Day2-3 เดินทางผ่าน “ศาลเจ้าคุมาโนะ นะชิ KUMANO NACHI SHRINE” และ “เจดีย์สามชั้นวัดเซงันโตะ” เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ “น้ำตกนะชิ NACHI NO TAKI” สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของภูเขานะชิ

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day2-3 เดินทางผ่าน “ศาลเจ้าคุมาโนะ นะชิ KUMANO NACHI SHRINE” และ “เจดีย์สามชั้นวัดเซงันโตะ” เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ “น้ำตกนะชิ NACHI NO TAKI” สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของภูเขานะชิ

Wakayama-Shirahama-NachiKatsuura-Shingu-Toba-Ise-Nagoya

ตอนนี้  ICHIGO-CHAN ก็ได้เดินทางมายังภูเขานะชิ ที่มีน้ำตกนะชิขึ้นชื่อ

เราได้เปลี่ยนเป็นชุดสักการะของคนญี่ปุ่นโบราณเมื่อ 1000 ปีที่แล้ว เพื่อเดินขึ้นไปตามทาง “ไดมนซากะ DAIMONZAKA” ที่เป็นมรดกโลก ส่วนหนึ่งของคุมาโนะโคะโด เพื่อขึ้นบันไดทั้งหมด 740 ขั้น เป็นการปีนเขาเล็กๆ เราเดินมาเรื่อยๆ จนถึงศาลเจ้าคุมาโนะ นะชิ KUMANO NACHI SHRINE

ซึ่งศาลเจ้าคุมาโนะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างเดินทางมาเพื่อกราบไหว้สักการะขอพรให้ร่างกายแข็งแรงพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ซึ่งเราสามารถชมวิวธรรมชาติที่ล้อมรอบบริเวณศาลเจ้า พร้อมชมความสวยงามของ “น้ำตกนะชิ NACHI NO TAKI” ได้ที่นี่ ศาลเจ้าคุมาโนะ นะชิ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในป่าลึกแห่งนี้ บริเวณโดยรอบยังมีสถานที่ต่างๆ ให้ได้เที่ยวชมอยู่อีก เช่น วัดคุมาโนะเซงันโตะ

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่ไฮไลท์ของภูเขานะชิ ที่ “น้ำตกนะชิ” กันค่ะ

  เราจะใช้เวลาเดินทางจากทางเข้าไดมนซากะโดยไม่นับเวลาพักมาประมาณมากกว่า 40 นาที และแล้วเราก็เดินทางมาถึงศาลเจ้าคุมาโนะนะชิ เมื่อผ่านประตูมาแล้วก็จะเจอที่ชำระล้างร่างกายอยู่ทางขวามือ เราไปชำระล้างร่างกายกันก่อนเลย โดยมีวิธีการดังนี้

1. เริ่มด้วยการถือที่คักน้ำด้วยมือขวา และตักน้มาให้เต็ม เพื่ล้างมือซ้าย

2. เปลี่ยนเป็นถือกระบวยด้วยมือซ้าย เพื่อล้างมือขวา

3. และกลับมาถึงมือขวาอีกรอบ และเทน้ำใส่มือซ้าย เพื่อนำน้ำมาล้างปาก บ้วนปาก

4. และน้ำนำมาล้างมือซ้ายอีกรอบ

5. สุดท้าย ตั้งกระบวยขึ้นเพื่อล้างกระบวยด้วยน้ำที่เหลือ และวางลงที่เดิม

ICHIGO-CHAN เดินขึ้นบันไดมาตั้ง 740 ขั้นในอุณภูมิที่สูงกว่า 30 องศาแบบนี้ รู้สึกอยากจะล้างหลายๆ รอบเลยค่ะ

และที่อยู่ด้านขวาที่ล้างมือ เมื่อหันหลังออกมา ก็คืออาคารศาลเจ้า『KUMANO NACHI SHRINE

ที่มีอายุเกือบ 1700 ปี ซึ่งกำลังก่อสร้างปรับปรุงนานไปถึง เดือนมีนาคม ปีพ.ศ.2552 โดยปกติแล้วเราจะได้เห็นความสวยงามของอาคารศาลเจ้า

ที่หน้าอาคารศาลเจ้าหลักจะมีแผ่นไม้ให้เขียนชื่อที่อยู่ (100 เยน)และวางไว้ที่จุดเก็บ ทางศาลเจ้าก็จะนำไปเป็นฟืน และเมื่อนำควันจกฟืนมาถูกตัวก็จะช่วยให้พ่นจากโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อเผาฟีนแผ่นไม้เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปในอาคารศาลเจ้ากันเลย เมื่อมาถึงแล้วต่อไปก็จะต้องมากราบไหว้ศาลเจ้ากันเลย โดยมีวิธีการดังนี้

ใส่เหรียญ ลงไปในกล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 5-50 เยน) จากนั้น

โค้งคำนับ 2 : โค้งคำนับอาคารศาลเจ้า 2 ครั้ง

ปรบมือ 2 : ปรบมือ 2 ครั้ง

โค้งคำนับ 1 : ตั้งจิตอธิษฐานขอพร และโค้งคำนับ 1 ครั้ง

เป็นวิธีการกราบไหว้ที่ศาลเจ้า ส่วนการสักการะที่วัด จะไม่ต้องปรบมือ เพียงแค่พนมมือและโค้งคำนับหนึ่งครั้งเท่านั้น

และเมื่อหันหน้าออกจากอาคารศาลเจ้าหลักไปทางขวามือ ก็คือศาลเจ้าที่เคารพบูชา ผู้รับใช้เทพเจ้าของมิอากาตะฮิโกฉะ MIAGATAHIKOSHA กับนกยาตะคาราสุ YATAGARASU ที่มีอยู่สามขา

นกยาตะคาราสุ นี้ว่ากันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการแข่งขัน ซึ่งถูกใช้เป็นสัญลักษณ์บนธงของทหาร หรือ ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ที่ถูกติดอยู่ที่เสื้อของนักฟุตบอลตัวแทนทีมชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย ในการแข่งขันเวิลด์คัฟปีนี้ นักฟุตบอลตัวแทนทีมชาติของญี่ปุ่นก็ได้เข้าไปถึงรอบชิง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะนกยาตะคาราสุเป็นผู้พาไปก็ได้นะคะ 555555

และที่ด้านข้างอาคารศาลเจ้าก็จะมีเซียมซีขนาดใหญ่วางเอาไว้อยู่ด้วย ซึ่งเซียมซีนี้มีความสูงถึง 133 เซ็นติเมตร เลยทีเดียว โดยที่ความสูงนี้เป็นตัวเลขเดียวกับความสูงของน้ำตกนะชิที่สูง 133 เมตรนั่นเอง อาจจะใหญ่และหนักไปจนยกไม่ไหว แต่ก็เป็นอะไรที่น่าถ่ายรูปมากๆ อาจจะถือถ่ายรูปก็น่าสนใจไม่น้อย เป็นความทรงจำที่ดีของทริปเลยค่ะ

หันหน้าเข้าหาอาคารศาลเจ้า จะเห็นสำนักงานอยู่ด้านขวามือ มีขายทั้งเครื่องรางของขลังต่างๆ ทั้งเครื่องรางการเรียน สุขภาพ โชคดี หรือการแข่งขัน ฯลฯ และยังมีผ้าปักรูป “นก YATAGARASU”   อีกด้วยเครื่องรางแต่ละชนิดจะอยู่ที่ 800 เยนค่ะ

เซียมซีอันใหญ่นี้สำหรับ ICHIGO-CHAN ที่ตัวเล็กขนาดนี้ ยกยังไงก็ยกไม่ไหวเลยค่ะ แต่ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ ถึงตะเซียมซีอันใหญ่ไม่ไหว ที่นี่ก็ยังมีเซียมซีนกยาตะคาราสุ น่ารักๆ ให้ได้เซียมซีอีกด้วย(500 เยน) แชะเราก็ได้ “โชคดีมาก” มาด้วย โดยปกติแบ้วญี่ปุ่นจะมีผลเซียมซีอยู่ 7 อัน คือ “โชคมาก” “โชคดีปานกลาง” “โชคดี” “โชคธรรมดา” “โชคไม่ดี” และ “โชคไม่ดีมาก” แสดงว่าเราโชคดีมากๆ จริงๆ ค่ะที่ได้เซียมซีที่มากที่สุด

จะมีรู้ให้ได้ลอดผ่าน อีกด้วย ถือว่าถ้าได้ลอดผ่านก็จะเป็นเรื่องที่ดี ก่อนอื่นเราจะค้องถือแผ่นไม้โคมากิ ราคา 300 เยน แล้วลอดผ่านไปด้วยก็จะทำให้ให้สมหวังและพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ และนำแผ่นไปวางที่เก็บก็จะถูกนำไปเป็นฟืนเผาตามมาให้ค่ะ

 หลังจากที่เราได้กราบไหว้ที่ศาลเจ้าคุมาโนะนะชิแล้ว ต่อไปก็จะไปที่ “วัดเซงันโตะ” กันเลย ซึ่งเดิมทีแล้ววัดเซงันโตะ กับศาลเจ้าคุมาโนะ นะชิ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่มีการจัดงาน ซึ่งเมื่อก่อน 150 ปีที่แล้วได้มีการแยกศาลเจ้าและวัด ออกจากกัน กล่าวคือศาลเจ้าคุมาโนะ นะชิ ถูกแยกออกจากวัดเซงันโตะนั่นเอง ซึ่งวัดเซงันโตะนั้นแม้แต่โชกุนก็ให้ความเคารพศาลเจ้าแห่งนี้  ภายนอกก็มีสีสันสวยงาม ส่วนด้านในก็เปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ

ที่วัดเซงันโตะนี้ จะมีการสวดทุกเช้าเวลาตี 5 ที่คนทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้(หากนับถือศาสนาพุทธ) อีกทั้งยังสามารถเข้าร่วมได้ฟรี โดยจะต้องติดต่อเพื่อขอเข้าร่วมถึงก่อนเวลา 10 นาที ใช้เวลาประมาณ​ 30 นาที การเดินทางไปที่วัดเวงันโตะในเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นก็คงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร แต่ก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่าพอให้พยายามที่จะเข้าร่วม บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ

หลังจากที่เราได้กราบไหว้ศาลเจ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปไฮไลท์ของเราที่ “น้ำตกนะชิ” กันแล้ว ก่อนอื่นก็จะต้องันหน้าออกจากวัดเซงันโตะ ออกจากอาคารหลักไปทางซ้ายมือ เดินไปจนสุดทางและเลี้ยวไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอร้าน “มิฮาราชิเท” ที่มีจำหน่ายเครื่องดื่มของฝาก และขนมทางเล่นมากมาย อีกทั้งยังมี “เต้าหู้งา” ที่เป็นของขึ้นชื่อของภูเขานะชิอีกด้วย

สามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูต่างๆ ภายในร้านได้ ทั้งซอฟต์ครีม “อุเมะ” หรือบ๊วย ที่เป็นของขึ้นชื่อของวาคายาม่า นอกจากนี้ยังมี “เต้าหู้งา” (200 เยน) หรือ “เซ็ตเต้าหู้งาและอุดง”(850 เยน) ที่ร้าน “มิฮาราชิเท” นี้ยังมีที่นั่งที่สามารถชมวิวน้ำตกนะชิสวยๆ ได้อีกด้วย ได้ทั้งชมวิวที่สวยงามของน้ำตกนะชิ พร้อมกับทานของกินอร่อยๆ ไปด้วยความเหนื่อยต่างๆ หายสนิทเลย

ลงบันไดที่อยู่ทางขวามือเมื่อหันหน้าออกจากร้านมิฮาราชิเท ไปจนสุดทางและไปทางด้านซ้าย ก็จะเห็น เจดีย์สามชั้นเซงันโตะ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับได้ชม เจดีย์ห้าชั้นที่ เกียวโต หรืออาซากุสะเลยค่ะ ซึ่งในบางช่วงเราจะได้เห็นเจดีย์สามชั้นไปพร้อมๆ กับน้ำตกนะชิที่สวยงามอีกด้วย

เจดีย์สามชั้นวัดเซงันโตะ แห่งนี้เคยถูกเพลิงไหม้ไปหนึ่งรอบเมื่อ 400 ปีก่อน และได้ถูกปรับปรุงใหม่ขึ้นเมื่อ 45 ปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นตึกเก่าแก่ ที่ให้ความสึกโบราณ แต่ก็มีลิฟต์บริการทันสมัยต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกมากๆ และที่ชั้น 3 จะมีจุดชมวิวที่สามารถชมวิวน้ำตกนะชิที่สวยงามได้ ค่าเข้า เจดีย์สามชั้นวัดเซงันโตะ จะอยู่ที่ 300 บาท เปิดทำการตั้งแต่ 8:30-16:00

หลังจากที่ได้เพลิดเพลินกับวิวเจดีย์สามชั้นแล้ว เราจะหันหน้าออกจากเจดีย์และเดินตรงไป เร่จะเดินลงเนินทางเดินหินไป ในแต่ละจุดระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกนะชิเหมือนในภาพด้านขวาบน เพราะฉะนั้นไม่หลงแน่นอน

ทางเดินบันไดที่ยาวต่อเนื่องมา ซักพักก็จะเป็นทางเดินหินเหมือนไดมนซากะ ซึ่งทางเดินหินนี้เป็นทางเดินเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 800 ปี เป็นทางเดินที่ให้บรรยากาศเหมือนไดมนซากะที่มีต้นสนสูงใหญ่ตลอดข้างทั้งสองฝั่ง และเมื่อเลยทางเดินหินไปก็จะเป็นถนนใหญ่ที่รถสามารถสันจรได้ เมื่อมาถึงจุดนี้ที่มีทั้งร้านขายของฝ่ก ร้านอาหารเรียงกันอยู่มากมาย ก็แสดงว่าเราอยู่ใกล้น้ำตกนะชิแล้วค่ะ

และส่วนที่อยู่ในวงกลมสีเหลืองก็คือ ป้ายรถบัสทางเข้าน้ำตกนะชิ ครั้งนี้เราได้เดินจาก ไดมนซากะ ผ่านศาลเจ้าคุมาโนะนะชิ วัดเซงันโตะ เจดีย์สามชั้น แช้วจึงมาที่น้ำตกนะชิ ซึ่งสำหรับใครที่คิดว่าเดินไม่ไหว อยากเที่ยวแบบสบายๆ ก็สามารถเดินทางมาด้วยรถบัสได้ โดยเดินทางจากไดมนซากะ ไปลงที่ ทางเดินศาลเจ้าคุมาดนะ นะชิ ซันโดกะ 熊野那智大社参道下(ป้าย NACHISAN) และ นั่งจากป้าย NACHISAN ไปลงที่น่ำตกนะชิ ซึ่งช่วงระยะทางนี้เราสามารถใช้「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA

TOURIST PASS」ในการเดินทาง รถบัสจะวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว ซึ่งถือว่าน้อยมากเพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คเวลาเอาไว้ให้ดีก่อนนะคะ

เมื่อลงจากรถบัสมาแล้ว เราก็จะเจอกับ「น้ำตกนะชิ・ศาลเจ้าฮิโร」ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ เมื่อลอดผ่านโทริอิมาเดินตรงไปก็จะเจอกับ “น้ำตกนะชิ” ที่มีความสูงกว่า 133 m

และในครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปชม “น้ำตกนะชิ NACHI NO TAKI” และ “ศาลเจ้าฮิโร HIROU JINJA” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪

【ตารางการเดินทาง Day2-3 NACHI-SAN MEGURI】

Sponsored by Central Japan Railway Company

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶