“สนามบิน”คือสถานที่ต้องเจอเป็นอย่างแรกเมื่อเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น หรือการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นประเทศที่เป็นเกาะอย่างญี่ปุ่นแล้ว ยิ่งจะต้องผ่านสนามบินเป็นสถานที่แรก(ไม่นับรวมการเดินทางด้วยเรือ) ซึ่งในแต่ละสนามบินนั้นจะมีบริการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักเดินทางไว้มากมาย โดยเฉพาะ สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ สนามบินคันไซ และสนามบินขูบุ ที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นสนามบินต้นๆ ของโลกจากบริษัทจัดอันดับสนามบิน SkyTrax เราจะได้เห็นบริการมากมายที่ไม่สามารถพบเจอได้ในสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินดอนเมือง
ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในสนามบิน ที่เป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวโดยแบ่งออกเป็น 2 ตอน
1.บริการพื้นที่พักผ่อนแบบไม่คิดค่าบริการ
ในครั้งที่ผ่านมาเราได้นำเสนอที่พักแบบโรงแรมแคปซูลและที่พักชั่วคราว อย่าง「9hours」หรือ「First Cabin」 กันไปแล้ว“บริการต่างๆ ภายในสนามบินญี่ปุ่นที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน”
ซึ่งที่พักที่เราได้นำเสนอไปเหล่านี้ราคาต่อขึ้นจะอยู่ที่ช่วงประมาณ 5000 เยน ที่มีบริการทั้งที่นอน และห้องอาบน้ำ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้การเสียค่าใช้จ่ายไปกับที่พักหรือการพักชั่วคราวเราขอแนะนำเป็น “พื้นที่พักผ่อนบริการจากสนามบิน” ที่มีให้บริการทั้งสนามบินนาริตะที่โตเกียว และสนามบินคันไซที่โอซาก้า สำหรับนักท่องเที่ยวรอบดึก มีทั้งเตียงโซฟา หรือเก้าอี้ยาวให้ได้นอนพักผ่อน โดยเฉพาะเตียงโซฟาที่สนามนาริตะ เป็นของ “มูจิ MUJI” ด้วย เผลออาจจะนอนสบายกว่าที่พักราคาถูกเลยก็ได้ค่ะ
เที่ยวบินจากกรุงเทพมาสนามบินนาริตะ หรือสนามบินคันไซ ของสายการบิน AirAsia ส่วนใหญ่จะเป็นเที่ยวบินที่ถึงรอบดึก ถ้าจะให้นั่งรถไฟออกไปนอกเมืองเพื่อเข้าที่พักเลยก็น่าเสียดายนะคะ นอนพักจนถึงเช้าแล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวทีเดียวเลย
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง หรือสนามบินอื่นๆ นั้นไม่ใช่ว่าทุกที่จะสามารถนอนที่สนามบินได้ อย่างตัวผู้เขียนเองก็เคยเจอเหตุการณ์ฝังใจตอนไปเที่ยวยุโรปเมื่อนานมาแล้ว ที่ถึงสนามบินในตอนเช้าเลยจะต้องนอนที่สนามบิน แต่ก็ต้องตื่นเพราะโดยเป่านักหวีดใส่หู แต่ที่ญี่ปุ่นจะไม่เป็นแบบนั้นค่ะ นอกจากจะจัดที่นอนให้แล้ว ยังมีปลั๊กไฟให้ได้ชาร์ตแบตโทรศัทพ์ และยิ่งไปกว่านั้นที่สนามบินคันไซมีผ้าห่มให้ยืมด้วย(ฟรี !)
ซึ่งหากใช้บริการห้องอาบน้ำ(ประมาณ 1000 เยน)ที่เป็นบริการของสนามบินแล้ว ก็ไม่แตกต่างกับการพักที่โฮสเทลหรือเกสต์เฮาส์เลยค่ะ
แต่ข้อควรระวังในการนอนที่สนามบินก็คือ “ขโมย” ถึงประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ปลอดภัยมากเพียงไหนก็ตามแต่การทิ้งสิ่งของมีค่าเอาไว้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำค่ะ ควรจะเก็บสิ่งของมีค่าติดไว้กับตัวเลยหรือเอาไปฝากไว้ที่ล็อคเกอร์ ปลอดภัยเอาไว้ก่อนดีกว่านะคะ
ทั้งที่สนามบินนาริตะหรือสนามบินคันไซ จะมีล็อคเกอร์อยู่ตามจุดต่างๆ ภายในสนามบิน ทั้งไซส์เล็กที่สามารถใส่ของมีค่าชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงโน้ตบุ๊คราคาประมาณ 300 เยน ส่วนตู้ขนาดกลางที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็กได้จะอยู่ที่ 500 เยน
หากใครต้องการทราบว่าพื้นที่พักผ่อนของสนามบินอยู่ที่ไหนก็สามารถสอบถามได้ที่เคาน์เตอร์สอบถามข้อมูลของสนามบินได้เลยค่ะ เจ้าหน้าที่จะอธิบายจากแผนที่ให้แบบเข้าใจง่ายไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
2.บริการรถขนส่งเครื่องที่
อย่างที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ หรือท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ที่ระยะทางจากการตรวจคนเข้าเมืองไปถึงเกทนั้นจะไกลพอสมควร โดยเฉพาะเทอร์มินอล 2 ของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ(เทอร์มินอลลงจอดของ JAL AirAsiaX หรือ SCOOT)ระยะทางจากตรวจคนเข้าเมืองไปเกทนั้นไกลกว่า 500m ที่จำเป็นจะต้องเดินไปเท่านั้น(ที่สนามบินคันไซ จะมีรถไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างเกทและตรวจคนเข้าเมือง)ถึงแม้ว่าจะมีทางเลื่อนอัตโนมัติอยู่บ้างระหว่างทางแต่เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็อาจจะเหนื่อยกว่าปกติพอสมควร
ในเวลาแบบนี้เราสามารถใช้บริการ รถเครื่องที่ไฟฟ้าของสนามบินได้ ในกรณีของสนามบินที่ไทย ผู้ที่ใช้บริการเหล่านี้ได้ก็คือ ผู้โดยสารระดับ First Class และ VIP หรือ ผู้โดยสารที่ใช้บริการกรณีพิเศษเท่านั้น แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นหากรถว่างคนทั่วไปก็สามารถใช้บริการได้(แต่ทว่าจะต้องนับ ผู้โดยสารที่มีเด็ก ผู้โดยสารตั้งครรภ์ หรือผู้โดยสารสูงวัยก่อนเป็นอันดับแรก)
บริการนี้แม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็อาจไม่เคยทราบมาก่อน หากเจอรถไฟฟ้าวิ่งอยู่ก็สามารถทักสอบถามเพื่อขอใช้บริการได้ ให้ความรู้สึกเหมือนได้เป็น VIP ระหว่างไปที่เกทเลยค่ะ
3.บริการส่งสัมภาระ
สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วอุปสรรค์ในการท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ “สัมภาระ” ที่ญี่ปุ่นจะมีบริการที่จะช่วยคลายปัญหานี้ออกไปกับบริการส่งสัมภาระระหว่าง “สนามบิน” และ “โรงแรม” ภายในวันเดียวกัน บริการนี้จะมีอยู่ตามสนามบินต่างๆ ภายในประเทศญี่ปุ่น ทั้งสนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ หรือ สนามบินคันไซ ฯลฯ(เสียค่าบริการ)
ระบบบการส่งก็จะแตกต่างกันออกไปตามบริษัทขนส่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วหากทำเรื่องส่งของภายในช่วงเช้า สัมภาระก็จะถูกส่งไปที่โรงแรมในเมืองใกล้เคียงหรือบ้านที่พักอาศัย ก่อนเวลา 1 ทุ่ม บริการนี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่บินออกจากไทยรอบดึกและถึงญี่ปุ่นตั้งแต่เช้าตรู่ หากใช้บริการนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องแวะเข้าโรงแรมเพื่อเก็บสัมภาระ หรือไม่ต้องเสียเวลาฝากกระเป๋าที่ตู้ล็อคเกอร์ทุกครั้ง ให้ได้ท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งได้อย่างสบายตัวและสบายใจ
โดยส่วนใหญ่แล้วเคาน์เตอร์บริการส่งของ ของบริษัทต่างๆ จะอยู่บริการด้านข้างประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้า หรืออยู่ริมสุดสนามบินเลย ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับ แต่ละบริษัทิ แต่ละสนามบิน หรือระยะทางขนส่ง โดยปกติแล้วราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2000-3000 เยนต่อสัมภาระ 1 ชิ้น เพียงแค่กรอกชื่อ เบอร์โทร ชื่อสถานีหรือชื่อโรงแรมที่ต้องการส่ง และชำระเงิน เท่านี้ก็เรียบร้อย
ส่วนในกรณีบริการส่งสัมภาระจาก “โรงแรม” มาที่ “สนามบิน” อย่างสนามบินฮาเนดะ หรือ สนามบินนาริตะ นั้นจำเป็นต้องทำเรื่องเอาไว้ก่อน 2 วันก่อนออกเดินทางเพื่อให้สัมภาระท่านส่งมาถึงสนามบินก่อนเวลาเที่ยวบิน (กรณีการขนส่งจากภายใน 23 เขตของโตเกียว)
อ่านรายละอียด “บริการขนส่งสัมภาระระหว่างสนามบินและโรงแรม” คลิ๊กเลย
เป็นยังไงกันบ้างคะ ? เราได้นำเสนอบริการต่างๆ ภายในสนามบินที่เป็นประโยชน์ก่อนการเดินทางท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่นไปแล้ว ทั้ง
- บริการห้องอาบน้ำ
- จุดชมวิวสนามบิน
- โรงแรมแคปซูล
- โรงแรมแบบที่พักชั่วคราว
- บริการพื้นที่พักผ่อนแบบไม่คิดค่าบริการ
- บริการรถขนส่งเครื่องที่
- บริการส่งสัมภาระ
แต่ละอย่างเป็นบริการที่จะช่วยให้การเริ่มต้นการท่องเที่ยวหรือการสิ้นสุดการท่องเที่ยวของเพื่อนๆ ที่สนามบินเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ซึ่งนอกจากบริการต่างๆ ที่ได้นำเสนอไปแล้วยังมีบริการสนามบินอื่นๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่นคาเฟ่มังงะ(ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ)ย่านช้อปปิ้งสไตล์เมืองญี่ปุ่นโบราณสมัยเอโดะ(ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ・ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ)พื้นที่กิจกรรมสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น(ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ)หรือ บริการทัวร์ท่องเที่ยวภายในเมืองฟรีสำหรับผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่อง(ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ)ฯลฯ เป็นต้น เราหวังว่าข้อมูงของเราจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย ยังไงลองใช้บริการต่างๆ ภายในสนามบินญี่ปุ่นดูนะคะ แล้วพบกันใหม่♪