4 แหล่งชมซากุระ คู่แลนด์มาร์กเด่นทั่วประเทศญี่ปุ่น

ซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี โดยช่วงซากุระบานจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่นซึ่งจะเริ่มบานช่วงกลางเดือนมีนาคม ไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม  และแหล่งชมซากุระขึ้นชื่อก็มีอยู่มากมาย ในแต่ละพื้นที่ และเพื่อเพิ่มพิเศษในการชมซากุระมากขึ้นเราจะพาไปร็จักกับสถานที่ชมซากุระคู่กับสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กเด่นในประเทศญี่ปุ่น

1.ซากุระกับ “โตเกียวสกายทรี” (โตเกียว)

สถานที่แรกคือ “โตเกียว” เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เมืองแรกที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาด ซึ่งสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ ซากุระเรียบแม่น้ำซุมิดะ โดยบริเวณเรียบแม่น้ำซุมิดะมีต้นซากุระอยู่กว่า 1000 ต้น เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร และบริเวณสวนซุมิดะอยู่อีกประมาณ 510 ต้น อีกทั้งยังรวมซากุระขึ้นชื่อเอาไว้หลากหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็น โซเมอิโยชิโนะ โอชิมะซากุระ ซาโตะซากุระ ฯลฯ เป็นต้น

ซึ่งจุดชมซากุระเรียบแม่น้ำซุมิดะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ “วิวซากุระคู่โตเกียวสกายทรี” ใกล้สถานีอาซากุสะ จากย่านอาซากุสะ จะเป็นมุมที่สามารถเห็นวิวโตเกียวสกายทรีได้ชัดไม่มีตึกบังเนื่องจากมีแม่น้ำซุมิดะขั้นกลางอยู่

นอกจากวิวซากุระคู่โตเกียวสกายทรีแล้ว ก็สามารถเพลิดเพลินกับซากุระเรียบแม่น้ำซุมิดะได้กับ เรือสำราญเที่ยวชมเมือง “TOKYO CRUISE” โดยเฉพาะในช่วงซากุระบานยิ่งได้บรรยากาศที่พิเศษไปอีกแบบ

การเดินทางไปยังสถานีอาซากุสะ : รถไฟโทบุสกายทรีไลน์ (TOBU SKYTREE LINE) หรือ รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สายอาซากุสะ (Asakusa Line) และสายกินซ่า(Ginza Line)

*เทศกาลซากุระสวนซุมิดะ ประจำปีพ.ศ.2563 มีแผนจัดขึ้นในวันที่ 20 มีนาคม ถึงวันที่ 5 เมษายน แต่ถูกยกเลิกไปเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

2.ซากุระกับ “ภูเขาฟูจิและเจดีย์ห้าชั้น” (ยามานาชิ เมืองฟูจิโยชิดะ)

สถานที่ 2 คือ “ฟูจิ” สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องการสัมผัสความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของฟูจิซักครั้งในชีวิต แม้แต่คนญี่ปุ่นเอง ซึ่ง “สวนอาราคุระยามะเซ็นเก็น(เจดีย์ห้าชั้น จูเรโต)” ถือเป็นจุดชมวิวภูเขาฟูจิขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นจุดชมวิวซากุระขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเช่นกัน โดยเป็นวิวที่จะได้สัมผัสสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กันถึง 3 อย่างคือ ภูเขาฟูจิ ซากุระ และเจดีย์ห้าชั้นที่เรียกว่า “จูเรโต”

นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ แล้วยังสามารถเพลิดเพลินกับซากุระได้อย่างเต็มที่ กับซากุระภายในสวนอาราคุระยามะเซ็นเก็นที่มีมากถึง 650 ต้นเลยทีเดียว

ช่วงเวลาซากุระบานของศาลเจ้าอาระคุระเซ็นเก็น โดยปกติแล้วจะอยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนเมษายน และที่สวนอาระคุระยามะเซ็นเก็นจะจัดเทศกาลซากุระ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “ซากุระมัทสึริ” โดยในปีพ.ศ.2563 ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 มีแผนจัดงานในวันที่ 4-19 เมษายน (ถูกยกเลิกเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19) หากเพื่อนๆ มีแผนเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงซากุระบาน และต้องการเดินทางไปชมวิวฟูจิด้วยก็ไม่ควรพลาดที่นี่เลย

โดยศาลเจ้าอาราคุระเซ็นเก็น และสวนอาระคุระยามะเซ็นเก็น ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ เมืองฟูจิโยชิดะ การเดินทางนั้นสามารถนั่งรถไฟสายฟูจิคิวโค (Fujikyuko Line) มายังสถานีชิโมะโยชิดะ และเดินเท้าไปอีกประมาณ 20 นาที ตั้งแต่สถานีชิโมะโยชิดะจะมีป้ายบอกทางตลอดเฉพาะฉะนั้นไม่หลงแน่นอน

3.ซากุระกับ “ปราสาทโอซาก้า” (โอซาก้า)

สถานที่ 3 คือ “โอซาก้า” เป็นอีกเมืองที่คนรักญี่ปุ่นไม่ควรพลาด และสัญลักษณ์ของโอซาก้าก็คือ “ปราสาทโอซาก้า” สถานที่ที่เพลิดเพลินกับซากุระได้เต็มที่ กับต้นซากุระกว่า 3000 ต้น ภายในสวนปราสาทโอซาก้า ล้อมลอบตัวปราสาท ซากุระของที่นี่บานในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ไปจนถึงต้นเดือนเมษายน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ)

และอีกจุดไฮไลท์ของซากุระในพื้นที่ปราสาทโอซาก้าก็คือ สวนนิชิโนะมารุ(มีค่าบริการเข้าชม) กับพื้นที่ซากุระกว่า 300 ต้นที่รวมซารุกะพันธุ์เด่นอย่างเช่น โซเมอิโยชิโนะ ฯลฯ เอาไว้ นอกจากนี้ที่บริเวณประตูทามะซึคุริ (Tamatsukuriguchi) ยังมีต้นซากุระพันธุ์ที่บานช้ากว่าพันธุ์อื่นอย่าง “ยาเอะซากุระ” ให้ได้เพลิดเพลินกับซากุระไปจนถึงช่วงท้ายของฤดูซากุระกันเลย

หลังจากชมซากุระในช่วงกลางวันแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลิน ฉายไฟซากุระ ในช่วงกลางคืนคู่กับหอคอยปราสาทโอซาก้าได้อีกด้วย

การเดินทาง : สถานีที่ใกล้เคียง รถไฟ JR สาย Osaka Loop Line สถานีโอซาก้าโจโคเอ็น (JR Osakajokoen Staion)หรือ สถานีโมริโนะมิยะ (JR Morinomiya Station) / รถไฟฟ้าใต้ดิน Osaka Metro สถานีโมริโนะมิยะ หรือ สถานีทานิมาจิยงโจเมะ

4.ซากุระกับ “ศาลเจ้าฮิราโนะ” (เกียวโต)

สถานที่สุดท้าย คือ “เกียวโต” เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น ที่มีกลิ่นอายความเป็นเมืองโบราณที่มีเสน่ห์ มีทั้งวัดและศาลเจ้าขึ้นชื่อในประเทศญี่ปุ่นอยู่มากมายหลายแห่ง ซึ่งสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นอันดับหนึ่งในเกียวโตก็คือ “ศาลเจ้าฮิราโนะ” เป็นศาลเจ้าแห่งซากุระที่ขึ้นชื่อ มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่อดีตที่เกียวโตยังเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1200 กว่าปีก่อน ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้มีซากุระหลากหลายสายพันธุ์กว่า 60 ชนิด รวมแล้วกว่า 400 ต้น ดอกซากุระจะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนมีนาคม และช่วงเวลาเที่ยวชมซากุระได้สวยงามเต็มที่คือ ช่วงปลายเดือนมีนาคม ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ อย่างเช่น พันธุ์ซากิกาเกะซากุระ พันธุ์เด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ จะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม โดยปีพ.ศ.2563 นี้เริ่มบานตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม วิวเด่นของศาลเจ้าฮิราโนะก็คือ วิวซากุระตัดกับเสาโทริอิสีแดงเรียงรายทั้งสองข้างทางอย่างสวยงาม

ซึ่งความพิเศษของช่วงซากุระก็คือ ร้านน้ำชา ที่สามารถนั่งทานชากับขนมญี่ปุ่นชมซากุระภายในศาลเจ้าได้ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่น และในช่วงเวลากลางคืนของช่วงซากุระบานก็มีการฉายไฟต้นซากุระอีกด้วย (เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จึงปิดให้บริการในส่วนร้านค้า ร้านน้ำชาภายในศาลเจ้า แต่ยังสามารถเยี่ยมชมซากุระและเคารพศาลเจ้าได้ตามปกติ)

การเดินทางไปยังศาลเจ้าฮิราโนะ : โดยปกติสามารถเดินทางด้วยรถไฟ JR มายังสถานีเกียวโต จากนั้นนั่งบัส(สาย 50 หรือ 205) แต่หากเป็นช่วงซากุระบาน นักท่องเที่ยวจะแออัดมากเป็นพิเศษ ดังนั้นแนะนำการเดินทางด้วย รถไฟรันเด็น (RANDEN หรือรถไฟเคฟุกุ) สายคิตาโนะ (Kitano Line)เดินทางมายังสถานีคิตาโนะฮากุไบโจ(Kitano-Hakubaicho Station)จากนั้นเดินเท้าไปอีกประมาณ 10 นาที

แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ช่วงของซากุระบาน นักท่องเที่ยวสามาถชมซากุระได้แทบทุกหนแห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่หากได้ชมซากุระไปพร้อมๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ หรือสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น รับรองว่าจะได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประทับใจมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

เพิ่มเติมทิ้งท้าย “ข้อมูลพยาการณ์ซากุระโดยรวมในปี 2020 ตามแต่ละพื้นที่”

แถบคันไซ
“โอซาก้า” เริ่มบานในช่วงประมาณวันที่ 20 มีนาคม และบานเต็มที่ประมาณวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2563
“เกียวโต” เริ่มบานในช่วงประมาณวันที่ 20 มีนาคม และบานเต็มที่ประมาณวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2563
“วาคายาม่า” เริ่มบานในช่วงประมาณวันที่ 19 มีนาคม และบานเต็มที่ประมาณวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2563
พื้นที่อื่นๆ
“ฮอกไกโด” เริ่มบานในช่วงประมาณวันที่ 22 เมษายน และบานเต็มที่ประมาณวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2563
“โตเกียว” เริ่มบานในช่วงประมาณวันที่ 14 มีนาคม และบานเต็มที่ประมาณวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2563
“ฟูกุโอกะ” เริ่มบานในช่วงประมาณวันที่ 21 มีนาคม และบานเต็มที่ประมาณวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2563

(ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงการคาดการณ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศในแต่ละช่วง)

ถึงแม้ว่าจะพลาดซากุระในปีนี้ไป ก็สามารถนำข้อมูลปีนี้ไปวางแพลนเที่ยวสำหรับปีหน้ากันได้