ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-2 ออกเดินทางจากใจกลางเมืองโตเกียวที่ “ชินจุกุ” เพื่อเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นการปีนภูเขาฟูจิที่ “สถานีภูเขาฟูจิที่ 5”
TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้พักผ่อนเต็มที่ที่「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」ทานอาหารเช้าสุดอลังการ และ เยี่ยมชมศาลเจ้าใจกลางเมืองโตเกียว “ศาลเจ้าฮิเอะ ซันโนะ”「HIE SANNOU JINJA」แล้ว
เราจะเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเพื่อเดินทางไปยังภูเขาฟูจิ สถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของเราในทริปนี้ โดย ICHIGO-CHAN จะเลือกเส้นทางยอดนิยมแม้แต่นักปีนเขามือใหม่ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกกับเส้นทาง “โยชิดะ กุจิ สถานีที่ 5”「YOSHIDA GUCHI GOGOUME」
โดยวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจากโตเกียวไปยังจุดเริ่มต้นเส้นทางปีนภูเขาฟูจิที่ “โยชิดะ กุจิ สถานีที่ 5”「YOSHIDA GUCHI STATION 5」และแนะนำการเตรียมตัวก่อนปีนภูเขาฟูจิกันค่ะ ไปดูกันเลย
โดยเราจะเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเก่าแก่ใจกลางโตเกียว「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」ที่ ICHIGO-CHAN ได้พักผ่อนไปเต็มที่แล้ว โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่ให้บริการมามากกว่า 45 ปี ทั้งการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นอะไรที่เอื้ออำนวยต่อผู้เข้าพักได้อย่างดี
เมื่อเช็คเอ้าท์เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปปีนภูเขาฟูจิกันแล้วค่ะ ซึ่งเราจะเดินทางไป “ภูเขาไฟฟูจิ” ด้วยการนั่งรถบัสจากเทอร์มินอลใหม่ที่อยู่ในชินจุกุกับ「ชินจุกุบัสเทอร์มินอล」ดังนั้นเราจะนั่งรถไฟใต้ดินเพื่อมุ่งหน้าไปที่「ชินจุกุบัสเทอร์มินอล」กันค่ะ
เช็คเอ้าท์เรียบร้อยแล้วก็ลงลิฟต์ไปที่ชั้น 1F เพื่อไปที่ทางออกโรงแรม เมื่อออกมานอกอาคารแล้วก็ข้ามทางม้าลายที่อยู่ตรงหน้าเพื่อข้ามไปถนนอีกฝั่ง เมื่อข้ามมาแล้วก็จะเห็นทางเข้าสถานีอากาซากะมิสึเกะของรถไฟโตเกียวเมโทรอยู่ขวามือทันที เข้าไปด้านในสถานีเลย เมื่อเข้ามาแล้วก็ลงบันไดเลื่อนที่อยู่ขวามือเลย
เมื่อลงมาแล้วก็จะเจอลานกว้างจุดนัดพบสถานีของสถานีอากาซากะ มิสึเกะ อยู่ขวามือเลย เราสามารถใช้บัตร「Tokyo Subway 24 Hours Ticket」ที่สามารถนั่งรถไฟโตเกียวเมโทร และรถไฟใต้ดิน TOEI ได้ไม่อั้น 24 ชั่วโมง ที่ซื้อจากสนามบินนาริตะ ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วได้เลย เมื่อผ่านเข้ามาแล้วก็มุ่งหน้าไปที่ชานชาลารถไฟสายมารุโนะอุจิเลย
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่มีบัตร「Tokyo Subway 24 Hours Ticket」หรือ IC CARD เช่น Suica และICOCA ก็จะต้องทำการซื้อตั๋วก่อนผ่านเข้าช่องตรวจตั๋ว
โดยก่อนอื่นจะต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งตั๋วไปสถานี “สถานีชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME” ที่อยู่ใกล้ “ชินจุกุบัสเทอร์มินอล” มาที่สุด ราคาอยู่ที่ 170 เยน จากนั้นกด「Language」ที่บนขวาหน้าจอ เพื่อเลือกภาษาเป็น “ภาษาไทย” และกดปุ่มตามขั้นตอน และเลือกราคาตั๋ว 170 เยนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัติโนมัติของโตเกียวเมโทรส่วนใหญ่จะรองรับภาษา “ไทย” ด้วยเพราะฉะนั้นคลายกังวลเรื่องการซื้อตั๋วได้เลยค่ะ
เมื่อผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วมาแล้วก็ไปทางซ้ายมือ เพื่อขึ้นรถไฟที่ชานชาลาสายมารุโนะอุจิ รถไฟสายมารุโนะอุจิจะวิ่งทุกๆ 3-5 นาที รถไฟทุกขบวนที่มาจอดจะมุ่งหน้าไปสู่「ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME」ทั้งหมด เพราะฉะนั้นขึ้นขบวนไหนก็ได้เลยค่ะ จาก อากาซากะมิสึเกะ นั่งไปสถานีชินจุกุซันโจเมะ จะต้องนั่งไป 4 สถานีใช้เวลา 7 นาที แปปเดียวเท่านั้น โดยที่สายมารุโนะอุจินั้นจะมีสถานีที่มีคำว่า “ชินจุกุ” อยู่ถึง 4 สถานีคือ「ชินจุกุเกียวเอ็น SHINJUKU-GYOEM」「ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME」「ชินจุกุ SHINJUKU」「นิชิชินจุNISHI-SHINJUKU」ส่วนสถานีที่เป็นย่านช้อปปิ้งที่สะดวกที่สุดก็คือสถานี「ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME」ซึ่งหากนั่งเลยไปถึงสถานี “ชินจุกุ” เลยก็ต้องเดินย้อนกลับมาพอสมควรเลย เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูสถานีให้ดีนะคะ
เมื่อลงรถไฟที่สถานี ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME แล้วก็เดินไปตามทางเดินไปจนสุดทาง และขึ้นบันไดเลื่อนมาเพื่อไปที่ชานชาลารถไฟใต้ดินสายฟูกุโทะชิน FUKUTOSHIN LINE
เมื่อถึงชานชาลารถไฟใต้ดินสายฟูกุโทะชิน FUKUTOSHIN LINE แล้วก็เดินไปตามทางเดินยาวๆ ไปเรื่อยๆ จนสุดทาง เมื่อเจอบันไดเลื่อนแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไป และออกจากช่องตรวจตั๋วไป และเดินไปทางซ้ายมือ
เดินไปจนสุดทางก็จะเจอทางเข้าห้างและบันไดอยู่ซ้ายมือ ส่วนด้านขวามือจะเป็นลิฟต์ ให้ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนดินเลย เพื่อขึ้นมาแล้วก็ยูเทิร์นไปทางขวามือ เดินไปซักพักก็จะเจอบันไดเลื่อนอยู่ซ้ายมือ ให้ขึ้นไปเลย จะขึ้นมาสู่บริเวณระเบียง และขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ตรงหน้าไปอีกรอบ
เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมา 2 รอบแล้วก็จะเห็นสถานีชินจุกุ และวิวประตูทางเข้าออกใต้ของสถานีชินจุกุอยู่ด้านซ้ายมือ บรรยากาศรถไฟหลายขบวนวิ่งเข้าออกสถานีเป็นจำนวนมาก รู้สึกถึงเมืองโตเกียวจริงๆ เลยค่ะ วิวนี้เป็นวิวที่อยู่ในฉากภาพยนต์อนิเมะชื่อดัง “คิมิโนะนาวะ”「KIMI NO NAWA」อีกด้วย
ลงบันไดเลื่อนไป ก็จะเจอบัสเทอร์มินอล「ชินจุกุบัสเทอร์มินอล」ที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวอยู่ขวามือ ที่ ชินจุกุบัสเทอร์มินอล นี้จะมีทั้งรถบัสที่มุ่งหน้าไปสู่ “ภูเขาฟูจิ” “สนามบินนาริตะ” สนามบินฮาเนดะ” “ดิสนีย์แลนด์” หรือระยะทางไกลอย่าง “โอซาก้า” “เกียวโต” และไกลกว่านั้นก็คือ “คิวชู” “ฟูกุโอกะ” อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่สามารถเชื่อมต่อไปได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นเลย
โดยก่อนที่เราจะไปด้านใน ชินจุกุบัสเทอร์มินอล เราจะฝากของที่ไม่จำเป็นในการปีนเขาที่เป็นสัมภาระชิ้นใหญ่เอาไว้ที่ล๊อคเกอร์ก่อน แม้ว่าภายใน ชินจุกุบัสเทอร์มินอล เองก็มีตู้ล๊อคเกอร์เช่นกันแต่ล๊อคเกอร์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบคิดตามเวลา ราคาจะเพิ่มขึ้น 2 ชั่วโมงละ 100 ถึง 200 เยน(ขึ้นอยู่กับขนาด)ซึ่งหากเราฝากเป็นเวลา 2 วันค่าฝากก็จะแพงมาก เพราะฉะนั้นเราจะทำการฝากของที่ล๊อคเกอร์ก่อนถึง ชินจุกุบัสเทอร์มินอล ซึ่งมีอยู่หลายขนาด
ขนาดเล็ก สามารถใส่ของกระเป๋าเป้ขนาดเล็ก หรือถุงของฝากต่างๆ ได้ 400 เยนต่อวัน
ขนาดกลาง สามารถใส่ประเป๋าเดินทางขนาดกลางได้ 500 เยนต่อวัน
และขนาดใหญ่ สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ 600 เยนต่อวัน
ซึ่งเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วจะอยู่ชั้น 4F ของบัสเทอร์มินอล เมื่อฝากของเรียบร้อยแล้วยังไม่ต้องเข้าไปในบัสเทอร์มินอลค่ะ ขึ้นบันไดเลื่อนหน้าทางเข้าเลย เมื่อขึ้นมาแล้วเดินไปอีกซักพักก็จะเจอ “ชินจุกุบัสเทอร์มินอล”「Shinjuku Expressway Bus Terminal」อยู่ซ้ายมือ
ซึ่งด้านในอาคาร “ชินจุกุบัสเทอร์มินอล” ก็จะเจอเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติและเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วอยู่ตรงหน้า ซึ่งตั๋วรถบัสที่มุ่งหน้าไปสู่ “สถานีภูเขาฟูจิที่ 5” สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วหมายเลข 5 รถบัสที่วิ่งจากชินจุกุไปสู่สถานีภูเขาฟูจิที่ 5 จะวิ่งวันละ 12 เที่ยว ตั้งแต่เช้า 6:45 น. ไปจนถึง 19:25น. ราคา 2700 เยน สามารถชำระเงินได้ด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิต เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วสามารถรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เพราะฉะนั้นซื้อตั๋วได้ง่ายไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ส่วน ICHIGO-CHAN เลือกรถบัสรอบเช้า 9:35 น. ค่ะ
ภายในบัสเทอร์มินอลนี้นอกจากจุดจำหน่ายตั๋วแล้วยังมีทั้ง ห้องน้ำ ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายของฝากของโตเกียว หรือพื้นที่อื่นๆ มากมาย สามารถซื้อขนมหรือเครื่องดื่มเอาไว้ทานในรถบัสระหว่างมุ่งหน้าไปภูเขาฟูจิได้นะคะ
จุดขึ้นรถบัสที่ชินจุกุบัสเทอร์มินอลก็จะต่างกันออกไปตามบริษัทรถบัสและสถานที่ที่จะไปค่ะ ซึ่ง “สถานีภูเขาฟูจิที่ 5” ที่เรากำลังจะมุ่งหน้าไปตอนนี้รถบัสจะออกจากประตู 「B5」รถบัสของเราเป็นลายอนิเมะทั้งคันเลย ตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็จะเป็นที่นั่งเรียงกันฝั่งละสองแถว แต่ละที่นั่งมีปลั๊กให้ชาร์ตแบตได้อีกด้วย เราจะใช้เวลาเดินทางจากชินจุกุไปสถานีภูเขาฟูจิที่ 5 ระหว่างทางจะผ่านสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ ชิราคาวาโกะ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 35 นาที จะไม่มีการพักเข้าห้องน้ำระหว่างทาง แต่ด้านหลังรถจะมีห้องน้ำอยู่เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยค่ะ
บัสจะออกจากบ่านชินจุกุที่มีแต่ตึกสูง ไปเพื่อเข้าสู่เส้นทางธรรมชาติเรื่อยๆ ค่ะ และเมื่อนั่งไปประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็จะเริ่มเข้าสู่เส้นทางขึ้นภูเขาฟูจิ「FUJI SUBARU LINE富士スバルライン」กันเลยค่ะ ระหว่างทางก็จะได้ชมวิวภูเขาฟูจิที่งดงาม เส้นทางธรรมชาติ แปปเดียวเท่านั้นก็มาถึงที่หมายที่ “สถานีภูเขาฟูจิที่ 5” ที่มีความสูง 2305m จากความสูงทั้งหมดที่ 3776m
เริ่มด้วยการท่องเที่ยวจากโตเกียว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง มายัง “เส้นทางซูบะรุ ฟูจิสถานีที่ 5”「FUJI SUBARU LINE STATION 5」แค่ที่นี้ก็มีอะไรให้เที่ยวแล้ว จุดนี้จะมีลานกว้างเล็กๆ และกระท่อมบนเขาที่มีของฝากจำหน่ายอยู่ นักท่องเที่ยวครึกครื้นกันมากเลยค่ะ ซึ่งทางเข้าเส้นทางภูเขาฟูจิจะมีอยู่ 4 ที่ก็คือ “โยชิดะ กุจิ”「YOSHIDA GUCHI吉田口」 “ชิบะชิริ กุจิ”「SHIBASHIRI GUCHI須走口」 “ฟูจิมิยะ กุจิ”「FUJIMIYA GUCHI富士宮口」และ “โกเท็มบะ กุจิ”「GOTEMBA GUCHI御殿場口」ซึ่งเส้นทางที่สะดวกและได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ “โยชิดะกุจิ”「 YOSHIDA GUCHI」จาก “เส้นทางซูบะรุ ฟูจิสถานีที่ 5” นักท่องเที่ยวที่มาปีนภูเขาฟูจิกว่าครึ่งจะใช้เส้นทางนี้ค่ะ
ก่อนอื่นเราจะไปศาลเจ้า 「FUJISAN KOMITAKE SHRINE」เพื่อขอพรให้เราเดินขึ้นภูเขาฟูจิได้อย่างราบรื่นตลอดการเดินทางค่ะ โดยเดินเยื้องๆ ไปซ้ายของลานกว้างจะเห็นโทริอิอยู่ ให้ผ่านเข้าไปและตรงไปเลย ก็จะเข้ามาสู่บริเวณศาลเจ้า「FUJISAN KOMITAKE SHRINE」ค่ะ ซึ่งแม้ว่าด้านซ้ายมือจะมีอ่างน้ำชำระล้างร่างกายอยู่แต่น้ำที่นี่ไม่ไหลค่ะ เนื่องจากบนความสูง 2305m นี้จะไม่มีน้ำไหลอยู่ที่ “เส้นทางซูบะรุ ฟูจิสถานีที่ 5” เพราะฉะนั้นถือว่าน้ำเป็นอะไรที่หายากและสำคัญมากๆ เลยค่ะ ห้องน้ำที่นี้ก็จะแตกต่างจากชักโครกทั่วไปและจุดล้างมือก็จะมีอยู่จำกัดค่ะ
ผ่านจุดชำระล้างร่างกายไปก็ผ่านโทริอิหินเพื่อเข้าไปสู่อาคารหลักของศาลเจ้ากันค่ะ “ภูเขาฟูจิ” ที่กลายเป็นหนึ่งในภูเขาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นนั้น เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ「โคมิทาเกะ KOMITAKE 」และ「โคะฟูจิ KOFUJI」จนกลายมาเป็นภูเขาฟูจิ ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เดิมที่เคยตั้งอยู่บนยอดภูเขา「โคมิทาเกะ KOMITAKE」ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 1518 หรือมากกว่า 1000 ปีที่ผ่านมา และเป็นศาลเจ้าที่ผู้คนนิยมกราบไหว้สักการะขอพรให้สามารถปีนขึ้นภูเขาฟูจิได้สำเร็จและปลอดภัย ก่อนการเดินทางขึ้นภูเขาฟูจิมายาวนานจนถึงปัจจุบัน
ด้านในอาคารศาลเจ้าหลักจะมีทั้งเซียมซี(100 เยน)หรือเครื่องรางของขลังต่างๆ จำหน่ายอยู่มากมาย และเทพเจ้าที่ถูกประดับอยู่ภายในอาคารศาลเจ้าหลักก็คือเทพเจ้าที่มีจมูกยาว เทพเจ้าเท็งงุ TENGU SAMA(ด้านบนภาพ)ว่ากันว่าเทพเจ้าเท็งงุจมูกยาวนี้เป็นเทพเจ้าแห่งการเปิดภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งจะออกมาในพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลเปิดเส้นทางภูเขาฟูจิ เทศกาลไคซัน KAIZANSAI ในวันที่ 1 เดือนกรกฏาคมนั่นเอง
และเข้าไปลึกสุดศาลเจ้าก็จะมีจุดชมวิวที่สามารถชมวิว ชิราคาวาโกะ หรือทางฝั่งทะเลสาบยามานากะได้ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงหลังจากปิดเส้นทางภูเขาฟูจิ วันที่ 10 เดือนกันยายน บริเวณโดยรอบก็จะค่อยๆ เข้าสู่บรรยากาศฤดูใบไม้ผลิ เมื่อเข้าสู่ปลายเดือนกันยายนใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี จนกระทั่งเดือนตุลาคมก็จะเป็นช่วงที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างสวยงาม
เอาล่ะค่ะ หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้กราบไหว้ขอพรที่ศาลเจ้า และเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนปีนขึ้นภูเขาฟูจิแล้ว ก็เริ่มปีนจากสถานีภูเขาฟูจิที่ 5 เลย
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ทานอาหารกลางวันที่ “สถานีภูเขาฟูจิที่ 5” และแนะนำสิ่งที่จำเป็นในการปีนภูเขาฟูจิกันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
【ตารางการเดินทาง Day2-2 FUJISAN SUBARULINE 5th】