า ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นเดือนกันยายนก็ยังคงมีหิมะหลงเหลืออยู่
ซึ่งปีนี้(2018)เป็นปีที่ช่วงที่อุณภูมิสูงติดต่อกันหลายวันเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จึงทำให้ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีช้าลงไปกว่าทุกๆ ปี โดยในทุกๆ ปี ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่จะอยู่ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนกันยายน หากได้มาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดีต้นไม้ใบหญ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง สวยงามมากๆ เลยทีเดียว
บริเวณรอบๆ “มูโระโด” ที่อยู่จุดสูงสุดนี้ จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีจากต้นไม้บนภูเขาสูงอย่าง 「Sorbus sambucifolia」「Sorbus matsumurana」「Acer tschonoskii」หรือ「Geum pentapetalum」ฯลฯ เป็นต้น ต่างจากต้นเมเปิ้ล หรือ ต้นแปะก๊วยทั่วไปที่สามารถพบเห็นได้ที่โตเกียว โอซาก้า หรือนาโกย่า นั่นเอง
หลังจากเดินออกจากมูโระโดเทอร์มินอลมาประมาณ 15 นาที ตอนนี้ก็ได้เดินทางมาถึงทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ “ทะเลสาบมิคุริงะ”「MIKURIGA IKE(みくりが池)」เป็นที่เรียบร้อย ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟแห่งนี้มีความลึกถึง 15m โดยสามารถชมความสวยงามของ “ทะเลสาบมิคุริงะ” ได้เฉพาะช่วงที่ไม่มีหิมะปกคลุม ในช่วงเดือนมิถุนายน ไปจนถึงช่วงพฤศจิกายนเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะได้ชมความสวยงามโดยรอบแล้ว ยังสามารถชมวิวรอบๆ ที่สะท้อนอยู่บนทะเลสาบที่กว้างใหญ่นี้ เป็นภาพที่สวยงามมากๆ เลยทีเดียว และนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ที่แห่งนี้ได้รับความนิยมทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั่นเอง
ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เที่ยวชมธรรมชาติโดยรอบ “ทะเลสาบมิคุริงะ”「MIKURIGA IKE(みくりが池)」พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจระหว่างเส้นทาง “มูโระโด Murodo” ไปยัง “คุโรเบะโกะ Kurobeko” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪
【ตารางการเดินทาง Day3-2 MURODO AND MIKURIGAIKE】