ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-5 เดินทางไปโรงแรม GRAMPUS SEA ในบริเวณชิราฮามะออนเซ็น และชมวิวพระอาทิยต์ตกดินที่สวยงามที่ “SENJOJIKI” ในวาคายาม่า
Wakayama-Shirahama-NachiKatsuura-Shingu-Toba-Ise-Nagoya
จากความเดิมตอนที่แล้ว ICHIGO-CHAN ได้นั่งรถไฟวาคายาม่าเด็นเท็ตสึ สายคิชิกาวะ ที่มี「TAMA DENSHA」อยู่ แต่น่าเสียดายที่วันที่เราไปเป็นวันซ่อมบำรุงพอดี แต่เราก็ได้นั่งรถไฟไปเจอ “นายสถานีนิทามะ” ที่สถานีปลายทางสถานีคิชิ และขากลับเราได้นั่งรถไฟท่องเที่ยว「UMEBOSHI DENSHA」แทน หลังจากที่ได้เพลิดเพลินกับรถไฟท่องเที่ยวของวาคายาม่าแล้ว เราจะมุ่งหน้าไปที่สถานีที่ใกล้โรงแรมของเราในคืนนี้มากที่สุด ที่สถานี JR ชิราฮามะ SHIRAHAMA
「GRAMPUS SEA」ที่อยู่ภายใน “ชิราฮามะออนเซ็น” มีทั้งหาดทรายขาวสวยงาม หรือ “SENJOJIKI” ที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม อีกทั้งยังมีสวนสัตว์ Adventure World อีกด้วย
วันนี้เราจะเดินทางไป GRAMPUS SEA และไป “SENJOJIKI” สถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามกันค่ะ
นั่งรถไฟด่วนพิเศษ KUROSHIO มาจากสถานีวาคายาม่ามาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตอนนี้เราก็มาถึงสถานี JR ชิราฮามะ ที่เป็นเหมือนประตูหน้าบ้านของ “ชิราฮามะออนเซ็น” เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นเราสามารถมุ่งหน้าจากสถานีไปโรงแรมที่อยู่บริเวณ SENJOJIKI ได้โดยการนั่งรถบัสจากหน้าสถานีไป
นั่งจากสถานีชิราฮามะไปป้ายบัสที่ใกล้โรงแรมมากที่สุดกับป้าย SENJOJIKI ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ซึ่งบัสจะวิ่งชั่วโมงละ 1-3 เที่ยว
ภายในรถบัสก็จะมีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีสัมภาระอยู่เต็มไปหมด น่าเสียดายที่บัสบริเวณนี้จะไม่สามารถใช้「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA TOURIST PASS」ได้ค่ะ
ขึ้นรถบัสมาจากประตูด้านหลังจากนั้นก็หยิบตั๋วรถไฟจากเครื่องออกตั๋วที่อยู่ข้างประตูทางเข้า และเมื่อต้องการลงจากรถก็เพียงเช็คราคาจากจอมอนิเตอร์ข้างคนขับโดยเช็คราคาตามช่องหมายตามตั๋วที่ได้รับ และใส่เงินลงไปในเครื่องจ่ายเงินก่อนลงรถ เครื่องนี้จะไม่มีระบบทอนเงิน เพราะฉะนั้นใส่เงินให้ครบตามจำนวนนะคะ หากใครไม่มีเหรียญก็สามารถแลกได้ที่เครื่องแลกเงินข้างคนขับเลย ราคารถบัสจากสถานีชิราคาวะโกะ ไป ป้ายเซ็นโจจิกิ จะอยู่ที่ 430 เยน
นั่งรถบัสไปประมาณ 20 นาที ก็มาถึงที่ป้ายเซ็นโจจิกิ
ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของ โรงแรม「GRAMPUS SEA」ที่ ICHIGO-CHAN จะพักในวันนี้ และยังมีโรงแรม YUKAI มีทั้งโรงแรม เรียวคัง ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมรีสอร์ทต่างๆ เอาไว้มากมายนั่นเอง
โรงแรม「GRAMPUS SEA」จะอยู่ข้างป้ายเซ็นโจจิกิ SENJOJIKI โดยใช้เวลาเดินไปเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น เป็นโรงแรมเปิดใหม่ที่ออกแบบได้รหรูหรา แบบเพดานสูง ซึ่ง ICHIGO-CHAN อยากจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ “เซ็นโจจิกิ” ก่อนเพราะฉะนั้นเราจะมาเช็คอินทีหลังนะคะ ฝากของเอาไว้ที่ฟร้อนท์ก่อนแล้วไปที่ “เซ็นโจจิกิ” กันเลย
จากโรงแรมเดินไปจุดชมวิว “เซ็นโจจิกิ” ใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น โดยหันหน้าออกจากโรงแรม เดินไปทางขวา และเลี้ยวขวาที่แยกแรก จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับจุดชมวิว “เซ็นโจจิกิ” เลย
ซึ่งบริเวณ “เซ็นโจจิกิ” นี้จะเป็นหินที่ราบไปกับพื้นเหมือนเป็นลานหินกว้างๆ ด้วยพื้นที่นี้ที่มีคลื่นซัดสูงจากมหาสมุทรแปซิฟิก พัดเซาะหินไปเรื่อยๆ ยาวนานหลายปีจนเกิดเป็นหินลักษณะนี้ บริเวณนี้ก็จะมีคู่รักจำนวนมากเดินทางมาชมพระอาทิตยตกดินในบรรยากาศที่โรแมนติกแบบนี้ นอกจากนี้ยังมีคนที่มากันเป็นครอบครัวอีกด้วย
เวลาพระอาทิตย์ตกดินของวันนี้คือ ก่อนเวลา 1 ทุ่ม เมื่อใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดิน ผิวทะเลสีครามก็จะเริ่มเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นสีทองหรือส้ม เป็นวิวที่สวยจนเหมือนเวลาหยุดเดินเลยค่ะ
หลังจากที่ได้ชมวิวที่สวยงามของพระอาทิตย์ตกดินที่เซ็นโซจิกิแล้ว ก็กลับมาที่โรงแรม『GRAMPUS SEA』กันเลย
โดยโรงแรม「GRAMPUS SEA」เป็นโรงแรมเปิดใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือน เมษายน ปีพ.ศ.2560 มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย เมื่อถึงโรงแรมแล้วก็ไปเช็คอินกันเลย กรอกชื่อ เบอร์โทร และอีเมลในใบกรอกข้อมูลเข้าพัก และยื่นพาสปอร์ต กับหนังสือเดินทางให้เท่านั้น
และที่ด้านข้างเคาน์เตอร์เช็คอินจะมียูกาตะน่ารักๆ ให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีหลากหลายไซต์ให้เลือกอีกด้วย ซึ่งที่ห้องจะมียูกาตะเตรียมเอาไว้ให้เช่นกัน แต่เป็นแบบฟรีไซต์ หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการใส่ชุดยูกาตะพอดีตัว น่ารักๆ เอาไว้ถ่ายรูปก็เชิญทางนี้เลยค่ะ
ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN ได้พักที่ชั้นบนสุดที่ชั้น 4F ภายในห้องพักก็กว้างขวางแบ่งเป็นโซนลิฟวิ่งรูมที่มีโต๊ะเก้าอี้ และส่วนห้องนอนต่อเนื่องกัน จากหน้าต่างห้องเราสามารถชมวิวทะเลแปซิฟิกได้อีกด้วย
ซึ่งจุดเด่นของ「GRAMPUS SEA」คือห้องอ่างอาบน้ำออนเซ็นขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าในห้องพักแต่ละห้องจะไม่มีห้องอาบน้ำหรืออ่างอาบน้ำ แต่ภายในห้องพักจะมีห้องน้ำส่วนตัว และอ่างล้างหน้าให้ค่ะ บางคนอาจรู้สึกเขินอายที่ต้องอาบน้ำร่วมกันคนอื่น แต่ไหนๆ ก็มาที่นี่แล้วลองดูซักครั้งนะคะ ยังไงลองใส่ชุดยูกิตะเดินไปที่ห้องอาบน้ำ ลองเปิดประสบการณ์การแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นดูนะคะ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดของการท่องเที่ยวเลยก็คือ อาหารค่ำ ซึ่งอาหารค่ำที่โรงแรม「GRAMPUS SEA」จะเป็นสไตล์บุฟเฟต์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 17:00-21:00(LAST ORDER 20:30)ที่ห้องอาหาร “เซ็นโจจิกิ” ชั้นเดียวกับฟร้อนท์
เมนูอาหารก็มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลสดใหม่ อย่าง ซูชิ หรือ ซาชิมิปลาดิบปลามากุโระ กุ้ง หรือซีฟู้ดค็อกเทลอื่นๆ เพื่อนๆ สามารถเลือกทานได้ไม่อั้น ทานได้ตามที่ต้องการเลยค่ะ
นอกจากอาหารประเภทซีฟู้ดแล้ว ก็ยังมีอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งสไตล์ตะวันตก และสไตล์ญี่ปุ่น เช่น เนื้อย่าง มันบดทอด หรือไข่ตุ๋น เท็มปุระ ฯลฯ อีกมากมาย
ส่วนวันนี้ ICHIGO-CHAN ก็เลือกเมนูซีฟู้ดที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของวาคายาม่าเป็นหลัก ทั้ง ปลาดิบปลาฮามาจิ และมากุโระ ที่ทั้งนุ่มเด้ง อร่อยมากๆ ยิ่งทานคู่กับวาซาบิยิ่งเป็นรสชาติที่หยุดไม่ได้เลยค่ะ ซึ่งเมนูปลาส่วนใหญ่จะเป็นปลาที่ตกได้บริเวณวาคายาม่าหรือใกล้เคียง แต่ก็มีปลาแซลมอนเสิร์ฟอยู่เช่นกันค่ะ
หลังจากที่เราได้ทานบุฟเฟ่ต์ไปจนเต็มอิ่มแล้ว ต่อไปเราจะไปแช่ออนเซ็น ไปพร้อมๆ กับชมวิวทะเล และดวงดาวบนท้องฟ้าที่สวยงามกันค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีเมืองใหญ่ๆ ตั้งอยู่ รอบล้อมด้วยทะเลเท่านั้น ทำให้เราสามารถชมวิวดวงดาวบนท้องฟ้าได้สวยเป็นพิเศษเลยค่ะ ได้ทั้งชมวิวดวงดาวบนท้องฟ้า ฟังเสียงคลื่นทะเลไปพร้อมๆ กับแช่ออนเซ็นที่ความร้อนกำลังพอดี เป็นอะไรที่ได้บรรยากาศมากๆ เลยค่ะ
ซึ่งภายในโรงแรมนี้นอกจากออนเซ็นแล้ว ยังมีร้านขายของฝากที่จำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อของพื้นที่เอาไว้มากมาย, โซนเกม หรือ “โต๊ะปิงปอง” ที่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทริปออนเซ็นของคนญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ
หลังจากที่ ICCHIGO-CHAN ได้ทานบุฟเฟต์ไปจนเต็มอิ่ม แช่ออนเซ็น และเลือกซื้อของฝากไปเพลินๆ ตอนนี้ก็เป็นเวลา 4 ทุ่มแล้วค่ะ ตั้งแต่ถึงสนามบินคันไซ เราก็มุ่งหน้าไป ปราสาทวาคายาม่า มารีน่าซิตี้ และนั่งรถไฟ “ทามะเด็นฉะ” ของรถไฟวาคายาม่าเด็นเท็ตสึไปแบบเต็มอิ่ม 1 วันเต็มๆ ก็ถึงเวลาพักผ่อนแล้วค่ะ พรุ่งนี้จะเป็นยังไงน้า ตื่นเต้นจังเลย ราตรีสวัสดิ์นะคะ
คงเพราะได้ทานอาหารจนอิ่ม และแช่ออนเซ็นสบายๆ วันนี้ ICHIGO-CHAN ได้นอนไปแบบเต็มอิ่มมากๆ ตื่นมาก็เป็นเวลา 7 โมงเช้าแล้ว ได้พักผ่อนเต็มที่ เราจะได้ออกเดินทางท่องเที่ยวรอบคาบสมุทรคิอิกันต่อเลย มองออกไปนอกหน้าต่าง วันนี้อากาศดีมากๆ จนแทบจะอยากออกไปเที่ยวตอนนี้เลย แต่…เราจะขอไปเต็มพลังของวันนี้ด้วยอาหารเช้ากันก่อนนะคะ
อาหารเช้าก็สามารถทานได้ที่ห้องอาหาร “เซ็นโซจิกิ” ที่เดียวกับดินเนอร์เมื่อวานเลยค่ะ อาหารเช้าจะเปิดให้บริหารตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 9 โมงเข้า เป็นแบบบุฟเฟต์ ทานอาหารที่อยากทานได้ไม่อั้นเลยค่ะ
อาหารเช้าก็มีเมนูให้เลือกหลากหลายไม่แพ้กันเลยค่ะ มีทั้งแบบตะวันตกและอาหารญี่ปุ่น ทั้งอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่ อย่าง “อุเมะโซเม็ง” หรือ โซเม็งบ๊วย พิซซ่า พาสต้า หรือ ยากิโซบะ ฯลฯ อีกมากมาย
อาหารเช้าของ ICHIGO-CHAN ก็จะประมาณนี้ค่ะ ตักมาแบบจัดเต็มไม่มีลังเลเลยค่ะ ทั้งไข่ม้วน ปลาย่าง ที่เป็นอาหารญี่ปุ่น และพิซซ่าโทสต์ จัดเต็มตั้งแต่เช้าเลยค่ะ
หลังจากที่ได้ทานอาหารเช้าเติมพลังของวันนี้ไปจนอิ่ม เราจะไปเดินเล่นตอนเช้ากันซักหน่อยโดยเดินออกจากโรงแรมไปประมาณ 10 นาทีเพื่อเดินทางไป “ซันดันเบกิ”「SANDANBEKI」ซึ่งที่นี่ก็มีวิวหน้าผาหินชันเป็นชั้นๆ ที่สวยงามไม่แพ้ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่าง “โทจินโบ” ที่จังหวัดฟูกุอิ ที่เราได้แนะนำไปในคอนเทนท์ที่ผ่านมาเลยค่ะ
และในครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมหน้าผา “ซันดันเบกิ”「SANDANBEKI」และเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปที่ “คิอิคาสึอุระ KII KATSUURA” กันค่ะ
【ตารางการเดินทาง Day1-4 TAMA CAFE】
Sponsored by Central Japan Railway Company