ทำความรู้จัก 5 เนื้อแบรนด์ดังในญี่ปุ่น

ทำความรู้จัก 5 เนื้อแบรนด์ดังในญี่ปุ่น

UP DATE 19.ก.ค.2662

ในบรรดา “เนื้อญี่ปุ่น” แบรนด์ที่เพื่อนๆ รู้จักก็คงจะหนีไม่พ้น “เนื้อโกเบ” “เนื้อมัตซึซากะ” หรือ “เนื้อฮิดะ” ที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงคนไทยด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ารสชาติก็เนื้อแบรนด์ด้วยเหล่านี้ก็เป็นเลิศ มีรีวิวความอร่อยเลิศของเนื้อเหล่านี้อยู่ไม่น้อย จนทำให้หลายๆ คนอยากจะบินลัดฟ้าท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเพื่อสัมผัสรสชาติความอร่อยของเนื้อเหล่านี้กันอยู่ไม่น้อย และถึงแม้ว่าเนื้อที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีอยู่มากมายหลากหลายยี่ห้อ แต่ในครั้งนี้เราจะไปพูดถึง “เนื้อแบรนด์ดังของญี่ปุ่น” ขึ้นชื่อติดอันดับท๊อป 10 ในญี่ปุ่นทั้งหมด 5 แบรนด์ ดังนี้

  • เนื้อโกเบ
  • เนื้อมัตซึซากะ
  • เนื้อโอมิ
  • เนื้อฮิดะ
  • เนื้อทาจิมา

การทานเนื้อในประเทศไทยนั้น หลายๆ ท่านอาจไม่ทานเนื้อส่วนใหญ่ด้วยเหตุผลว่าเนื้อนั้น เหนียว หรือ แข็ง ทานยากใช่ไหมเอ่ย? ซึ่งหลายๆ คนที่ไม่ทานเนื้อ เมื่อได้มาลองทานเนื้อที่ญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนความคิดแบบเดิมๆ ไปเลย เพราะความอร่อยนุ่มของเนื้อญี่ปุ่นทำให้หลายๆ คนที่ไม่ทานเนื้อหันมารักการทานเนื้อกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งชื่อเนื้อต่างๆ ที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่น อย่างเนื้อมัตซึซากะ หรือเนื้อโกเบนั้นก็คือชื่อยี่ห้อของเนื้อต่างๆ นั่นเอง โดย ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ การเลี้ยงดู และอาหารที่แตกต่างกันออกไปทำให้ได้เนื้อวัวที่มีรสชาติ และรสสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ ในแต่ละแบรนด์ ซึ่งเนื้อวัวที่ถูกจัดว่าเป็น สุดยอดเนื้อญี่ปุ่น 3 อันดับก็คือ “เนื้อโกเบ” “เนื้อมัตซึซากะ” และ “เนื้อโอมิ” ที่อยู่ในลิสต์นั่นเอง

“เนื้อโกเบ” / “KOBE BEEF”

 “เนื้อโกเบ” นั้นต้นกำเนิดก็คือเนื้อทาจิมะ โดยเนื้อโกเบเป็นเนื้อจากจังหวัดเฮียวโงะ และเป็นเนื้อที่ถูกคัดเลือกให้อยู่ในลำดับ A หรือมากกว่า B4 เท่านั้นจึงจะเป็นเนื้อโกเบ ซึ่งเนื้อโกเบได้แพร่หลายเป็นที่รู้จักไม่เฉพาะภายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ตั้แต่ท่าเรือโกเบได้เปิดท่าเรือเพื่อให้เรือต่างชาติเข้ามา จนเนื้อโกเบได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วไปโลกนั่นเอง

ลักษณะเด่นของ “เนื้อโกเบ” นั้น ส่วนเนื้อ (หลังจากแล่หนัง กระดูก และเครื่องในออกแล้ว) จะมีปริมาณเนื้อทีรับประทานได้อยู่เยอะ โดยเฉพาะเนื้อส่วนต่างๆ ที่จะได้เนื้อชิ้นใหญ่ มีไขมันแทรกอยู่อย่างละเอียด ซึ่งไขมันที่อยู่ในเนื้อโกเบจะสามารถละลายได้ในอุณภูมิที่ต่ำกว่าเนื้ออื่นๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นลายเนื้อ รสสัมผัส และรสชาติของเนื้อโกเบจะมีความแตกต่างจากเนื้ออื่นๆ เป็นอย่างมาก

“โกเบ” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ มีประชากรประมาณ 1,530,000 คน เป็นเมืองท่าเรือที่โด่งดังของญี่ปุ่น ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ไม่น้อย เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่แบ่งออกเป็น 5 พื้นที่คือ ฮันชิน, ฮาริมะ, ทาจิมะ, ทัมบะ และอาวาจิ ที่แต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันออกไปทั้งสภาพดินฟ้าอากาศ และภูมิประเทศ จนถูกขนานนามว่าเป็นประเทศญี่ปุ่นแบบย่อส่วนกันเลยทีเดียว

“เนื้อทาจิมะ” / “TAJIMA BEEF”


 “เนื้อวัวทาจิมะ” ถือได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญของเนื้อที่เป็นต้นกำเนิดเนื้อแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย ดังนั้นหากไม่มี “วัวทาจิมะ” นี้ก็อาจไม่มีแบรนด์เนื้อดังๆ อร่อยๆ ออกมาให้ลิ้มลองมากมายขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจถึงสาเหตุที่ทำให้ “เนื้อทาจิมะ” เป็นเนื้อชั้นเยี่ยมที่สุดของเนื้อวากิว(เนื้อญี่ปุ่น)เลย และเมื่อ 20 ปีก่อนได้มีการผสมสายพันธุ์วัวทาจิมะกับพันธุ์อื่นๆ จนเกิดเป็นเนื้อวัวแบรนด์ต่างๆ มากมายนั่นเอง

โดยลักษณ์เด่นของ “เนื้อทาจิมะ” นั้น ก็คือลายหินอ่อนละเอียดแบบเนื้อวัวชั้นเยี่ยมที่มีลายไขมันกระจายอยู่ทั่วบริเวณกล้ามเนื้อ เนื้อทาจิมะนุ่มลิ้นจนละลาย ทั้งรสชาติของเนื้อแท้และความหอมมันของไขมันที่เกาะตัวอยู่บนเนื้อ กลายเป็นความหวานหอมที่ลงตัว เป็นรสชาติที่เยี่ยมยอดไร้ที่ติกันเลยทีเดียว

 “เนื้อทาจิมะ” นั้น เป็นเนื้อที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่เมืองทาจิมะ ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ  มีประชากรอาศัยอยู่ 2 แสน 3 พันคน รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงพันเมตรในเทือกเขาเฮียวโนะเซ็น ซึ่งภูเขาจะอยู่เกือบติดเส้นทางเรียบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นเลยทีเดียว เนื่องจากว่าพื้นที่ราบ มีแต่แม่น้ำ และพื้นที่ที่เป็นแอ่งเท่านั้น ดังนั้นในช่วงฤดูหนาวในบริเวณหุบเขาอาจมีช่วงที่หิมะตกหนัก และอาจมีช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง

โดย “จังหวัดเฮียวโงะ” ที่เป็นแหล่งกำเนิดของ “เนื้อโกเบ” ที่โด่งดัง และ “เนื้อทาจิมะ” ที่เป็นต้นตระกูลของเนื้อแบรนด์ดังหลายยี่ห้อ นั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น  “ปราสาทฮิเมจิ”, “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” ขนาดใหญ่มหึมา หรือ “ลานหิมะร๊อคโคซัน” ที่สามารถเพลิดเพลินกับหิมะได้อย่างเต็มที่ในแถบคันไซ ฯลฯ อีกมากมาย เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ควรไปเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

 “เนื้อมัตซึซากะ” / “MATSUZAKA BEEF”

 “เนื้อมัตซึซากะ” เป็นวัวที่อยู่ในพื้นที่ตั้งแต่ แม่น้ำคุโมซุงาวะ(出雲川)ไปจนถึง แม่น้ำมิยางาวะ(宮川) ทางตอนกลางของจังหวัดมิเอะ จากวัววากิวขนดำ (คุโรเกะวากิว) เพศเมียที่ยังไม่เคยมีลูกเท่านั้นถึงจะเรียกว่าเป็นเนื้อมัตซึซากะได้ และด้วยลายเนื้อที่สวยงามนี้ทำให้เนื้อวัวชนิดนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “ศิลปะแห่งเนื้อ” เลยทีเดียว

โดยเป็นเนื้อที่มีลายเนื้อละเอียด ลายเนื้อสวยงาม เนื้อนุ่มหวานมันเป็นเอกลักษณ์ เป็นเนื้อที่ละลายง่ายด้วยอุ่นภูมิที่ไม่สูงมาก เมื่อเข้าปากก็ละลายในปาก ยิ่งย่างยิ่งหอมอร่อย

ซึ่งแหล่งกำเนิดเนื้อมัตซึซากะก็คือ เมืองมัตซึซากะ และบริเวณใกล้เคียงในจังหวัดมิเอะ ที่มีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองประมาณ 170,000 คน ในพื้นที่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นพื้นที่ภูเขา ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นบริเวณที่ราบอิเสะที่กว้างขวาง ถึงแม้ว่าบริเวณที่อยู่ระหว่างภูเขาจะเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมาก แต่ก็เป็นบริเวณที่ค่อนข้างอบอุ่นโดยอุณภูมิเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 14-16 องศา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของวัวนั่นเอง

โดยจังหวัดชิงะก็เป็นพื้นที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ศาลเจ้าอิเซะ” ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับ “ถนนโอฮาไรมาจิ” เท่านั้นไม่พอยังมี “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ” หรือ “ศาลเจ้าฟุตามิ โอคิทามะ” ที่อยู่ติดทะเลอีกด้วย

“เนื้อโอมิ” / “OMI BEEF”

เนื้อโอมินั้น มักจะนิยมรับประทานในเมนู “สุกิยากิ” (สุกี้ญี่ปุ่น) เป็นเนื้อที่มีต้นกำเนิดกว่า 400 ปี เป็นวัตถุดิบที่ชนชั้นสูงรับประทานตั้งแต่สมัยก่อน และยังเป็นหนึ่งในสามสุดยอดเนื้อวัวญี่ปุ่นอีกด้วย

โดย “เนื้อวัวโอมิ” เป็นวัวที่ถูกเลี้ยงดูท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เนื้อมีสีและความเงางามที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อนุ่ม มีลายมันเนื้อในปริมาณที่พอดี ให้ความหอมหวาน โดยจุดเด่นที่สุดของเนื้อวัวโอมินี้ก็คงหนีไม่พ้นลายเนื้อที่สวยงามราวกับศิลปะนี้นี่เอง

โดยแหล่งกำเนิดของ “เนื้อโอมิ” นั้นอยู่ใน “กาโม(Gamou)” “คันซากิ(Kanzaki)” และ “ไอจิ(Aichi)” 3 อำเภอในจังหวัดชิงะ เป็นบริเวณที่มีแม่น้ำหลายสายที่มีต้นน้ำมาจากเทือกเขาซุซุกะไหลผ่าน นอกจากจะเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวแล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ นานาชนิด จึงเป็นพืชที่ที่มีวัตถุดิบหาเลี้ยงชีพตนเองอยู่มากมาย เท่านั้นไม่พอบริเวณทางเหนือของทะเลสาบบิวะยังเป็นบริเวณที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ถือเป็นแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง

โดยจังหวัดชิงะนั้นติดกับทางทิศตะวันออกของเกียวโต โดยมีทะเลสาบบิวะขนาดใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น “ศาลเจ้าโอมิจิงกุ” “โทริอิกลางทะเลสาบ” “ปราสาทฮิโกเนะ” หรือ ลานสกีให้ได้เพลิดเพลินกับหิมะในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย

“เนื้อวัวฮิดะ” นี้เป็นวัวที่ถูกเลี้ยงภายในจังหวัดกิฟุเป็นเวลา 14 เดือนขึ้นไป ได้รับการรับรองเป็นเนื้อแบรนด์ตั้งแต่ปีเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมาแล้ว โดยวัวที่จะได้ชื่อว่าเป็น “เนื้อฮิดะ” หรือ “ฮิดะกิว” นั้นจะต้องได้รับการรับรองอยู่ในระดับเนื้อเกรดปริมาณเนื้อในระดับ A หรือ B และมีเกรดคุณภาพเนื้ออยู่ที่ 5 4 หรือ 3 เท่านั้น

ซึ่งลักษณะเด่นของเนื้อฮิดะก็คือ ลายไขมันที่อัดแน่น และสีเนื้อชมพูเข้มสวยงาม และด้วยความที่เนื้อชนิดนี้มีเส้นใยกล้ามเนื้อที่ละเอียดทำให้เนื้อมีความหวานนุ่มเป็นพิเศษ นิยมรับประทานแบบสเต็ก หรือสตูลเนื้อนั่นเอง

 “เนื้อฮิดะ” นั้นเป็นเนื้อวัวจากเมืองฮิดะในจังหวัดกิฟุ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองฮิดะ เมืองทาคายาม่า และเมืองเกโระ โดยพื้นที่ฮิดะมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 170,000 คน เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่สูงดังนั้นจึงมีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ดังนั้นเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ อย่างพื้นที่มิโนแล้วจะมีอุณภูมิเฉลี่ยที่ต่ำกว่าโดยเฉพาะที่โชคาวะในเมืองทาคายาม่านั้นถือได้ว่าเป็นพื้นที่หนาวที่สุดในเกาะฮนชูเลยก็ว่าได้ และยังเป็นที่ตั้งที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังอย่าง “หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ” “ฮิดะฟูรุคาว่า” หรือ “ทาคายาม่า” เมืองโบราณที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย

เกร็ดความรู้ “เกรดของเนื้อญี่ปุ่น”

สำหรับเกรดของเนื้อจะมีการจัดอันดับ “เกรดปริมาณเนื้อ” แบบ A B C ซึ่ง A จะถือว่าเป็นอันดับที่ดีที่สุด โดยวัดจากปริมาณส่วนเนื้อที่รับประทานได้

และการจัดอันดับ “เกรดคุณภาพของเนื้อ” แบบ 5 4 3 2 1 ซึ่งลำดับที่ดีที่สุดคือ ลำดับที่ 5 โดยวัดจาก 4 ข้อคือ ค่า BMS (ลายไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อ), สีของเนื้อ (BCS), ความแน่นละเอียดของเนื้อ และ สีของไขมัน เป็นต้น

โดยจะนำทั้งสองการจัดอันดับนี้มารวมกันทั้งหมดเป็น 15 อันดับ อย่างเช่น เนื้อ A-5 หรือ B-4 เป็นต้น ซึ่งเนื้อที่ถูกจัดอันดับอยู่ในอันดับสูงสุดที่ A-5 นั้นจะมีอยู่เพียง 15% เท่านั้น โดยเนื้อวากิวโดยทั่วไปส่วนมากจะถูกจัดอันดับอยู่ในช่วง A หรือ B นั่นเองจึงถือได้ว่าเนื้อญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อที่มีเนื้อมากจึงเหมาะสมกับเป็นเนื้อวัวสำหรับรับประทานเป็นอย่างยิ่งนั่นเอง

การเพลิดเพลินกับเนื้อวัวชั้นดีนั้นสามารถลิ้มลองได้ในเมนูต่างๆ สำหรับเนื้อวัวเกรดดีจะนิยมรับประทานเป็นสเต็ก โดยแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ที่มีรสชาติและราคาที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังนิยมรับประทานในเมนูชาบู หรือ ปิ้งย่าง นอกจากนี้ในแต่ละพื้นที่ก็จะมีเมนูเนื้อที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างกันออกไป ให้ได้เพลิดเพลินกับความหลากหลายนี้ระหว่างการท่องเที่ยวได้เลย โดยตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะมีอาหารทานเล่นที่สามารถเพลิดเพลินกับเมนูเนื้อได้เช่นกัน อย่างเช่น “เนื้อย่างเสียบไม้” หรือ “ซูชิเนื้อ” ในราคาประมาณ 500 เยน ถึง 1000 เยนเท่านั้น ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว

การเดินทางไปทานอาหารของพื้นที่นั้นๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความเพลิดเพลินในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการทานเนื้อแบรนด์ดังชั้นดีในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งนอกจากเนื้อแบรนด์ดังที่เราได้แนะนำไปในครั้งนี้แล้ว ในประเทศญี่ปุ่นยังมีเนื้อแบรนด์ดังชั้นดีๆ ในพื้นที่ต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละชนิดก็มีเอกลักษณ์ความหอมอร่อยที่แตกต่างกันออกไป สำหรับคอเนื้อวัววากิวไม่ควรพลาดจริงๆ