สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเลยก็คือ “อาหารการกิน” ที่ญี่ปุ่นเองจะมีอาหารประจำท้องถิ่นอยู่มากมาย อย่าง 「เนื้อโกเบ」ของโกเบ 「ทาโกยากิ」ของโอซาก้า หรือ「ฮากาตะราเม็ง」ของฟุกุโอกะ ซึ่งเมื่อเราไปตามสถานที่ต่างๆ การได้ทานอาหารขึ้นชื่อของแต่ละพื้นที่ก็เป็นอีกหนึ่งความสนุกในการท่องเที่ยว
ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับอาหารขึ้นชื่อของภูเขาไฟฟูจิ ชิราคาวาโกะ และพื้นที่บริเวณฟูจิโยชิดะในพื้นที่ที่มีภูเขาสูงล้อมรอบเหล่านี้ อาหารขึ้นชื่อของพื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีผักเป็นวัตถุดิบหลัก
และอาหารชนิดแรกก็คือ「โยชิดะอุดง YOSHIDA NO UDON」
ซึ่งปัจจุบันเฉพาะในพื้นที่เมืองฟูจิโยชิดะเท่านั้นก็มีร้านอุดงมากกว่า 60 ร้าน เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองฟูจิโยชิดะ ที่เป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าอาราคุระยามะ เซ็นเก็น”「ARAKURA YAMA SENGEN JINJA」ที่สามารถชมเจดีย์ห้าชั้น รวมไปถึงวิวซากุระไปพร้อมๆ กับวิว “ภูเขาฟูจิ” “โอชิโนะฮักไก หรือหมู่บ้านน้ำใส” และ “สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์”
โยชิดะอุดงนี้จะเป็นอุดงที่น้ำซุปปรุงรสด้วยโชยุและมิโซะ เส้นที่เหนียวนุ่ม และวัตถุดิบต่างๆ อีกมากมายทั้ง ผักกะหล่ำปลี แครอท และเต้าหู้ทอดเป็นท้อปปิ้ง โดยปกติแล้วอุดงทั่วไปจะปรุงรสชาติน้ำซุปด้วยความหอมของสาหร่ายคอมบุหรือปลาโอ แต่น้ำซุปของที่นี่จะมีการใช้มิโซะในการปรุงรสทำให้รสชาติน้ำซุปอุดงมีความเข้มข้นและกลมกล่อม
ในพื้นที่ที่ผู้หญิงจะยุ่งอยู่กับงานทอผ้า หรือการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ที่หาเลี้ยงครอบครัวนั้น หน้าที่การทำอาหารหลางวันจึงตกเป็นของผู้ชาย และเพื่อให้อาหารอยู่ท้องและอิ่มท้องได้ยาวนาน จึงมีการทำเส้นอุดงที่หนา ยาว และเหนียวนุ่มนั่นเอง
และเดิมทีบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีความศรัทธาในภูเขาฟูจินี้ มีการทำ “ยูโมริอุดง”「YUMORI UDON」ที่ทำจากน้ำซุปที่ต้มเส้นอุดง เป็นเมนูอุดงที่มีเส้นอุดงลอยอยู่ในน้ำซุปใส เพื่อเป็นการชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์จากภายในก่อนปีนขึ้นภูเขาฟูจิ เพราะฉะนั้นอาจเป็นการทานโยชิดะอุดงก่อนปีนขึ้นภูเขาฟูจิเพื่อเป็นการรำลึกถึงการปีนครั้งก่อนก็เป็นได้
ร้านที่สามารถทานอุดงของโยชิดะได้นั่นมีอยู่มากมาย แต่ร้านที่ได้รับความนิยมมากในระดับหนึ่งก็คือร้าน “ชินทาคุ”「SHINTAKU」ใกล้ศาลเจ้า “อาราคุระเซ็นเก็น”「ARAKURA SENGEN JINJA」เป็นร้านที่เป็นบ้านพักทั่วไป ซึ่งสามารถสัมผัสบรรยากาศแบบท้องถิ่นไปด้วยทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมไม่น้อยจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ภายในร้านก็จะมีทั้งที่นั่งพื้น หรือที่นั่งแบบล้อมรอบเตาถ่านญี่ปุ่น เพื่อทาน「โยชิดะอุดง YOSHIDA NO UDON」ไปพร้อมๆ กับการดื่มด่ำบรรยากาศ
ส่วนเมนูอาหารก็จะเป็นแบบเรียบง่าย ราคาไม่แพง เช่น เมนูอุดงต้นหอม ที่มีผีกเป็นวัตถุดิบเท่านั้นกับ “คาเคอุดง”「KAKE UDON」ราคาเพียง 390 เยน หรือ เมนูที่มีเนื้อที่ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยวเผ็ดหวาน กับ “นิคุอุดง”「NIKU UDON」(470 เยน)หรือ “เท็มปุระอุดง”「TENPURA UDON」(470 เยน)นอกจากนี้ยังมี เมนูที่มีทั้งเนื้อและเท็มปุระกับ “นิคุเท็นอุดง”「NIKUTEN UDON」(540 เยน)หรือเมนู “สึกิมิอุดง”「TSUKIMI UDON」(420 เยน)ใส่ไข่ เป็นต้น โยชิดะอุดงที่ปรุงรสจากมิโซะและโชยุ พร้อมดึงรสชาติความหอมจากซุปปลา ทั้งเส้นที่เหนียวนุ่มและน้ำซุปหอมอร่อยมีความเข้ากันมากๆ และหากต้องการเติมเฉพาะเส้นเท่านั้นก็สามารถเติมเส้น「KAEDAMA」(140 เยน)ได้อีกด้วย
เมนูต่อไปก็คือ อาหารขึ้นชื่อของ “คาวากุจิโกะ・ฟูจิโยชิดะ และจังหวัดยามานาชิ กับเมนู “โฮโต”「HOUTOU」ประกอบไปด้วย เส้นทำเองจากแป้งสาลี ผักชนิดต่างๆ ต้มรวมกันกับ “โคชูมิโซะ” ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีลักษณะเส้นและรสชาติน้ำซุปที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่ารสชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือรสมิโซะ แต่รสชาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงนี้ก็คือรสชาติกิมจิ ที่มีความเผ็ดเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีเมนูแนวอาหารฝรั่งเศสที่มีการปรุงด้วยไวน์ขาวเช่นกัน
ในบรรดาร้านที่มีเมนู “โฮโต” ภายในชิราคาวาโกะ หรือฟูจิโยชิดะนี้ จะมีร้านที่ได้รับความนิยมอยู่ร้านหนึ่งก็คือร้านอาหารโคชู『KOSAKU』
เป็นร้านที่มีกังหันน้ำการสร้างคล้ายกับที่พักซามุไรในสมัยก่อนซึ่งแค่ตัวตึกเองก็น่าถ่ายรูปมากๆ เมื่อเข้ามาภายในร้านก็จะเป็นพื้นที่กว้างที่นั่งพื้นแบบสไตล์ญี่ปุ่น ร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ชิราคาวาโกะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากันเป็นกลุ่ม ที่ร้านสามารถรองรับแขกได้ทุกรูปแบบทั้งแบบกลุ่ม 4 คนไปจนถึง 20 คนเลยทีเดียว
เมนูอาหารโฮโตก็มีให้เลือกมากมาย ทั้ง “โฮโตฟักทอง”「PUMPKIN HOUTOUかぼちゃほうとう」(1150 เยน)หรือ “โฮโตหมู”「PORK HOUTOU豚肉ほうとう」(1400 เยน) และนอกจากนี้ยังมี “โฮโตหมูคาลบี้เผ็ด「KARAKUCHI KARIBI HOUTOU辛口カルビほうとう」(2000 เยน)เมนูที่น่าจะถูกปากคนไทยกับเมนูที่ใส่พริกลงไปในซุปที่ปรุงรสด้วยมิโซะ ที่ใส่หมูย่างคาลบี้เอาไว้แบบอัดแน่น
ซึ่งนอกจากอาหารโฮโตแล้วก็มีเมนูอื่นๆ อย่าง หมูทอดทงคัตสึ หรือ ข้าวหน้าเท็มปุระอีกด้วย ยังไงลองสั่งทานทั้งอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่และอาหารญี่ปุ่นที่ชอบดูนะคะ
และเมนูสุดท้ายก็คือ “เนื้อย่าง” ซึ่งอันที่จริงแล้วเนื้อย่างไม่ใช่อาหารขึ้นชื่อของ ชิราคาวาโกะ หรือ ฟูจิโยชิดะเลย แต่เนื้อย่างของ “โยกันออนเซ็น มากิการิ”「YOUGAN ONSEN MAKIGARI」ที่อยู่ในฟูจิโยชิดะนี้ได้รับความนิยมจนกลายเป็นของขึ้นชื่อของพื้นที่นี้นั่นเอง ในพันทิปหรือในโซเชียลก็มีรีวิวอยู่มากมาย เมนูภายในร้านก็มีหลากหลาย「ชุดเนื้อหมูสันนอก」(1450 เยน)「ชุดเซอร์ลอยน์สเต็ก」(150g 2200 เยน / 250g 3300 เยน)จากเนื้อญี่ปุ่น หรือจะเป็นเมนูที่ใช้เนื้อญี่ปุ่นชั้นดีระดับ A5 กับเมนู「เนื้อวัวญี่ปุ่นระดับ A5 ชุดเซอร์ลอยน์สเต็ก 」(200g 5000 เยน)
ซึ่งเนื้อย่างของ “โยกันออนเซ็น มากิการิ”「YOUGAN ONSEN MAKIGARI」จะแตกต่างจากที่อื่นก็คือ「หินลาวากระทะร้อน」ที่ใช้ย่างเนื้อนั่นเอง และด้วยฟาร์อินฟาเรด ของกระทะร้อนลาวา ทำให้เนื้อที่ย่างออกมาแตกต่างจากการย่างด้วยแก๊สธรรมดาโดยสิ้นเชิง เนื้อจะหอมและอร่อยมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะชุดสเต็กเนื้อเซอร์ลอยน์หนาๆ ที่ผิวหน้าจะย่างจนได้ที่ และด้านในแบบมีเดียมแรร์ หอมหวานและอร่อยเป็นพิเศษ นอกจากนี้ที่ร้านยังมีน้ำจิ้มสูตรพิเศษ ให้ได้เพลิดเพลินทั้งเนื้อและน้ำจิ้มอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะ? วันนี้เราได้แนะนำอาหารไปทั้ง 3 เมนูคือ “โยชิดะอุดง”「YOSHIDA NO UDON」“โฮโต”「HOUTOU」และ “เนื้อย่างของ โยกันออนเซ็น”「YOUGAN ONSEN YAKINIKU」กันไปแล้ว ซึ่งนอกจากการเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณภูเขาฟูจิที่สวยงามแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารขึ้นชื่อของชิราคาวาโกะ และฟูจิโยชิดะที่เต็มไปด้วยภูเขามากมาย และหลังจากนี้อีกประมาณ 3 เดือน ก็จะเป็นช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ของภูเขาฟูจิ ในช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ยังไงลองไปเที่ยวภูเขาฟูจิเพื่อชมความสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงนี้ พร้อมทานอาหารขึ้นชื่อของบริเวณนี้ไปพร้อมๆ กันนะคะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ♪