อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวที่ถือได้ว่าเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบปี โดยเที่ยวบินระหว่างประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทยก็มีอยู่มากถึงวันละ 30 รอบไปกลับ เฉพาะเที่ยวบินตรงไปยัง “โตเกียว” (ฮาเนดะ/นาริตะ) สำหรับสายการบิน ANA และ TG ก็มีเที่ยวบินไปกลับแต่ละสายการบินวันละ 5 รอบ ส่วนสายการบิน JAL จะเป็นวันละ 3 รอบไปกลับ ส่วนสายการบินราคาประหยัดอย่างสายการบิน AirAsia X วันละ 3 รอบไปกลับ, สายการบินนกสกู๊ต/สกู๊ต วันละ 3 รอบไปกลับ และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ วันละ 1 รอบไปกลับ รวมเป็นวันละ 19 รอบไปกลับ ซึ่งความถี่ของเที่ยวบินพอๆ กับเที่ยวบินระหว่างเชียงใหม่-กรุงเทพเลยทีเดียว
ซึ่งสายการบินที่ได้รับความนิยมและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็คือเหล่าสายการบินราคาประหยัดอย่าง สายการบินแอร์เอเชีย สายการบินนกสกู๊ต และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ที่หากอยู่ในช่วงโปรโมชั่น คุณก็อาจได้เดินทางระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยภายในราคาไปกลับ 6000 บาทเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมเลือกเดินทางไปกลับด้วยสายการบินเดียวกันทั้งขาไปและขากลับ แต่ทว่าสายการบินราคาประหยัดเหล่านี้คุณสามารถเลือกสายการบินแยกระหว่างขาไปและขากลับได้ อย่างเช่น การจองตั๋วเครื่องบินขาไปของสายการบินนกสกู๊ต ส่วนขากลับเลือกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย X นั่นเอง
ในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงการวางแผนเลือกเส้นทางการบินด้วยสายการบินราคาประหยัดเพื่อให้คุณได้ท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบสุดคุ้มกันไปเลย
1. สนามบินใน “โตเกียว” (นาริตะ)
ภายในบริเวณโตเกียวนั้นจะมีสนามบินอยู่ทั้งหมด 3 แห่ง ก็คือ “ฮาเนดะ” “นาริตะ” และ “อิบารากิ” ซึ่งสายการบินราคาประหยัดทุกเที่ยวบินจะลงจอดที่ “สนามบินนาริตะ” เป็นหลัก
เที่ยวบินจาก กรุงเทพมหานคร(ดอนเมือง) ไปยัง นาริตะ มีดังนี้
TR868 00:30－08:15
SL300 01:00－09:10
XW102 02:20－10:35
XJ602 04:25－12:40
XJ606 10:45－19:00
XJ600 23:45－8:00
※TR（สกู๊ต）・SL（ไทยไลอ้อนแอร์）・XW（นกสกู๊ต）・XJ（ไทยแอร์เอเชีย X）
รวมทั้งหมดเป็น 6 เที่ยวบิน ซึ่งเที่ยวบินรอบดึกที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษจะมีอยู่ อย่างละ 1 เที่ยวบินคือ TR868・SL300・XW102・XJ600 ไม่ว่าสายการบินไหนๆ ในเที่ยวบินเหล่านี้ก็เป็นการเดินทางที่จะทำให้การท่องเที่ยววันแรกของท่านไม่สูญเปล่า
ในทางกลับกัน ในส่วนของ การเดินทางจาก นาริตะ ไปยัง กรุงเทพมหานคร (ดอนเมือง) จะมีเที่ยวบินดังนี้
XJ601 09:15－14:00
TR869 09:35－14:55
SL301 11:00－16:15
XW101 13:55－18:25
XJ603 13:55－19:05
XJ607 20:15－01:25
รวมทั้งหมด 6 เที่ยวบินเช่นกัน ซึ่งเที่ยวบินส่วนใหญ่จะเป็นเที่ยวบินที่ออกเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงบ่าย ดังนั้นหากต้องการใช้วันสุดท้ายของทริปในการท่องเที่ยวด้วยก็จะมีเพียงเที่ยวบิน XJ607 ที่ออกเดินทางเวลา 20:15 เท่านั้น
จัดตางรางการบินไปยัง โตเกียว (นาริตะ) ทั้งขาไปและกลับอย่างเข้าใจง่ายได้ดังนี้
ขาไป：
TR868・SL300・XW102・XJ600 ตามเที่ยวบินเหล่านี้
ขากลับ：
XJ607
เหล่านี้จะเป็นเที่ยวบินราคาถูกที่สามารถใช้เวลาในการท่องเที่ยวได้แบบคุ้มค่า
2.สนามบินใน “นาโกย่า” (ชูบุ)
สนามบินในนาโกย่า (ชูบุ) ที่เปรียบเสมือนประตูเปิดทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ อย่าง “ฮิดะทาคายามะ” หรือ หมู่บ้านโบราณมรดกโลก “ชิราคาวาโกะ” และ “เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ” ซึ่งที่สนามบินชูบุนี้เพิ่งเริ่มเปิดเส้นทางการบินของสายการบินราคาประหยัดเมื่อไม่นานมานี้ อย่างเช่นสายการบินไทยแอร์เอเชียร์ X ที่เพิ่งเปิดเส้นทางไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2561) และตั้งแต่วันนี้ก็เป็นวันเปิดเส้นทางไทยไลอ้อนแอร์อีกด้วย (วันที่ 8 มีนาคม)
กรุงเทพมหานคร (ดอนเมือง) ไป นาโกย่า
XJ638 02:15－09:40
SL310 07:25－15:25（จันทร์・พุธ・พฤหัสบดี・ศุกร์・อาทิตย์）
นาโกย่า ไป กรุงเทพมหานคร(ดอนเมือง)
XJ639 10:55－15:35
SL311 16:55－21:55（จันทร์・พุธ・พฤหัสบดี・ศุกร์・อาทิตย์）
ซึ่งจะมีรอบบินสัปดาห์ละ 12 เที่ยว ซึ่งเที่ยวบินที่สามารถใช้เวลาในการท่องเที่ยวได้คุ้มค่ามากที่สุดก็คือ การเดินทางด้วย XJ638 และ SL31 โดยขาไปคุณจะถึงนาโกย่าในตอนเช้า ส่วนขากลับจะออกจากนาโกย่าในช่วงเย็น เพราะฉะนั้นคุณจะได้ท่องเที่ยวนาโกย่า, ฮิดะทาคายามะ หรือ หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะได้อย่างเต็มที่
3. สนามบินในโอซาก้า (คันไซ)
และสุดท้ายนี้ก็คือ สนามบินในโอซาก้า (คันไซ) ที่เปรียบเสมือนเกทเวย์ในการท่องเที่ยวภายในตัวเมืองโอซาก้า หรือ เกียวโต ที่เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น
เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมาสายการบินแอร์เอเชีย X ก็ได้เพิ่มรอบบินเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน นอกจากนี้ยังมีสายการบินนกสกู๊ตที่บินสัปดาห์ละ 6 เที่ยวบิน ยกเว้นวันพุธ และสายการบินสกู๊ตที่บินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบินในวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์ เท่านั้นไม่พอสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ก็จะทำการเปิดเส้นทางการบินในวันที่ 28 มีนาคมในปีนี้ (พ.ศ.2562) สัปดาห์ละ 5 เที่ยวบิน ยกเว้นวันพุธและวันศุกร์อีกด้วย
จาก กรุงเทพมหานคร (ดอนเมือง) ไปยัง คันไซ
XJ612 00:55－08:40
SL304 04:30－11:55（จันทร์・อังคาร・พฤหัสบดี・เสาร์・อาทิตย์）
TR866 09:15－17:05（พุธ・ศุกร์・อาทิตย์）
XJ610 14:10－21:55
XW112 23:40－07:10（จันทร์・อังคาร・พฤหัสบดี・ศุกร์・เสาร์・อาทิตย์）
โดยเที่ยวบินที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือ XJ612・SL304・XW112 ที่จะเดินทางมาถึงสนามบินคันไซภายในช่วงเช้า และสามารถท่องเที่ยวประเทศญี่ปุนได้ตั้งแต่วันแรกเลยนั่นเอง
ในทางกลับกัน เที่ยวบินจาก คันไซ ไปยัง กรุงเทพมหานคร (ดอนเมือง)
XW111 08:30－12:45（จันทร์・อังคาร・พฤหัสบดี・ศุกร์・เสาร์・อาทิตย์）
XJ613 09:50－13:50
SL305 15:00－19:00（จันทร์・อังคาร・พฤหัสบดี・เสาร์・อาทิตย์）
TR867 17:55－21:50（พุธ・ศุกร์・อาทิตย์）
XJ611 23:45-04:00
รวมเป็นสัปดาห์ละ 28 เที่ยวบิน โดยเที่ยวบินที่สะดวกต่อนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือ SL305・TR867・XJ611
หากจัดตางรางการบินไปยัง “คันไซ” ทั้งขาไปและกลับอย่างเข้าใจง่ายก็จะมีดังนี้
ขาไป：XJ612・SL304・XW112 จากเที่ยวบินเหล่านี้
ขากลับ：SL305・TR867・XJ611จากเที่ยวบินเหล่านี้
จะเป็นเที่ยวบินราคาถูกที่สามารถใช้เวลาในการท่องเที่ยวได้แบบคุ้มค่า ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าถึงแม้ว่ารอบบินของคันไซจะมีน้อยกว่านาริตะ แต่คันไซจะมีเที่ยวบินที่ช่วงเวลาเหมาะสมกับการท่องเที่ยวอย่างคุ้มค่ามากกว่า ทำให้ท่านมีเวลาท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่มากขึ้นนั่นเอง
โดยสรุปแล้ว
“กรุงเทพมหานคร” ⇒ “ญี่ปุ่น”
นาริตะ：TR868・SL300・XW102・XJ600
นาโกย่า：XJ638
คันไซ：XJ612・SL304・XW112
“ญี่ปุ่น” ⇒ “กรุงเทพมหานคร”
นาริตะ：XJ607
นาโกย่า：SL311
คันไซ：SL305・TR867・XJ611
เที่ยวบินเหล่านี้ถือเป็นเที่ยวบินที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ซึ่งท่านสามารถใช้ทั้งขาไปและกลับ ,ขาเดียว หรือสามารถจัดตารางการบินขาไปและกลับต่างสายการบินเพื่อให้เข้ากับการเดินทางของท่านได้อย่างหลากหลาย ท่านสามารถอัดแน่นการท่องเที่ยวของท่านได้อย่างเต็มที่ในราคาที่สบายกระเป๋าเลยทีเดียว ยังไงลองเลือกเดินทางด้วยเที่ยวบินเหล่านี้ เพื่อสร้างการเดินทางเฉพาะของท่านดูได้เลย แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า♪