ชมใบไม้เปลี่ยนสี ไปพร้อมๆ กับ “งานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง” ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น

อีก 1 เดือนประเทศญี่ปุ่นก็จะเข้าสู่ “ฤดูใบไม้ร่วง” แล้ว เป็นช่วงที่แปลงข้าว หรือต้นไม้ต่างที่ปลูกในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือต้นฤดูร้อน ออกผลจนเข้าสู่ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยว ดังนั้นจึงมีการจัดงานเทศกาลต่างๆ ขึ้นในช่วงนี้ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อขอบคุณและอธิษฐานขอพรเกี่ยวกับการเกษตรมากมาย

เราจึงอยากให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น ไปพร้อมๆ กับงานเทศกาลต่างๆ ในครั้งนี้ โดยเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 3 เทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

【เดือน กันยายน:เทศกาล ดันจิริ ที่ คิชิวาดะ KISHIWADA DANJIRI MATSURI】

ช่วงฤดูร้อนที่อุณภูมิสูงกว่า 30 องศากำลังจะหมดลง เพื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงเดือนกันยายน ตอนรับฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูนี้ก็จะมีงานเทศกาลดันจิริ「DANJIRI MATSURI」ของพื้นที่คิชิวาดะ ในโอซาก้า ใกล้สนามบินคันไซ ซึ่ง “เทศกาลดันจิริ” (DANJIRI MATSURI) นี้เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในแถบนิชินิฮน หรือฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น ที่เรียกรถลาก รถแห่ รวมๆ ว่า “ดันจิริ” โดยเฉพาะ “ดันจิริ” ของพื้นที่คิชิวาดะ ในโอซาก้า ความแข็งแรง และหึกเหิม นี้เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนจำนวนมากจากทั่วประเทศนิยมเดินทางมาชมความยิ่งใหญ่นี้ที่จะจัดขึ้นประมาณวันที่ 15 เดือนกันยายนของทุกปี กันอย่างล้นหลาม

ซึ่งจุดเด่นของเทศกาลนี้ก็คือการ「YARIMAWASHI」อ่านว่า “ยาริมาวาชิ” หมายถึง ช่วงเลี้ยวโค้ง แต่ละพื้นที่ในพื้นที่คิชิวาดะจะทำการลากรถลากเพื่อแข่งขันความเร็วกันอย่างดุเดือด โดยปกติแล้วการแห่ ”โอมิโคชิ OMIKOSHI” โดยทั่วไปเมื่อถึงส่วนเลี้ยวโค้งก็จะลดความเร็วลง แต่เทศกาลดันจิริที่แข็งขันความเร็วกันนั้นจะไม่มีการลดความเร็วระหว่างเลี้ยวโค้งเลย จึงไม่ใช้เรื่องแปลกเลยที่จะมีเหตุรถลากชนมุม หรือผู้ชายที่อยู่บนรถลากตกจากรถลาก ในงานเทศกาลดันจิรินี้ เป็นเทศกาลที่มีความเสี่ยง รุนแรง และดุเดือด ไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆ เลยค่ะ

ในปีนี้ “เทศกาลดันจิริ” จะถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันคือ วันที่ 15・16 เดือนกันยายน โดยจะถูกจัดขึ้นบริเวณสถานีนันไคคิชิวาดะ-ปราสาทคิชิวาดะที่สามารถเดินทางจากสถานีนันไคนัมบะหรือสถานีสนามบินคันไซ ด้วยรถไฟนันไคสายสนามบินคันไซ มาได้โดยตรง โดยวันแรกของงานเทศกาลวันที่ 15 “โยมิยะ” จะเป็นวันที่ผู้คนพลุกพล่านมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นควรจะเผื่อเวลาในการไปเยี่ยมชมงานเทศกาลเอาไว้เยอะๆ เลยค่ะ ถึงแม้ว่างานเทศกาลนี้จะเป็นงานที่จะจัดขึ้นทั้งวันตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ แต่ท่านสามารถชมการแห่ “รถลากดันจิริ” หรือ “การเลี้ยวโค้ง” ได้เฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้น หากท่านใดต้องการไปเข้าร่วมงานแนะนำให้ไปตั้งแต่เช้าเลยค่ะ

【เดือน ตุลาคม:”เทศกาลแห่งไฟคุรามะ KURAMA FIRE FESTIVAL” หรือ KURAMA NO HIMATSURI】

ที่เกียวโตจะมีการจัดงานเทศกาลใหญ่ๆ อยู่ 2 งานในวันที่ 22 ตุลาคาในทุกๆ ปี โดยช่วงกลางวันจะเป็นการจัดงาน “เทศกาลจิได”「JIDAI MATSURI」ที่เริ่มจากพระราชวังหลวงเกียวโต และงานที่จะเริ่มเมื่อพระอาทิตย์ตกดินในเวลา 6 โมงเย็นเป็นต้นไปกับงาน 「เทศกาลแห่งไฟคุรามะ KURAMA FIRE FESTIVAL」ที่จะจัดขึ้นที่วัดคุรามะ KURAMA DERA・ศาลเจ้ายูกิ YUKI JINJA ไปจนถึงกลางดึก

เป็นเทศกาลแห่งไฟที่สามารถชมเปลวไฟที่กำลังลุกโชน เป็นงานเทศกาลอันตรายที่ท่านสามารถชมเปลวได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีคำเตือนให้ผู้เข้าเยี่ยมชมใส่ชุดที่คล่องตัวเคลื่อนไหวตัวได้ง่ายและชุดที่ไม่ติดไฟเลยทีเดียว งานเทศกาลที่มีผู้คนเดินทางมาชมความดุเดือนของเทศกาลนี้กันอย่างล้นหลาม ทางเดินแคบๆ เพื่อไปวัดคุรามะก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย

ซึ่งเมื่อเลยเวลา 2 ทุ่มแล้ว บริเวณทางเดินบันไดหินที่เชื่อมต่อมากจากหน้าประตูซันมง เข้าสู่บริเวณวัดคุรามะ ก็จะมีคบไฟขนาดใหญ่นับหลายร้อยแท่งรวมตัวกันอยู่ตลอดทาง และทำการรวมคบไฟเหล่านี้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่อยู่ใกล้ๆ ก็รู้สึกได้ถึงความร้อนระอุที่อยู่บริเวณโดยรอบ ถึงแม้ว่าทางเดินขึ้นวัดนี้จะชันแต่ขบวนแห่มิโคชิก็เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว อย่างหึกเหิม ตื่นตาจนท่านอาจลืมเก็บภาพบรรยากาศได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ระหว่างที่ขบวนมิโคชิเคลื่อนไปตามบันไดหินนี้ ก็จะมีชายใส่ “ฟุนโดชิ”(ชั้นในดั้งเดิมญี่ปุ่น) แสดงห้อยโหนลงมาจากขบวนมิโคชิ กางขาออกอย่างกว้างเพื่อให้ร่างกายเป็นรูปตัวอักษรญี่ปุ่น ”大” ที่แปลว่า ใหญ่ ที่เป็นธรรมเนียม ซึ่งเราจะได้เห็นกันตั้งแต่บริเวณด้านล่างวัดเลย

ซึ่งงาน ”เทศกาลแห่งไฟคุรามะ KURAMA FIRE FESTIVAL” ในปีนี้จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 เดือนตุลาคม โดยงานจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น แต่เวลานั้นคนก็เริ่มหนาแน่น มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเข้าร่วมงานกันอย่างล้นหลามจนไม่สามารถขยับตัวได้เลย ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ไป “คุรามะ” ก่อนเวลา 4 โมงเย็นเลย ซึ่งระหว่างรอท่านก็สามารถเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีเสน่ห์ของพื้นที่คุรามะอย่างเช่น วัดคุรามะ หรือ ศาลเจ้ายูกิ ได้อีกด้วย

ซึ่งวันงาน ”เทศกาลแห่งไฟคุรามะ KURAMA FIRE FESTIVAL” ในวันที่ 22 ตุลาคม ในตัวเมืองเกียวโตก็มีงาน “เทศกาลจิได”「JIDAI MATSURI」เช่นกัน ดังนั้นท่านสามารถเข้าร่วมได้ทั้งงาน “เทศกาลจิได”「JIDAI MATSURI」ในช่วงกลางวัน ต่อด้วยงาน ”เทศกาลแห่งไฟคุรามะ KURAMA FIRE FESTIVAL” ในช่วงกลางคืนได้อย่างเต็มที่

【เดือน พฤศจิกายน:”โทริโนะอิจิ TORI NO ICHI” ศาลเจ้าฮานาโซโนะ HANASONO JINJA】

เมื่อเริ่มสู่ช่วงท้ายของฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้บริเวณโตเกียว หรือโอซาก้า ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ซึ่งที่ย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ชินจุกุ ในเมืองโตเกียว จะมีการจัดงาน 「โทริโนะอิจิ TORI NO ICHI」ที่ขึ้นชื่อขึ้น ณ ศาลเจ้าฮานะโซโนะ HANASONO JINJA ซึ่งงาน ”โทริโนะอิจิ TORI NO ICHI” ศาลเจ้าฮานาโซโนะ HANASONO JINJA เป็นงานที่ถูกสืบทอดมายาวนานกว่า 100 ปี

ผู้คนมากมายจากหลากหลายพื้นที่ต่างนิยมเดินทางมาเลือกซื้อ “คูมะเดะ KUMADE”(คาดไม้ไผ่ญี่ปุ่น เป็นเครื่องรางประดับร้านค้า) เพื่อขอพรให้ค้าขายได้อย่างรุ่งเรือง มีให้เลือกหลากหลาย สีสันสดใสสวยงาม ซึ่งงานที่จัดขึ้นในย่านชินจุกุที่มีนักท่องเที่ยวอยู่มากมายนี้ ในทุกๆ ปีจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 6 แสนคนเลยทีเดียว

”โทริโนะอิจิ TORI NO ICHI” นี้ ในเดือนพฤศจิกายน จะมีการจัดงาน「อิจิ โนะ โทริ ICHI NO TORI」「นิ โนะ โทริ NI NO TORI」「ซัน โนะ โทริ SAN NO TORI」ซึ่ง “โยมิยะ YOMIYA” และ “ฮนมิยะ HONMIYA” จะถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเมื่อเข้าไปภายในศาลเจ้าฮานะโซโนะแล้วสิ่งแรกที่จะเห็นเด่นชัดเลยก็คือ ”โคมไฟ” ภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า “โจจิน” ประดับอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่ง ”โคมไฟ” นี้สามารถซื้อไปถวายได้ในราคาอันละ 1 หมื่นเยน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น เมื่อผ่าน ”โคมไฟ” มาแล้ว ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการหา ”คูมะเดะ KUMADE”(คาดไม้ไผ่ญี่ปุ่น เป็นเครื่องรางประดับร้านค้า) ที่ถูกใจได้ตามร้านแผงรอยภายในงานกลับบ้านไปนั่นเอง

เลือกซื้อ ”คูมะเดะ KUMADE” ที่มีสีสันสดใส สวยงาม เพื่อขอพรให้ทำการค้ารุ่งเรืองกับที่ศาลเจ้าฮานะโซโนะ นอกจากนี้ยังสามารถตื่นตาไปกับ「มิเสะโมโนะโกยะ MISEMONOGOYA」ได้อีกด้วย

เดิมที「มิเสะโมโนะโกยะ MISEMONOGOYA」ที่มีทั้งโชว์แปลกๆ สัตว์แปลก ต่างๆ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในงานเทศกาลในแต่ละพื้นที่ของญี่ปุ่น แต่เนื่องจากปัญหาการหาที่ หรือขาดคนดูแล ทำให้คนจำนวนมากนิยมเดินทางมาชม “มิเสะโมโนะโกยะ MISEMONOGOYA” ในงาน ”โทริโนะอิจิ TORI NO ICHI” ที่ศาลเจ้าฮานะโซโนะ ที่หลงเหลืออยู่น้อยนี้กันเป็นจำนวนมาก

ถึงแม้ว่าการแสดง “มิเสะโมโนะโกยะ MISEMONOGOYA” จะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ท่านก็สามารถเพลิดเพลินสนุกสนานได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าใจภาษาญี่ปุ่นเลย ซึ่งแขกส่วนใหญ่ของที่นี่กว่า 20% ก็เป็นชาวต่างชาติอีกด้วย

ซึ่งตารางงาน”โทริโนะอิจิ TORI NO ICHI” จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้

「อิจิ โนะ โทริ ICHI NO TORI」ช่วงวันที่ 31 ตุลาคม-วันที่ 1 พฤศจิกายน

「นิ โนะ โทริ NI NO TORI」วันที่ 12 พฤศจิกายน-วันที่ 13 พฤศจิกายน

「ซัน โนะ โทริ SAN NO TORI」วันที่ 24 พฤศจิกายน-วันที่ 25 พฤศจิกายน

โดยเมื่อเข้าช่วง 「ซัน โนะ โทริ SAN NO TORI」ก็จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของโตเกียวพอดี

ซึ่งการเดินทางไป “ศาลเจ้าฮานะโซโนะ” นั้นสามารถเดินจากย่านช้อปปิ้ง “ชินจุกุโดริ”「SHINJUKU DORI」เพียง 5 นาทีเท่านั้น โดยกรณีที่เดินจากห้าง “บิ๊กโคล่ BICQLO” นั้นให้เดินออกจาก “ชินจุกุโดริ” ไปทางซ้ายมือ และเมื่อเจอแยกให้เลี้ยวขวาทันที และเมื่อไปอีกซักพักก็จะเจอกับถนนใหญ่ ให้เดินข้ามไปถนนอีกฝั่งและไปทางขวามือ ก็จะเจอโทริอิขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือเลยค่ะ ท่านสามารถอ่านรายละเอียดการเดินทางไป “ศาลเจ้าฮานะโซโนะ” ได้จากคอนเทนท์ของ ICHIGO-JAPAN ที่ผ่านมาได้เลย

เป็นยังไงบ้างคะ ? วันนี้ ICHIGO-JAPAN ได้แนะนำงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ทั้งเดือนกันยายน・เดือนตุลาคม・เดือนพฤศจิกายน ไปอย่างละ 1 งาน ซึ่งแต่ละงานท่านยังสามารถวางแผนเพื่อไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้ทันช่วงงานเทศกาลเหล่านี้ได้ เรียนเชิญทุกท่านมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเพื่อชม “ใบไม้เปลี่ยนสี” ที่สวยงามไปพร้อมๆ กับงานเทศกาลที่มีเสน่ห์ของญี่ปุ่นเลยนะคะ

แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าค่ะ

Related posts
โอซาก้ามัตสึริ : เทศกาลชินโน เทพเจ้าแห่งการแพทย์และยา
ต้อนรับปี 2022 ด้วย 1 DAY TRIP IN OSAKA ร่วมงานเทศกาลสำหรับการค้าขายรุ่งเรืองของญี่ปุ่น
เจาะลึก! ฤดูร้อนญี่ปุ่นก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ใคร
“เทศกาลทาคายาม่า (Takayama Festival)” ณ จังหวัดกิฟุ
แนะนำย่านที่เป็นศูนย์รวมที่พักภายในตัวเมือง “โอซาก้า”
รู้จักกับสถานที่ชม “ใบไม้เปลี่ยนสี” ยอดนิยมทั้งหมด 4 สถานที่เพื่อเตรียมพร้อมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึงนี้