Day3-4 จบทริป! เดินทางจากโรงแรม「HOTEL MYSTAYS FUJISAN」ไปสู่สนามบินนาริตะเพื่อกลับประเทศไทย

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-4 จบทริป! เดินทางจากโรงแรม「HOTEL MYSTAYS FUJISANไปสู่สนามบินนาริตะเพื่อกลับประเทศไทย

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

ความเดิมที่แล้ว ICHIGO-CHAN ได้พิชิตยอดภูเขาฟูจิสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และเราได้ทาน “เนื้อย่าง” เพื่อฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ไปแบบเต็มอิ่ม จากนั้นก็เข้าพักที่「HOTEL MYSTAYS FUJISAN」และแช่ออนเซ็นของโรงแรมเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายวัน

และแล้ววันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ซึ่งวันนี้เราจะต้องบินกลับประเทศไทยเวลา 13:55 เลยเพราะฉะนั้นเราจะมุ่งหน้าไปที่สนามบินนาริตะกันเลยค่ะ

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจากโรงแรม「HOTEL MYSTAYS FUJISAN」ไปสู่สนามบินนาริตะ

เมื่อวาน ICHIGO-CHAN ได้แช่ออนเซ็นผ่อนคลายร่างกายไปแล้วสบายตัวมากๆ ถึงแม้ว่าความเหนื่อยล้าจะหายไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังปวดตามเนื้อตามตัวจากการปีนขึ้นภูเขาฟูจิเหมือนเดิมเลยค่ะ วันนี้เราจะต้องบินกลับประเทศไทยรอบเที่ยวบิน 13:55 น. เพราะฉะนั้นต้องเดินทางไปให้ถึงสนามบินนาริตะเวลา 12:00 แต่ก่อนจะเดินทางไปสนามบินนาริตะ ขอเติมพลังตอนเช้ากันก่อน เราได้จองที่พักพร้อมอาหารเช้าไป ซึ่งสามารถทานอาหารเช้าได้ตั้งแต่ 7:00-9:30 ที่ห้องอาหารข้างล็อบบี้ที่ชั้น 1F นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเต็มห้องอาหารเลยค่ะ อาหารก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ

และห้องอาหารจะเป็นห้องกระจกบ้านใหญ่ ที่เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นวิวภูเขาฟูจิขนาดใหญ่แบบชัดมากๆ เมื่อวานในเวลานี้เป็นเวลาที่เรากำลังเดินวนรอบปล่องภูเขาไฟอยู่เลยค่ะ

อาหารเช้าจะเป็นแบบสไตล์บุฟเฟต์ ที่มีอาหารญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังมี ไส้กรอก ไข่ดาว พาสต้า แกงกะหรี่ หรือสลัดบาร์….

โจ๊กที่สามารถเลือกท้อปปิ้งได้หลากหลายทั้งผงปลาแซลม่อน บ๊วยญี่ปุ่น หรือ ไข่ปลาทรงเครื่อง นอกจากนี้ก็มี โซบะเย็น ปลาย่าง หรือนัตโตะ ต่างๆ ที่เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

และที่มุมหนึ่งของห้องอาหารสามารถสั่งเมนูไข่ ทั้งหอมและน่าตาน่าทานมากๆ เลยค่ะ

เมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน ทั้งน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล นมสด น้ำมะเขือเทศ หรือจะเป็นโยเกิร์ตที่แต่ละอย่างล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้นเลยค่ะ

ไม่ว่าเมนูไหนก็น่าทานไปหมด และพลาดไม่ได้เลยเราก็จะต้องสั่งเมนูไข่มาทานแน่นอนค่ะ ซึ่งเราเคยอ่านเจอว่า หลังจากที่ไปปีนเขาอยู่บนพื้นที่ๆ มีความกดอากาศที่แตกต่างกัน และยิ่งต้องใช้พละกำลังมากกว่าปกติในการปีนขึ้นภูเขาฟูจิอีก ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้สึกอยากอาหารและไม่สบายหลังจากการปีน แต่ในโรงแรมที่มีเมนูอาหารเช้าให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าเมนูไหนๆ ก็น่าทานไปหมด ไม่ต้องห่วงเรื่องไม่อยากอาหารเลยค่ะ เยียวยาร่างกายได้ด้วยอาหารเช้าของที่นี่เลยจริงๆ

หลังจากทานอาหารเช้าอร่อยๆ แล้วเราจะไปเช็คเอ้าท์กันเลย ซึ่งลูกค้ากว่าครึ่งของ「HOTEL MYSTAYS FUJISAN」จะเป็นแขกชาวต่างชาติที่มาเพราะภูเขาฟูจิ ดังนั้นพนักงานส่วนใหญ่จะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ถึง ICHIGO-CHAN จะขอถ่ายรูปคู่ด้วยก็ยิ้มแย้มและเป็นกันเองมากๆ ค่ะ

การเดินทางไปสนามบินนาริตะนั้น เราจะต้องนั่งรถบัสเพื่อไปลงที่ “เทอร์มินอลบัสชินจุกุ” จากสถานีคาวากุจิโกะก่อน รับของต่างๆ ที่เราฝากเอาไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์แล้วก็เปลี่ยนรสบัสเพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามบินนาริตะเลย

ซึ่งการเดินทางจากโรงแรมไปสถานีคาวากุจิโกะจะมีอยู่ 2 วิธีคือ นั่งรถไฟจากสถานีฟูจิคิวไฮแลนด์ที่อยู่ใกล้โรงแรมมากที่สุด หรือนั่งบัส「อากาซากะ」ที่อยู่หน้าโรงแรมด้วยบัสที่มุ่งหน้าไปสถานีคาวากุจิโกะ หรือมุ่งหน้าไปยังโคฟุ

โดยเราจะเลือกนั่งบัส「อากาซากะ」กันค่ะ บัสจะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว ราคา 230 เยน วิธีขึ้นก็คือ ขึ้นรถบัสจากประตูด้านหลัง เมื่อขึ้นมาแล้วก็หยิบตั๋วรถบัสจากเครื่องข้างประตูทางขึ้น เมื่อต้องการลงก็สามารถเช็คราคารถบัสได้จากช่องที่ตรงกับตัวเลขในตั๋วรถบัส เมื่อจะลงรถก็ใส่เงินตามจำนวนลงไปในกล่องชำระเงินที่อยู่ข้างคนขับ หากใครไม่มีเหรียญพอดีก็สามารถแลกเหรียญได้ที่ เครื่องข้างคนขับเช่นกัน

นั่งรถบัสอากาสะกะมาประมาณ 10 นาทีเท่านั้นตอนนี้เราก็มาถึงสถานีคาวากุจิโกะเป็นที่เรียบร้อย ที่นี่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการปีนภูเขาฟูจิ หรือนักท่องเที่ยวที่เพิ่งกลับจากภูเขาฟูจิ คนเยอะมากๆ เลยค่ะ

ซึ่งที่สถานีคาวากุจิโกะจะมีร้านขายของฝากขนาดใหญ่อยู่ด้วยค่ะ ที่นี่มีสินค้าที่เกี่ยวกับภูเขาฟูจิอยู่มากมาย ระหว่างรอรถบัสสามารถเลือกซื้อของได้เลยค่ะ

และรูปซ้ายบนก็คือ ขวดเหล้าญี่ปุ่นรูปภูเขาฟูจิค่ะ「FUJISAN CHA SHOUCHUU BOTTLE」(3800 เยน)เป็นสินค้าขึ้นชื่อของตีนภูเขาฟูจิ เป็นเหล้าชาที่ทำจากใบชาและข้าว หมักด้วยน้ำจากใต้ดิน ซึ่งขวดเหล้านี้เมื่อถอดส่วนสีขาวที่เป็นฝาออกก็สามารถใช้เป็นแก้วดื่มเหล้าได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมี「SEISHU FUJISAN」(1800 เยน)ที่เป็นถังเหล้าเหมือนที่ประดับเอาไว้ที่ศาลเจ้า หรือ 「FUJISAN FANCY CHOCOLATE」(1080 เยน)รูปร่างฟูจิและรถไฟชินคันเซ็น นอกจากนี้ยังมี Fujisan Miniature Crunch Chocolates(1080 เยน)ที่สามารถนำไปเป็นของฝากแจกหลายๆ คน ที่นี่สามารถชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิตเลยค่ะ

บัสจากสถานีคาวากุโกะไปชินจุกุบัสเทอร์มินอลนั้น ในช่วงหน้าร้อนจะวิ่งวันละ 25-30 เที่ยว (มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน) ค่าเดินทาง 1750 เยน『รถประจำทางฟูจิเกียวโกะ』

ถึงแม้ว่าช่วงเช้าจะวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว แต่พอเข้าช่วงบ่ายก็จะเพิ่มขึ้นเป็นชั่วโมงละ 2-4 เที่ยว อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้คือช่วงหน้าร้อนจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหน้าแน่นเป็นพิเศษ หากจองกระทันหันที่นั่งก็อาจจะเต็มได้ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไปหลายๆ วันเลยจะดีกว่าค่ะ

ซึ่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปชินจุกุ จะออกจากป้ายหมายเลข 3 โดยหันหน้าออกจากสถานีคาวากุจิโกะเดินไปทางซ้ายมือ

ที่นั่งเป็นแบบ Reclining Seat แต่ละที่นั่งจะมีปลั๊กไฟสามารถเสียบชาร์ตมือถือหรือแท็บเล็ตได้ระหว่างการเดินทาง เมื่อบัสออกตัวจากสถานีคาวากุจิโกะมาซักพักก็จะเข้าสู่ทางด่วน และระหว่างทางจะได้เห็นวิวภูเขาฟูจิเป็นพักๆ ด้วยค่ะ

ออกจากสถานีคาวากุจิโกะมาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที บัสก็มาถึงชินจุกุบัสเทอร์มินอลแบบตรงเวลาเลยค่ะ บัสจะมาถึงที่ 3F เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ผ่านออกประตูไป ก็มุ่งไปทางตู้ล็อคเกอร์ที่ฝากของเอาไว้ก่อนปีนขึ้นภูเขาฟูจิกันเลย นำของออกจากตู้ด้วย PIN NO ที่ได้ตอนฝากของ และชำระเงินสำหรับ 2 วัน เท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อเอาของเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 4F เหมือนตอนไปภูเขาฟูจิเลย ลีมูซีนบัสที่เดินทางจาก ชินจุกุบัสเทอร์มินอล ไปสนามบินนาริตะจะวิ่งทุกๆ ชั่วโมงในนาทีที่ 0 / 20 / 40 ของแต่ละชั่วโมง(หากแขกเยอะอาจมีการเพิ่มรอบ)สำหรับใครที่ต้องการชำระค่าเดินทาง(3100 เยน)ด้วยเงินสด ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปและยูเทิร์นไปทางซ้ายมือ และไปรอที่ป้าย A2 เพื่อทำการชำระเงินตอนขึ้นรถได้เลย ส่วนใครที่ต้องการชำระด้วยบัตรเครดิต ก็สามารถทำการชำระเงินได้ที่เคาน์เตอร์ที่เดิมเหมือนตอนไปภูเขาฟูจิเลยค่ะ จากชินจุกุไปสนามบินนาริตะถ้ารถไม่ติดจะใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 20 นาที หากนั่งที่นั่งฝั่งขวามือก็จะได้เห็นดิสนี่ย์แลนด์ระหว่างทางอีกด้วย

สนามบินนาริตะจะมีอยู่ 3 เทอร์มินอล และส่วนที่มีเที่ยวบินตรงไปไทยก็คือ

เทอร์มินอล 1:ANA・การบินไทย

เทอร์มินอล 2:JAL・NOKSCOOT・AIRASIA X

แต่ละเทอร์มินอลค่อนข้างจะอยู่ห่างกันพอสมควร เพราะฉะนั้นถ้าไปผิดเทอร์มินอลก็จะต้องนั่งรถบัสระหว่างเทอร์มินอลเลย ยังไงเช็คข้อมูลให้เรียบร้อยไว้ก่อนจะดีที่สุดนะคะ ส่วน ICHIGO-CHAN นั่ง NOK SCOOT เพราะฉะนั้นเราจะลงที่เทอร์มินอล 2 เมื่อเข้ามาในเทอร์มินอลแล้วก็เช็คจอมอนิเตอร์สายการบินเพื่อเช็คเคาน์เตอร์เช็คอิน NOK SCOOT จะอยู่ที่เคาน์เตอร์ B เข้าเทอร์มินอลจะอยู่ซ้ายมือ

ขากลับ ICHIGO-CHAN ก็อัพเกรดที่นั่ง SCOOT BIZ เหมือนตอนขามา

ซึ่ง SCOOT  นี้จะสามารถอัพเกรดที่นั่งได้ในกรณีเมื่อที่นั่ง「SCOOT BIZ」ของ BUSSINESS CLASS ว่าง ก็จะมีเมล「BID FOR SCOOT BIZ」ส่งมาก่อนวันบิน โดยสามารถอัพเกรดดำเนินการแบบการประมูล เส้นทางกรุงเทพ-ญี่ปุ่น ในราคาต่ำที่สุด 2500 บาท(ขึ้นอยู่กับเที่ยวบิน)ซึ่งครั้งนี้ ICHIGO-CHAN ลองประมูลส่งราคาไปแพงขึ้นนิดหน่อยจากราคาต่ำสุดเป็น 2520 บาท ก็ได้อัพเกรดด้วยค่ะ เมื่อดำเนินการอัพเกรดสำเร็จทาง SCOOT BIZ ที่จองไว้ก็จะถูกอัพน้ำหนักประเป๋าที่โหลดเป็น 30kg พร้อมอาหาร 1 มื้อ และสามารถขึ้นเครื่องได้ก่อนใคร เราจ่ายเพิ่มเพียง 2520 บาทก็ได้นั่ง ที่นั่งของ SCOOT BIZ ที่สบายมากๆ เลย

เมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นมุ่งไปที่เกทเลย

เมื่อ 3 วันที่แล้วเราได้ปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิที่รู้สึกอยากปีนมาตั้งหลายปีแล้ว ซึ่งก่อนปีนก็กังวลว่าเราจะปีนขึ้นไปบนเขาได้รึเปล่า จะไหวไหม แต่พอได้ลองปีนดูแล้ว ก็ไม่ต้องมีเทคนิคพิเศษใดๆ ในการปีนเลยค่ะ ถ้าเตรียมร่างกาย และอุปกรณ์มาพร้อมไม่ว่าใครก็สามารถปีนขึ้นภูเขาฟูจิได้ เหมือกับ ICHIGO-CHAN เลยนะคะ โดยเดินขึ้นเขาไปตามความเร็วของตัวเอง ไม่ต้องรีบให้ทันคนอื่น ตามกำลังที่ตัวเองไหวไม่ว่าใครก็สามารถขึ้นไปพิชิตยอดภูเขาฟูจิที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นได้ วิวสวยๆ บนภูเขาฟูจิจะเป็นรางวัลชั้นดีของความสำเร็จที่ได้ปีนขึ้นไปเลยค่ะ สำหรับปีนี้ยังเหลือเวลาให้ปีนขึ้นภูเขาฟูจิได้อีกประมาณ 1 เดือน ถ้าใครสนใจก็ลองขึ้นภูเขาฟูจิดูนะคะ

ทริป 3 วันของเราผ่านไปเร็วมาก เมื่อมาที่เกทก็จะเห็นเครื่องบินนกจอดอยู่เลย จากนาริตะไปกรุงเทพจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงครึ่ง ระยะเวลาเท่ากับที่เราเดินขึ้นจากสถานีภูเขาฟูจิไปถึงยอดเขาเลย 555

เป็นยังไงบ้างคะ กับทริปพิชิตภูเขาฟูจิของ ICHIGO-CHAN ในครั้งนี้ สำหรับใครที่อยากลองเริ่มอ่านตั้งแต่ต้นก็สามารถกด BACK เพื่อข้ามไปอ่านการเดินทางท่องเที่ยวที่ผ่านมาเพื่อเพลิดเพลินกับทริปพิชิตภูเขาฟูจิของ ICHIGO-CHAN ได้เลย แล้วพบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่ะ

【ตารางการเดินทาง Day3-4 MYSTAY HOTEL FUJISAN/BANGKOK】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK