ROUND THE C･H･I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-4 ทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า “ฮิตสึมาบุชิ” ที่ร้าน ATSUTA HORAIKEN และเข้าพักโรงแรม「Sanco-inn Nishiki Shikinoyu」
INUYAMA-NAGOYA-MINOKAMO-NAGOYA
วันนี้ทั้งวัน ICHIGO-CHAN ได้เต็มที่กับงาน「World Cosplay Summit 2018」ตั้งแต่ งานแห่ขบวนพาเหรด「Osu-Cosplay Parade」ไปจนถึง「World Cosplay Summit 2018 Championship」ซึ่งตัวแทนจากประเทศไทยของเราก็ได้ที่ 3 ด้วย!!
ผ่านไปแล้วเป็นเวลา 4 วัน และแล้ววันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไปทานดินเนอร์มื้อดีหน่อยที่ร้าน「ATSUTA HORAIKEN」เพื่อทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับเมนู “ฮิตสึมาบุชิ”「HITSUMABUSHI(ひつまぶし)」
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทาน “ฮิตสึมาบุชิ” ที่ร้าน ATSUTA HORAIKEN และเข้าพักที่โรงแรม「Sanco-inn Nishiki Shikinoyu(三交イン錦 四季乃湯)」กันค่ะ
ซึ่งร้านอาหารที่เราจะไปทานดินเนอร์เป็น “ฮิตสึมาบุชิ” ในมื้อนี้คือร้าน「ATSUTA HORAIKEN」ที่อยู่ภายในห้างเก่าแก่ในซากาเอะที่นาโกย่า กับห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya ฝั่งตึกใต้ โดยการเดินทางจากตึก Oasis 21 สถานที่จัดงานหลักของงาน「World Cosplay Summit」ไปห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya นั้นสามารถเดินไปได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น ก่อนอื่นก็เดินออกจาก ตึก Oasis 21 ไปก็จะเห็นหอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์อยู่ทางขวามือ ให้เดินข้ามทางม้าลายไป จากนั้นก็เดินข้ามทางม้าลายไปทางฝั่งซ้ายมืออีกรอบ จากนั้นก็เดินไปทางขวามือ และก็จะเจอห้างสรรพสินค้าที่มีป้าย「MITSUKOSHI」ขนาดใหญ่อยู่บนหลังคา
เมื่อเดินมาจนถึงห้างสรรพสินค้า「MITSUKOSHI」แล้วก็เดินไปตามทางถนนใหญ่เรื่อยๆ โดยจะเห็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ เดินไปประมาณ 5 นาที ก็จะเจอ ห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya ที่มีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของญี่ปุ่น “โยโดบาชิ คาเมร่า” ภายในตึก อยู่ทางขวามือ
ซึ่งร้าน「ATSUTA HORAIKEN」ที่เราจะไปนั้นอยู่ที่ชั้น 10F ในห้างสรรพสินค้า『Matsuzakaya』 ฝั่งตึกใต้
ถึงแม้ว่าจะเป็นมื้อที่ดึกหน่อย แต่ที่ร้าน『ATSUTA HORAIKEN』 ก็มีคนรอต่อแถวอยู่ยาวเลย
มีนักท่องเที่ยวมากมายมารอทาน อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า “ฮิตสึมาบุชิ”「HITSUMABUSHI(ひつまぶし)」อยู่มากมาย ถึงแม้ว่าที่หน้าร้านจะมีลูกค้ารอต่อแถวยาวเหยียด แต่ร้านนี้เป็นร้านขนาดค่อนข้างใหญ่ที่มีพื้นที่รองรับลูกค้าอยู่เยอะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอนานมากเลยค่ะ
เมื่อเข้ามาในร้านก็ให้บรรยากาศที่สงบ เรียบหรู ที่นั่งมีหลายแบบทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ หรือแบบโต๊ะ ตั้งแต่ 4 คน 6 คน หรือโต๊ะใหญ่ที่สามารถรองรับแขกได้มากถึง 16 คนอีกด้วย
เมนูของร้านนั้นนอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีภาษาต่างประเทศกำกับอยู่อีกหลายภาษา ทั้งอังกฤษ จีน และเกาหลี น่าเสียดายที่ยังไม่มีภาษาไทย แต่ในเมนูจะมีรูปภาพประกอบอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นดูรูปสั่งได้สบายเลยค่ะ โดยเมนูอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า “ฮิตสึมาบุชิ”「HITSUMABUSHI(ひつまぶし)」（3600 เยน）ก็ยังคงเป็นเมนูยอดนิยม แต่นอกจากนี้ยังมี “ข้าวหน้าปลาไหล”「UNAGI DONBURI」（2900 เยน）หรือ “ชุดซาชิมิ” OSASHIMI TEISHOKU（2100 เยน）อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ
ส่วน ICHIGO-CHAN ก็สั่งเป็นเมนู “ฮิตสึมาบุชิ”「HITSUMABUSHI (ひつまぶし)」（3600 เยน）ซึ่ง “ฮิตสึมาบุชิ” นี้คือ การนำปลาไหลมาย่างจนได้ที่ และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปวางบนข้าวในภาชนะตามภาพ เพื่อตักแบ่งทาน โดยมีวิธีทานอยู่หลากหลายอย่างเช่น “การทานโดยตรง” “การทานคู่กับวาซาบิหรือสาหร่ายโนริ” นอกจากนี้ยังมีการทานแบบ “บุบุสึเกะ”「BUBUZUKE (ぶぶ漬け)」ด้วยการราดซุปทาน เป็นอาหารหนึ่งเมนูที่สามารถเพลิดเพลินได้หลากหลายรูปแบบเลยนะคะ
ภายในภาชนะขนาดใหญ่ก็จะมีข้าวหน้าปลาไหลหั่นบางอัดแน่นอยู่เต็มถ้วย เสิร์ฟพร้อมกับ ต้นหอม วาซาบิ ผักดอง และน้ำซุปสำหรับทานแบบบุบุสึเกะ
ก่อนอื่นเราจะทานแบบธรรมดากันก่อนเลย โดยตักแบ่งออกมาจากถ้วยส่วนหนึ่ง เพื่อลิ้มรสชาติปลาไหลอุนางิที่หอมหวานและเค็ม กลมกล่อม แค่ทานแบบธรรมดาก็อร่อยมากๆ แล้ว จนสามารถทานได้จนหมดจาน แต่เราจะลองทานแบบอื่นกันดูบ้าง โดยทานคู่กับสาหร่าย ต้นหอม และวาซาบิ
คราวนี้เราจะทานคู่กับต้นหอม สาหร่าย และวาซาบิอีกเล็กน้อย พอใส่ต้นหอมลงไปแล้ว ก็จะได้รสสัมผัสที่แตกต่างออกไป ซึ่งในการทานขั้นตอนนี้แนะนำว่าไม่ควรใส่วาซาบิเยอะเกินไปจนกลบรสชาติความหอมของปลาไหลอุนางิไปจนหมดนะคะ
หลังจากได้ทานแบบเพิ่มเครื่องแล้ว ต่อไปเราจะลองทานแบบ「บุบุสึเกะ」แบบราดซุป กันดูบ้าง ซึ่งการทานแบบนี้ก็อร่อยไปแพ้กันเลยค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่ามันจะเข้ากันรึเปล่า แต่พอได้ลองทานแล้ว รสชาติความหอมของอุนางิ ซอสหวานเค็ม ซุป และเครื่องที่ใส่ลงไป ได้รสวาซาบิเล็กน้อย เป็นความรู้สึกใหม่ๆ ที่พอได้ทานแล้วรู้สึกอร่อยมากๆ เลยค่ะ
แค่ “ฮิตสึมาบุชิ”「HITSUMABUSHI(ひつまぶし)」หนึ่งเมนู เราก็สามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานที่แตกต่างกันออกไปได้หลากหลาย ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองไปทานกันดูนะคะ
เมนู “ฮิตสึมาบุชิ”「HITSUMABUSHI(ひつまぶし)」เป็นอาหารชั้นดีขึ้นชื่อของนาโกย่า ราคาอยู่ที่ 3,600 เยน（≒1050THB）
ซึ่งทริปในครั้งนี้ของเราได้ทานทั้ง「โดเตะดง」ที่ “อินุยามะ” ทาน「มิยะคิชิเม็ง」「แกงกะหรี่ไก่นาโกย่าโคชินทอด」「มิโซะคัทตสึ」และปิดท้ายด้วย “ฮิตสึมาบุชิ”「HITSUMABUSHI(ひつまぶし)」เป็น 3 วันที่เราได้เพลิดเพลินกับ “อาหารนาโกย่า” ได้แบบเต็มอิ่มมากๆ ซึ่งนอกจากเมนูที่เราได้ทานในทริปนี้แล้ว อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ายังมีอีกมากมาย ทั้งปีกไก่ กุ้งทอด หรือ ราเม็งไต้หวัน ฯลฯ เป็นต้น จะมากี่ครั้งก็ไม่สามารถทานได้หมดทุกชนิดเลยค่ะ
หลังจากที่ได้ทาน “ฮิตสึมาบุชิ” ไปจนเต็มอิ่มแล้ว ต่อไปเราจะเดินทางไปเข้าพักที่โรงแรม「Sanco-inn Nishiki Shikinoyu」กันเลย โดยสามารถเดินจากห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya ฝั่งตึกใต้ ไป โรงแรม Sanco-inn Nishiki Shikinoyu ใช้เวลา 10 นาที
ออกจากห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya ฝั่งตึกใต้ไปทางซ้ายมือ เพื่อเดินไปทางหอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ เดินตรงไปเรื่อยๆ ไปจนถึงด้านล่างหอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ จากนั้นก็เลี้ยวซ้าย เมื่อเลี้ยวมาแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอโรงแรม「Sanco-inn Nishiki Shikinoyu」อยู่ทางขวามือเลย
ซึ่งโรงแรม『Sanco-inn Nishiki Shikinoyu』ตั้งอยู่ในจุดที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งจากหอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ มาเพียง 2 นาที และสามารถเดินจากตึก Oasis 21 หรือ สถานีรถไฟใต้ดินซากาเอะ ได้ภายใน 5 นาที
นอกจากจะได้ที่พักราคาถูกแล้ว ที่ชั้น 12F ยังมีห้องอาบน้ำออนเซ็นขนาดใหญ่ให้ได้ใช้บริการอย่างเต็มที่อีกด้วย
ก่อนอื่นก็ไปเช็คอินกันเลย เมื่อเข้าประตูทางเข้ามาแล้ว เดินไปทางขวามือ เพื่อไปที่เคาน์เตอร์เช็คอิน โดยกรอกข้อมูลต่างๆ ลงในใบทะเบียน ยื่นพาสปอร์ต และทำการชำระเงินให้เรียบร้อย เมื่อได้รับคีย์การ์ดและบัตรอาหารเช้าแล้วก็ไปที่ห้องพักกันเลย
ที่ข้างๆ ลิฟต์มีเครื่องชงกาแฟให้แขกที่เข้าพักได้ชงดื่มได้ฟรีๆ อีกด้วย
และนอกจากนี้ ที่เคาน์เตอร์เช็คอินจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บริการให้อีกด้วย อย่างเช่น แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ครีม โลชั่นเชฟวิ่ง หรือหวี ให้ได้เลือกใช้ตามความต้องการเลยค่ะ
ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN เลือกพักห้องทวินรูม ที่เป็นห้องแบบเรียบๆ กระทัดรัด และสะอาดสะอ้าน
เตียงเป็นแบบ Hollywood Twin เตียงนิ่มมากๆ บนเตียงมีชุดคลุม และผ้าขนหนูเตรียมไว้ให้ แน่นอนว่าชุดคลุมนี้ก็เพื่อใส่ไปห้องอาบน้ำออนเซ็นรวม ห้องซักผ้า ภายในโรงแรมได้เลย
วิวด้านนอกหน้าต่างก็เป็นวิวย่านแหล่งบันเทิงของซากาเอะ ซึ่งย่านซากาเอะเป็นย่านบันเทิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนาโกย่าตั้งอยู่ในกลางเมือง บริเวณโดยรอบโรงแรมจะมีทั้งร้านอิซากายะ บาร์ หรือร้านสแน็ค เรียงรายกันอยู่กว่าหลายสิบร้าน เปิดให้บริการจนถึงดึก แต่ก็มีระบบป้องกันเสียงอย่างดี เพราะฉะนั้นเวลาอยู่ในห้องก็จะไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากนอกห้องเลยค่ะ
นอกจากนี้ภายในห้องพักยังมีสมาร์ทโฟน「handy」ที่รองรับการโทรฟรีต่างประเทศได้มากถึง 12 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยค่ะ และแน่นอนว่ามือถือนี้รองรับภาษาไทยด้วยเพราะฉะนั้นสามารถใช้งานได้ไม่ยากเลยค่ะ
ซึ่งส่วนห้องน้ำจะรวมอยู่กับห้องอาบน้ำ แบบทั่วไป อาจจะไม่ได้กว้างขวางมาก แต่ก็มีขนาดกระทัดรัดกำลังพอดีสามารถอาบน้ำได้สบายค่ะ ถึงแม้ว่าแค่ส่วนอาบน้ำที่ห้องพักจะเพียงพอและพอดีแล้ว แต่…
ที่ชั้น 12F ของโรงแรมจะมีส่วนห้องอาบน้ำรวมบ่อออนเซ็นขนาดใหญ่ให้ผู้เข้าพักสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างเต็มที่ สามารถแช่ออนเซ็นไปพร้อมๆ กับวิวหอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ได้ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ซึ่งออนเซ็นในห้องอาบน้ำของที่นี่จะเป็นออนเซ็นสีขาว มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณ และผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้อีกด้วย
หลายๆ คนอาจเขินอายที่จะต้องอาบน้ำร่วมกับคนแปลกหน้า แต่ไหนๆ ก็มาที่ญี่ปุ่นแล้ว ยังไงก็ลองเข้าแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นดูนะคะ
และที่บริเวณด้านนอกห้องอาบน้ำรวมบ่อออนเซ็นมีเก้าอี้นวดอยู่ด้วย ซึ่งเก้าอี้นวดนี้ถือว่าไม่แปลกเลยสำหรับที่พักแบบออนเซ็นเรียวคังของญี่ปุ่น แต่ที่「Sanco-inn Nishiki Shikinoyu」นี้ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการได้ฟรี! ได้ทั้งแช่ออนเซ็นและนวดเก้าอี้นวด ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
ICHIGO-CHAN ได้ไปผ่อนคลายความเหนื่อยล้าหลังจากเดินเที่ยวยาวภายในอากาศที่ร้อนจัดถึง 39 องศา ด้วยการแช่ออนเซ็นบ่อรวมของโรงแรม และเก้าอี้นวดแล้ว ตอนนี้สบายตัวมากๆ เลย
พรุ่งนี้ก็ได้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
【ตารางการเดินทาง Day3-4 ATUSTA HORAIKEN/SANCO-INN NISHIKI SHIKINOYU】
