![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/187.jpg)
อีกประมาณ 3 เดือนก็จะเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์เดือนเมษายน และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ได้เวลาวางแผนการท่องเที่ยวกันแล้ว ซึ่งช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ก็จะเป็นช่วงหลังช่วงพีคของดอกซากุระบานบริเวณโตเกียว โอซาก้า หรือ นาโกย่า ที่เป็นเมืองใหญ่ๆ และน่าเสียดายเป็นอย่างมากที่จะเป็นช่วงที่หาดูซารุกะแบบบานเต็มที่ได้ยากภายในเมืองใหญ่เหล่านี้ แต่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะแค่เพียงเดินทางออกไปอีกเล็กน้อยก็สามารถชมดอกซากุระแบบบานเต็มที่ได้
ในครั้งนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ชมดอก “ซากุระ” ใน “แถบคันโต” จำนวน 3 แห่ง เพื่อท่องเที่ยวชมดอกซากุระที่สวยงามในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/285.jpg)
1. “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น ARAKURAYAMA SENGEN PARK”
สถานที่แรกก็คือสถานที่ชมซากุระที่ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวไปประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยรถไฟหรือรถยนต์ กับ “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น” 「ARAKURAYAMA SENGEN PARK」ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นวิวที่พบเห็นได้ตามหนังสือเรียนต่างๆ อีกด้วย เป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสงกรานต์
ซึ่งสวนที่ถูกสร้างเรียบภูเขาแห่งนี้เป็นจุดที่สามารถชมวิวซากุระที่อยู่เชิงดอยได้อย่างสวยงาม ผู้คนจำนวนมากต่างเดินทางมายังจุดชมซากุระแห่งนี้ เพื่อเพลิดเพลินกับดอกซากุระที่บานสวยงาม และสามารถทานอาหารต่างๆ ที่ร้านอาหารแผงลอยได้อีกด้วยเช่นกันแต่….
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/379.jpg)
สำหรับท่านใดที่ต้องการชมวิวที่สวยที่สุดของ “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น” 「ARAKURAYAMA SENGEN PARK」จะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 400 ขั้น เพื่อชมเจดีย์ห้าชั้น(จูเรโต) พร้อมขึ้นไปยังจุดชมวิวมุมที่สวยที่สุดได้
จากตีนเขา “ศาลเจ้าอาราคุระ เซ็นเก็น”「ARAKURA SENGEN JINJA」ถึง「จูเรโต」หรืแเจดีย์ห้าชั้น ที่อยู่กลางภูเขามีบันไดประมาณ 400 ขั้น และจากจุดนี้จะต้องเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวอีกเล็กน้อย
สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเป็นประจำก็อาจลำบากเล็กน้อย แต่ระหว่างทางขึ้นบันไดจะมีซากุระอยู่สองข้างทางสวยงามให้ได้เพลิดเพลินลืมความเหนื่อยล้า และเมื่อขั้นไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ…..
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/479.jpg)
วิวภูเขาไฟฟูจิ ซากุระ และเจดีย์ห้าชั้น(จูเรโต) แบบญี่ปุ่น ที่รวมเอาความสวยงามของ “ญี่ปุ่น” เอาไว้ทั้ง 3 อย่างภายในที่แห่งนี้เพียงที่เดียว
แนะนำว่าให้ไปตอนช่วงเช้า(ถึงเวลา 10 โมงเช้า)ถ้าเป็นช่วงเช้าแสงจะสวยงามกว่า เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ช่วงบ่ายเป็นต้นไปที่นี่จะเป็นมุมย้อนแสง ทำให้ถ่ายรูปได้ยาก เพราะฉะนั้นตื่นเช้าๆ แล้วรีบไปถ่ายรูปสวยๆ พร้อมแสงสวยๆ เลยจะดีที่สุด
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/580.jpg)
สถานีที่ใกล้ สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น มากที่สุดก็คือ ฟูจิคิว “สถานีชิโมะโยชิดะ”「SHIMOYOSHIDA STATION」
สามารถเดินทางจากสถานีคาวากุจิโกะ(สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง) ไปยัง สถานีชิโมะโยชิดะ ได้ด้วยรถไฟฟูจิคิว ใช้เวลาในการเดินทาง 14 นาที
ส่วนการเดินทางจากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟสายชูโอ (Chuo Line) ไปยัง โอสึกิ(รถไฟด่วนพิเศษประมาณ 60 นาที)ก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถไฟฟูจิคิว ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
เส้นทางการเดินทางจากสถานีของชิโมะโยชิดะก็เป็นเส้นทางตามรูปภาพ ใช้เวลาในการเดินเท้าไปจนถึงบริเวณเชิงดอยที่ “ศาลเจ้าอาราคุระเซ็นเก็น” ประมาณ 10 นาที
บริเวณรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิจะเป็นบริเวณที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงเดือนเมษายนก็ยังมีบางที่ที่ยังคงมีหิมะหลงเหลืออยู่ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ใส่เครื่องกันหนาวไปอย่างเพียงพอระหว่างชมดอกซากุระ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/678.jpg)
2. สวน “ฮาโกเน่เอ็น HAKONE-EN”
และสถานที่ต่อไปก็คือสถานที่ขึ้นชื่อของฮาโดเน่ที่สวน “ฮาโกเน่เอ็น”『HAKONE-EN』
ตั้งอยู่ริมฝั่ง “ทะเลสาบอาชิ”「ASHINOKO(芦ノ湖)」ที่มีชื่อเสียงจาก「เรือทัศนาจร(海賊船)」
ซึ่งเป็นต้นซากุระเพียงหนึ่งต้นที่เป็นสัญลักษณ์ของบริเวณริมฝั่งทะเลสาบแห่งนี้ มีอายุประมาณ 100 ปีขนาดใหญ่ แผ่กิ่งออกไป 22 เมตร เส้นรอบลำต้น 5 เมตร และมีความสูง 12 เมตร ไม่เพียงแต่ขนาดที่ใหญ่เท่านั้น แต่รูปทรงที่แผ่ออกไปอย่างกว้างขวางสวยงาม สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้คนมายาวนานหลายสิบปี
ซึ่งช่วงซากุระของบริเวณฮาโกเน่ในพื้นที่สูง และมีอุณภูมิต่ำกว่าปกตินี้ เมื่อเทียบกับใจกลางเมืองโตเกียวแล้ว ซากุระจะบานช้ากว่าไปประมาณ 3 อาทิตย์ ในช่วงกลางเดือนเมษายน ดังนั้นจะเป็นจุดที่สามารถชมซากุระ ไปพร้อมๆ กับ ทะเลสาบอาชิ และภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/780.jpg)
การเดินทางจากโตเกียว ไปยัง “ฮาโกเน่เอ็น” นั้นมีเส้นทางการเดินทางดังนี้
- เดินทางจาก บัสเทอร์มินอลชินจุกุ ด้วยรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังฮาโกเน่ แวะโกเทมบะ ไปประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที
- เดินทางจากสถานีโตเกียว ด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไปยังสถานีโอดาวาระ จากนั้นนั่งรถบัส IZUHAKONE BUS จากสถานีโอดาวาระ ไปประมาณ 85 นาที
- เดินทางจากสถานีชินจุกุ ด้วยรถไฟโอดะคิว Romancecar ไปยัง สถานีฮาโกเน่ ยูโมโตะ จากนั้นก็นั่งรถบัส IZUHAKONE BUS ไปประมาณ 65 นาที
ไม่ว่าการเดินทางไหนๆ ก็สามารถเดินทางจากตัวเมืองโตเกียวไปได้ภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางด้วยเรือจาก ท่าเรือโมโตะฮาโกเน่, ท่าเรือ Hakone Checkpoint Atoko หรือ โอวากุดานิ ไปยัง “โทเก็นได” สถานที่ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าได้อีกด้วย
วันละ 10 รอบ ที่เชื่อมระหว่างแต่ละท่าเรือกับสวน “ฮาโกเน่เอ็น”
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/877.jpg)
3. สวน “เมจิจิงกุ ไกเอ็น MEIJI JINGU GAIEN”
และสถานที่สุดท้ายก็คือ สวน “เมจิจิงกุ ไกเอ็น” ตั้งอยู่ใกล้ย่าน “ชินจุกุ” “ชิบุย่า” และ “ฮาราจุกุ” ที่มีต้นยาเอะซากุระมากถึง 500 ต้น และในปีที่ผ่านมา พันธุ์ยาเอะซากุระที่บานช้ากว่าพันธุ์อื่นๆ นี้ก็ได้บานสวยงามในช่วงกลางเดือนเมษายน ที่เป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์พอดี
โดยชนิดซากุระของสวน “เมจิจิงกุ ไกเอ็น” แห่งนี้ก็คือ “ยาเอะซากุระ” เช่นเดียวกับ「โรงกษาปณ์โอซาก้า」ในแถบคันไซที่ได้พูดถึงกันไปในตอนที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าจะเป็นซากุระที่แตกต่างจากชนิดที่พบเห็นทั่วไปแบบ 5 กลีบอย่าง “โซเมอิซากุระ” แต่ “ยาเอะซากุระ” นี้จะมีอยู่ 8 ชั้นและบานเกาะกลุ่มกันสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/974.jpg)
ซึ่งบริเวณสวน “เมจิจิงกุไกเอ็น” แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กีฬาของญี่ปุ่นและโตเกียวเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่นสนามเบสบอลหลักของ “ทีมโตเกียวยาคูลท์สวอลโลวส์” อย่าง「MEIJI JINGU STADIUM」หรือ สนามรักบี้อย่าง「สนามรักบี้ จิจิบุโนะมิยะ」เท่านั้นไม่พอยังตั้งอยู่ใกล้สเตเดียมจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นที่โตเกียว ปีค.ศ.2020 อย่าง「สนามกีฬาแห่งชาติใหม่(国立競技場)」อีกด้วย
เรียกได้ว่าคุณจะได้ชมความสวยงามของดอกยาเอะซากุระไปพร้อมๆ กับการเที่ยวชมสนามแข่งกีฬาต่างๆ ได้แบบใกล้ชิดอีกด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1071.jpg)
โดยการเดินทางไปยังสวนเมจิจิงกุ ไกเอ็นนั้น ใช้สถานีรถไฟ JR สถานีชินาโนะมาจิ (Shinanomachi Station) จะสะดวกที่สุด
โดยสามารถเดินทางจากสถานีชินจุกุใกล้ย่านชินจุกุแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ไปยังเส้นทางสายซากุระกว่า 500 ต้น ได้ด้วยรถไฟ JR สายชูโอ โซบุ(Chūō-Sōbu Line) ไป 3 สถานี ใช้เวลา 5 นาที
ส่วนการเดินทางจากสถานีโตเกียว ที่เป็นสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือ Narita Express ด้วยรถไฟ JR สายชูโอ ไปยังสถานีโอฉะโนะมิซึ(Ochanomizu Station) จากนั้นต่อรถไฟสายชูโอ โซบุ(Chūō-Sōbu Line) ไป 5 สถานีเพื่อลงที่ สถานีชินาโนะมาจิ (Shinanomachi Station) และเดินไปอีก 10 นาที
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1151.jpg)
สำหรับสถานที่ชมดอก “ซากุระ” ใน “แถบคันโต” ที่สามารถชมได้ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ทั้งหมด 3 แห่ง
1. สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น ARAKURAYAMA SENGEN PARK – สถานที่ชมดอกซากุระ ไปพร้อมๆ กับภูเขาไฟฟูจิ และเจดีย์ห้าชั้นแบบญี่ปุ่น
2. สวน ฮาโกเน่เอ็น HAKONE-EN – ชมซากุระเพียงต้นเดียวที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่
3. สวน เมจิจิงกุ ไกเอ็น MEIJI JINGU GAIEN – เดินทางจากภายในตัวเมืองโตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมชมสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิก
ถึงแม้ว่าช่วงวันหยุดสงกรานต์จะเป็นช่วงสิ้นสุดดอกซากุระในตัวเมืองโตเกียว หรือโอซาก้าแล้ว แต่ก็ยังมีสถานที่ชมดอกซากุระที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย เพียงเดินทางออกไปเล็กน้อย อย่างเช่นที่ “ฮิดะทาคายาม่า” “ชิราคาวาโกะ” หรือเมืองคานาซาว่าที่เก่าแก่เรียบทะเลญี่ปุ่น ในพื้นที่ที่มีอุณภูมิต่ำกว่าในตัวเมืองโตเกียว หรือโอซาก้าก็สามารถชมดอกซากุระที่สวยงามได้ ยังไงลองไปชมความสวยงามของญี่ปุ่นในช่วงนี้กันได้เลย แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า♪