สถานที่ชม “การประดับไฟยามค่ำคืนทั้ง Illumination และ Light up” ยอดฮิตใน “ภูมิภาคชูบุ”

เมื่อมาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วง “ฤดูใบไม้ผลิ” ไปจนถึง “ฤดูหนาว” จะเป็นช่วงที่สามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆ มากมายทั้ง “ใบไม้เปลี่ยนสี” “หิมะ” และความหนาวที่ไม่สามารถสัมผัสได้ในที่ประเทศไทย และอีกหนึ่งความเพลิดเพลิยนที่ไม่ควรพลาดในช่วงนี้ก็คือ การประดับไฟยามค่ำคืนทั้ง Illumination และ Light up

ประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเส้นละติจูดที่องศาสูง พระอาทิตย์ตกตินเร็วในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงกุมภาพันธ์ ซึ่งพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นที่พระอาทิตย์ตกดินเร็วที่สุดอยู่ทางเหนือของฮอกไกโดอยู่ที่ช่วงเวลา บ่ายสามโมง เลยทีเดียว ซึ่งทางฝั่งโตเกียว หรือโอซาก้า ฟ้าก็จะเริ่มมืดลงให้ช่วงสี่โมงเย็น และเริ่มมืดสนืทให้ช่วงห้าโมงเย็น ดังนั้นช่วงฤดูที่มีเวลากลางคืนยาวนานจึงเป็นช่วงที่เหมาะแก่การชมไฟประดับยามค่ำคืน อิลลูมิเนชั่นภายในตัวเมือง ตามพื้นที้ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นจะมีการประดับไฟยามค่ำคืนที่สวยงามโดยมีวันคริสต์มาสในวันที่ 25 เดือนธันวาคมในช่วงฤดูหนาวเป็นศูนย์กลางในการประดับไฟนั่นเอง

ซึ่งในครั้งที่ผ่านมาเราได้นำเสนอสถานที่ชม “ไฟประดับยามค่ำคืน อิลลูมิเนชั่น” ยอดฮิตในแถบคันไซกันไปแล้ว

ในครั้งนี้ไปดูกันเลยว่าสถานที่ชม “การประดับไฟยามค่ำคืนทั้ง Illumination และ Light up” ยอดฮิตในชูบุ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่นาโกย่าจะมีที่ไหนบ้าง

1. นาบานะ โนะ ซาโตะ NABANA NO SATO

สถานที่แรกก็คือ อีเว้นท์ประดับไฟยามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นกับ『NABANA NO SATO ILLUMINATION』

โดย “นาบานะ โนะ ซาโตะ” นี้ตั้งอยู่ใน「NAGASHIMA RESORT」สามารถเดินทางจาก “นาโกย่า” ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึงแม้ว่าอีเว้นท์นี้จะมีจุดเริ่มต้นมาจากการจัดกิจกรรมในช่วงฤดูหนาวที่ดอกไม้น้อย แต่ก็จัดมายาวนานถึง 15 ปี ซึ่งขนาดงานในแต่ละปีจะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย เป็นพื้นที่ยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากคนในนาโกย่า และทั้งแถบคันไซ หรือคันโตเลยทีเดียว แรกเริ่มเมื่อ 15 ปีก่อนงานนี้เป็นงานที่จัดขึ้นเพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน อีเว้นท์ช่วง 2018-2019 จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 เดือนตุลาคม ไปจนถึง วันที่ 6 เดือนพฤษภาคม ยาวนานเกือบครึ่งปีเลยทีเดียว

เมื่อเดินเข้ามาก็จะเป็นทางเดินประดับไฟยาว 100 เมตร ต่อด้วยไฟประดับทรงภูเขาไฟฟูจิขนาดใหญ่กว้าง 155 เมตร และสูง 35 เมตร ซึ่งช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงธีม「JAPAN-NIHON NO JOUKEI(日本の情景)-」ที่เป็นการจัดแสดงตั้งแต่ธรรมชาติที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็ศูนย์กลาง ไปจนถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยจัดในธีม「อากะฟูจิ(ฟูจิสีแดง)」「ฮานาบาตาเกะ(สวนดอกไม้)」และ「ภาพอุกิโยะ」ได้มีการใช้อิลลูมิเนชั่นไฟ LED ที่เปลี่ยนสีได้มากถึง 64000 ล้านดวง เพื่อเพลิดเพลินกับวิวภูเขาฟูจิ ภาพอุกิโยะ วัฒนธรรมประเพณี ไปจนถึง เรื่องเล่าขานต่างๆ ที่สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่

นอกจากสถานที่จัดงานหลักที่เป็นภูเขาไฟฟูจิแล้ว ก็ยังมีส่วนอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจุดนี้ก็คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของงาน “นาบานะ โนะ ซาโตะ” โดยจุดที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษก็คือ「HIKARI NO UNKAI(光の雲海)」ที่มีซุ้มประตูสูง3 เมตร พร้อมแสงไฟ  LED สีน้ำเงินเปร่งประกายไปทั่วบริเวณ ราวกับอยู่ในควาฝัน และถัดจากปีนี้เป็นต้นไปจะเป็นการจัดไฟ LED สีชมพู ราวกับทุ่งดอกชิบะซากุระ ที่มีความโฟโตเจนิคสุดๆ

「NABANA NO SATO ILLUMINATION」นี้จะมีค่าเข้าชมอยู่ 2300 เยน(สามารถชำระได้ทั้งเงินสด และบัตรเครดิตหลักๆ)สามารถซื้อได้หน้างาน โดยบัตรเข้าชมงาน “นาบานะ โนะ ซาโตะ” 「NABANA NO SATO」นี้จะมีคูปองเงินสด 1000 เยนที่สามารถใช้ซื้อเครื่องดื่ม ของฝากได้ และสามารถเข้าชมได้ในราคาเดิม 1300 เยนเท่านั้น

การเข้าถึง “นาบานะ โนะ ซาโตะ” นั้นสามารถเดินทางจากสถานีนาโกย่า ด้วยรถไฟ JR สาย KANSAI MAIN LINE หรือ KINTETSU NAGOYA LINE มายัง「NAGASHIMA STATION」และนั่งรถบัสจากสถานี KINTETSU NAGASHIMA STATION(เดินจาก JR NAGASHIMA STATION มาเพียง 2 นาที)ไปอีก 10 นาที(220 เยน)

2.สวนผลไม้ฮามามัตสึ HAMAMATSU FRUIT PARK

สถานที่ต่อไปก็คือ สวนผลไม้ขนาดใหญ่ “สวนผลไม้ฮามามัตสึ”『HAMAMATSU FRUIT PARK』ที่มือชื่อเสียงกับ “พายอุนางิ” สามารถเดินทางจากนาโกย่ามาด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง HIKARI ใช้เวลาในการเดินทาง 30 นาที

เป็นสวนผลไม้ที่ปลูกผลไม้กว่า 160 ชนิด กว่า 4,300 ต้น พร้อมกิจกรรมเก็บผลไม้ต่างๆ มากมาย ซึ่งในช่วงเดือนพฤษจิกายน ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงของงาน「Fruit illumination」ภายในงาน Fruit illumination จะมีการประดับด้วยไฟ LED กว่า 3 ล้านดวง และ「น้ำพุอิลลูมิเนชั่นโชว์」ที่เป็นการร่วมกันระหว่าง “น้ำพุ” และ Illumination ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงปีพ.ศ.2561-2562 (หรือปีค.ศ.2018-ค.ศ.2019) จะจัดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน ไปจนถึง วันที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 (เปืดให้บริการเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ในช่วงวันที่ 14 เดือนมกราคม – วันที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์)

ซึ่งนอกจากงานอีเว้นท์ประดับไฟที่น่าสนใจแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมเก็บผลไม้ที่มีเสน่ห์ของ “สวนผลไม้ฮามามัตสึ”「HAMAMATSU FRUIT PARK」ในช่วงที่มีการจัดงานประดับไฟอิลลูมิเนชั่น สามารถเก็บ “ส้ม” ได้ในเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม และสามารถเก็บสตรอเบอร์รี่ ได้ในช่วงเดือนมกราคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งกลางวันเพื่อเก็บผลไม้ และชมการประดับไฟยามค่ำคืนในตอนกลางคืนได้เลยทีเดียว

ค่าเข้า “สวนผลไม้ฮามามัตสึ”「HAMAMATSU FRUIT PARK」จะอยู่ที่ 1000 เยน สำหรับการเก็บผลไม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม(ราคาขึ้นอยู่กับชนิด และปริมาณการเก็บเกี่ยว)

การเดินทางจะมีอยู่ 2 วิธีคือ

สามารถเดินทางจาก “สถานีนาโกย่า” “ฝั่งโตเกียว ฟูจิซัง” ด้วยรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น หรือ JR TOKAIDO LINE มายังสถานีฮามามัตสึ และสามารถเดินทางจากสถานีฮามามัตสึได้ด้วย

1. JR HAMAMATSU BUS TERMINAL จากป้ายหมายเลข 16 ที่มุ่งหน้าไปยัง「MIYAKODA LINE FRUIT PARK」ไป 60 นาที เพื่อนั่งไปสุดสายที่「FRUIT PARK」

2.เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ENSHU「มุ่งหน้าไปสู่ NISHI-KAJIMA」เพื่อลงที่สถานีปลายทาง NISHI-KAJIMA STATION และขึ้นรถไฟใต้ดิน TENRYU HAMANAKO RAILROAD ที่มุ่งหน้าไปยัง「SHINJOHARA」ประมาณ 11 นาที เพื่อลงที่สถานี FRUIT PARK STATION และเดินไปทางเหนืออีก 8 นาที

แต่ละอย่างวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว

3. งานแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ Light-up Event in Shirakawago

สถานที่ยอดนิยม “ชิคาราวาโกะ”「SHIRAKAWAGO」ที่สามารถชมบ้านโบราณทรงกัชโชสึคุริหลังคาฟาง เป็นพื้นที่ที่เป็นพื้นที่หิมะตกหนักที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการจัดงานแสดงไฟเป็นเวลา 6 วันต่อปีในช่วงหิมะ บนบ้านทรงกัชโชสึคุริที่สวยงามและมีเสน่ห์ บ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะพร้อมฉายไฟสวยงามราวกับภาพวาดนี้เป็นโอกาศที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยทีเดียว

ซึ่งในปีพ.ศ.2562 จะจัดขึ้นในวันที่ 14,20,27 เดือนมกราคม และวันที่ 3,11,17 เดือนกุมภาพันธ์

โดยเฉพาะการชมวิวจาก「Tenshukaku Observatory」ที่สามารถชมได้ทั้งหมู่บ้านชิราคาวาโกะพร้อมวิวภูเขาที่แผ่กว้างออกไป ซึ่งจากจุดชมวิวมุมสูงนี้จะเป็นจุดที่สามารถชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่มีบ้านทรงกัชโชสึคุริ ปกคลุมไปด้วยหิมะ พร้อมการฉายไฟสวยงามหลายสิงหลัง เป็นภาพที่โฟโตเจนิค นอกจากนี้ยังมีแสงไฟสีส้มที่ลอดออกมาจากหน้าต่างบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่นท่ามกลางความเหน็บหนาวนี้เป็นอย่างยิ่ง

งานแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากในทุกๆ ปี ซึ่ง “งานแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ปีพ.ศ.2562” ที่กำลังจะมาถึงนี้ทางสถานที่ได้มีการจัดระเบียบข้อบังคับต่างๆ เพื่อป้องกันอุบัตเหตุและความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นจากผู้คนที่เดินทางมาชมกิจกรรมนี้ โดยการเข้าชม “งานแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ” จะเป็นระบบจองล่วงหน้าทั้งหมด และสามารถเดินทางจาก “ทาคายาม่า” “โทยาม่า” “ทาคาโอกะ” หรือ “คานาซาว่า” และบริเวณใกล้เคียงได้ด้วยรถบัสเพื่อเดินทางมายัง “ชิราคาวาโกะ” และนั่งรถบัสเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่งจะต้องทำการจองทัวร์แบบ ตั๋วเดินทางจากสถานีที่ต่างๆ พร้อมตั๋วไปกลับระหว่างชิราคาวาโกะและจุดชมวิว ไว้ล่วงหน้า

วิธีการจองสามารถอ่านรายละเอียดได้จากบริษัทรถบัสแต่ละบริษัท

TOYAMA CHIHOU BUS:『Shirakawa-go Lighting-up Bus in Winter 』

KARTSUNOU BUS:『Regarding the bus for Shirakawa-go Light-Up 2019』

การเดินทางไปยัง “ชิราคาวาโกะ” สามารเดินทางได้ดังนี้

เดินทางจาก “โตเกียว” ด้วย JR HOKURIKU SHINKANSEN มายัง “โทยาม่า”

เดินทางจาก “โอซาก้า” JR HOKURIKU LINE・LIMITED EXPRESSTHUNDERBIRD ไปยัง “คานาซาว่า”

เดินทางจาก “นาโกย่า” ด้วย JR TAKAYAMA LINE・LIMITED EXPRESS WIDE VIEW HIDA ไปยัง “ทาคายาม่า”

และเดินทางจากแต่ละสถานที่มาด้วยรถบัสจะสะดวกที่สุด แต่ละสถานที่จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง

สถานที่ชม “การประดับไฟยามค่ำคืนทั้ง Illumination และ Light up” ยอดฮิตในพื้นที่ชูบุทั้ง 3 แห่ง

“นาบานะ โนะ ซาโตะ NABANA NO SATO”

“สวนผลไม้ฮามามัตสึ HAMAMATSU FRUIT PARK”

“งานแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ Light-up Event in Shirakawago”

เมื่อเทียบกับ 『สถานที่ชม “การประดับไฟยามค่ำคืนทั้ง Illumination และ Light up” ยอดฮิตในแถบ “คันไซ”』

แล้ว สถานที่ข้างต้นนี้เป็นสถานที่ที่มีขนาดใหญ่กว่า อีกทั้งยังมีการแสดงไฟที่หมู่บ้านที่เป็นมรดกโลกอย่าง “หมู่บ้านชิราคาวาโกะ” ไม่ว่าสถานที่ไหนก็มีความอลังการ และมีความน่าสนใจที่ควรไปซักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะ “งานแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ Light-up Event in Shirakawago” ซึ่งนอกจากสถานที่ชม “การประดับไฟยามค่ำคืน Illumination และ Light up” ใน “ภูมิภาคชูบุ” ที่ได้พูดถึงกันแล้ว ยังมีสถานที่ชมการประดับไฟยามค่ำคืน Illumination และ Light up ในบริเวณ “โตเกียว” อยู่อีกมากมาย แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า ♪