เที่ยวญี่ปุ่นต้องรู้! ช่องทางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระหว่างการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

09 Jul 2020
1121

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในโลกปัจจุบันก็คือ “อินเตอร์เน็ต” อย่างเช่นการโทรศัพท์ไปยังเพื่อนหรือครอบครัวส่วนใหญ่ก็ใช้ LINE ในการโทรติดต่อเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้การติดตามข่าวสารต่างๆ ก็สามารถติดตามผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่านทาง Facebook, Instagram หรือ Twitter ซึ่งถือว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่แบบไร้สัญญาณอินเตอร์เน็ตในโลกแห่งปัจจุบัน โดยเฉพาะในตอนที่ต้องเดินทางไปยังต่างประเทศ ซึ่งอินเตอร์เน็ตเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ผ่านทาง Google Map หรือ ค้นหาการเดินทางด้วยยานพาหนะต่างๆ นอกจากนี้ยังจำเป็นที่จะต้องค้นหาข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกด้วย

ดังนั้นในวันนี้เราจะมาแนะนำช่องทางการเข้าถึง “อินเตอร์เน็ต” สำหรับทุกท่านที่กำลังจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันทั้งหมด 3 ช่องทาง จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1. บริการ “สัญญาณ WIFI ฟรี” ภายในเมืองหรือยานพาหนะต่างๆ

ในขณะนี้สัญญาณ WIFI ได้กำลังแผ่ขยายไปตามพื้นที่ต่างๆ มากขึ้นทั้งในเมืองใหญ่ และตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นภายในเทอร์มินอลสถานีรถไฟ สถานที่สาธารณะ หรือภายในรถไฟต่างๆ อย่างเช่น โทไคโดชินคันเซ็น・ซันโยชินคันเซ็น (ส่วนหนึ่ง) หรือ Narita Express ที่แม้แต่นักท่องเที่ยวชางต่างชาติก็สามารถใช้บริการเชื่อมต่อสัญญาณ WIFI ฟรี ได้อย่างง่ายดาย

โดยการเข้าถึงจะมีขั้นตอนดังนี้

1. ก่อนอื่นก็จะต้องเปิดการรับสัญญาณ Wifi ให้เป็น ON

2. ต่อไปค้นหา SSID ที่เป็น 「(ชื่อเมือง)Free Wifi 」หรือ「(ชื่อเมือง)City Wifi」

3. เมื่อกดเพื่อเชื่อมต่อแล้วหน้าจอก็จะแสดงตามรูปภาพด้านซ้ายมือ ถึงแม้ว่าในตัวอย่างภาพนี้จะเป็นของ「Osaka Free Wifi」แต่ Wifi ทั่วประเทศส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน จากนั้นก็กดคำว่า「Language」เพื่อเลือกภาษาที่ท่านต้องการได้เลย หากมีภาษาไทยก็สามารถเลือกภาษาไทย

4. เมื่อเลือกภาษาไทยแล้ว ก็กรอกข้อมูลอีเมล เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้วหน้าจอก็จะแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับการแจ้งเตือนและระดับความปลอดภัย หากทำการอ่านเนื้อหาต่างๆ เรียบร้อยแล้วก็สามารถกด “การยินยอมเห็นชอบ”

5. นอกจากนี้หน้าจอจะแสดงเนื้อหากติกา ข้อตกลงสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ต หากรับทราบก็สามารถกด “เห็นด้วย” เพื่อเข้าถึงสัญญาณ Wifi ได้เลย

ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดที่ได้กล่าวไปนี้ใช้เวลาเพียง 90 วินาทีเท่านั้น ก็สามารถเข้าถึงสัญญาณ Wifi เพื่อเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย และสำหรับการเชื่อมต่อด้วย SSID ต่างๆ เหล่านี้อาจสามารถใช้ได้ต่อเนื่องเกือบปีโดยไม่ต้องเสียเวลากรอกข้อมูลต่างๆ หรือทำขั้นตอนข้างต้นในการเข้าถึงครั้งต่อๆ ไปอีกด้วย

สำหรับบริการ WIFI ฟรี จะสะดวกและเหมาะสำหรับท่านใดที่ “ไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา เชื่อมต่อเฉพาะบางเวลาที่ได้เล่น” “ไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการใช้อินเตอร์เน็ต” หรือ “นักท่องเที่ยวที่เคยมาเที่ยวซ้ำและสามารถเดินทางได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต” เป็นต้น

2. “Wi-Fi Rental”

หรือ “Pocket Wifi” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้กับ ไวไฟแบบพกพา “Pocket Wifi” โดยคุณสามารถเช่าเครื่องเราเตอร์แบบพกพาเพียงเครื่องเดียว ก็สามารถใช้ได้พร้อมๆ กันมากถึง 5 – 10 คนเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น 『SAMURAI Wifi』ที่เช่าเพียงวันละ 200-280 บาทเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น) เป็นต้น

http://www.bs-mobile.jp/th/

ซึ่งราคาเช่าส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ช่วงราคาประมาณนี้ และหากเช่า 5 วันก็จะตกอยู่ที่คนละประมาณ 1000-1400 บาท หากต้องเช่าเพียงคนเดียวราคานี้อาจจะถือว่าสูงอยู่เล็กน้อย แต่หากไปท่องเที่ยวกันหลายๆ คนก็สามารถหารกันใช้และหารกันจ่ายได้ ดังนั้นก็จะเสียค่าใช้จ่ายต่อคนแค่เพียงไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการจำกัดจำนวนการใช้ สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่อั้นโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ความเร็วของสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็ยังมีความคงที่อีกด้วย แต่อาจมีข้อเสียอยู่เล็กน้อย คือ สัญญาณอินเตอร์เน็ตอาจขาดหายไปบ้างในขณะที่อยู่ใต้ดิน ภายในอาคาร หรือพื้นที่รอบนอกนั่นเอง

โดยไวไฟแบบพกพา “Pocket Wifi” นี้สามารถเช่าที่ญี่ปุ่นได้เช่นกัน หากเป็นเที่ยวบินตรงมากจากกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่เมื่อออกมาจากประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้าแล้วก็สามารถเช่าได้ที่ล็อบบี้ด้านหน้าเลย ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณวันละ 500 เยน ส่วนแพ็กเกจแบบ 1 เดือน จะอยู่ที่ประมาณ 7000 เยน ค่าบริการที่ญี่ปุ่นอาจถูกกว่าเช่ามาจากที่ไทยในบางกรณีขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้บริการ เฉพาะฉะนั้นสามารถเลือกใช้ตามความต้องการ และความเหมาะสมกับทริปของคุณได้เลย

『Wi-Fi RENTAL Store』

3. ซิมโรมมิ่งสำหรับต่างแดน

และช่องทางสุดท้ายก็คือ “ซิมโรมมิ่งสำหรับต่างแดน” อย่างเช่นซิมของค่ายต่างๆ ทั้ง 「SIM 2 Fly」ของ AIS, 「SIM GO INTER」ของ DTAC หรือ 「AROUND THE WORLD SIM」ของ TRUEMOVE เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 399 บาท สำหรับ 5GB(AIS)ใช้ได้ 8 วัน・4GB (DTAC) ใช้ได้ 10 วัน

โดยขอบเขตในการใช้ของแต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งสองอย่างที่เราได้ยกตัวอย่างไปสามารถใช้ในประเทศญี่ปุ่นได้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่มบริการต่างๆ ที่ต้องการลงไปได้ในซิมเดียวเลย

คุณสามารถซื้อ “ซิมโรมมิ่งต่างแดน” ได้ที่ท่าอากาศยานต่างๆ ได้เช่นกัน สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมินั้น นอกจากบริเวณสาขาที่ประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้าแล้ว ในตอนนี้ได้เพิ่มสาขาที่บริเวณเช็คอินเคาน์เตอร์ของผู้โดยสารขาออกอีกด้วย ทำให้สามารถซื้อซิมได้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งวิธีการใช้ “ซิมโรมมิ่งสำหรับต่างแดน” ก็ไม่ยาก เพียงใส่ ซิมโรมมิ่งสำหรับต่างแดน เข้าไปในมือถือสมาร์ทโฟนเท่านั้น ระบบก็จะถูกติดตั้ง APN โดยอัตโนมัติเลยทีเดียว

แต่ทว่าบริการ “ซิมโรมมิ่งต่างแดน” จะมีข้อเสียอยู่เล็กน้อย คือ “การจำกัดระยะเวลาในการใช้งาน” เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้ว “ซิมโรมมิ่งต่างแดน” จะมีการจำกัดระยะเวลาการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 10 วัน ซึ่งก็เพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวระยะสั้น แต่สำหรับท่านใดที่ต้องการท่องเที่ยวระยะยาวก็อาจต้องใช้บริการเกินระยะเวลาที่ถูกจำกัดเอาไว้ และถึงแม้ว่าจะสามารถทำการเพิ่มบริการเสริมได้ผ่านการชำระทางบัตรเครดิต แต่ก็อาจติดปัญหาจากชนิดของบัตรเครดิต หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่อาจเกิดความขัดข้องระหว่างดำเนินการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเนื่องจากอยู่ต่างแดนนั่นเอง แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะว่าในเวลาแบบนี้ท่านสามารถใช้บริการ LINE Pay ในการชาร์ตค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ ซึ่ง AIS・DTAC・TRUE จะรองรับบริการ LINE Pay ทั้งหมด โดยคุณสามารถชำระเงินด้วย LINE Pay ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ ได้เลยนั่นเอง

ในครั้งนี้เราได้พูดถึงช่องทางการเข้าถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ตในประเทศญี่ปุ่นไปทั้งหมด 3 ช่องทาง

1. บริการ “สัญญาณ WIFI ฟรี” ภายในเมืองหรือยานพาหนะ

2. บริการเช่าไวไฟแบบพกพา “Pocket Wifi”

3. “ซิมโรมมิ่งสำหรับต่างแดน”

คุณสามารถเลือกใช้บริการเหล่านี้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เพื่อรับส่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย กับเพื่อนๆ หรือครอบครัวของคุณได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังช่วยให้คุณได้ท่องเที่ยวอย่างอุ่นใจ และสะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย เลือกใช้ช่องทางต่างๆ ได้ตามสไตล์ของคุณเลย แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า♪