เร็ว อร่อย ทันใจ กับร้านอาหารแบบ “ยืนกิน” ในโตเกียว และโอซาก้า

 “การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น” โดยเฉพาะการเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นเราคงจะต้องได้นั่งรถไฟซักครั้งแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว หรือ โอซาก้า และสิ่งที่เชื่อมระหว่างเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็คือ “รถไฟ” ซึ่งสถานีรถไฟในที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นนั้น นอกจากจะเป็นสถานีที่ใช้ในการคมนาคมแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง และอาหารอร่อยๆ เอาไว้มากมาย ซึ่งร้านอาหารหรือร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ภายในสถานีรถไฟจะถูกเรียกว่า “เอกินาคะ”「EKINAKA」และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนญี่ปุ่น

และถือได้ว่าสถานีรถไฟเป็นสถานที่ที่สะดวกต่อการใช้ชีวิตของคนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ในระยะเวลาสั้นๆ โดยที่เราสามารถเพลิดเพลินกับร้านอาหารและร้านค้าที่อร่อย และครบครันได้ และไม่ต้องไปหาร้านอาหารหรือแหล่งช้อปปิ้งที่อยู่ไกลออกไปให้เสียเวลา

ดังนั้นครั้งนี้เราจะมาแนะนำ “เอกินาคะ” ที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้รู้จักกัน

ซึ่ง “เอกินาคะ” ที่มีประวัติอันยาวนานและคนญี่ปุ่นคุ้นเคยกันดีก็คือ “ร้านยืนกินในชานชาลา” เป็นร้านอาหารแบบยืนกินที่สามารถลิ้มลองรสชาติอาหารแบบท้องถิ่นอย่างเช่น 「อุดง」「โซบะ」「ราเม็ง」 หรือ 「แกงกะหรี่」ได้ภายในชานชาลาที่ทั้งอร่อยและรวดเร็ว ร้านเหล่านี้จะได้รับความนิยมในหมู่ “คนทำงาน” ที่มีเวลาจำกัด สามารถทานอาหารได้ในระยะเวลาสั้นๆ และในบรรดาร้านยืนกิน ที่มีจำนวนมากที่สุดก็คือ “ร้านโซบะ” นั่นเอง

เริ่มจากร้านยืนกินใน “โตเกียว” ภายในสถานีที่มีชานชาลาของรถไฟเส้นYAMANOTE LINE หรือ CHUO LINE ที่เป็นรถไฟสายหลักของโตเกียว จะมีร้านโซบะแบบยืนกินอยู่แทบจะทุกที่ แต่ละที่ก็จะมีรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างกันออกไป ซึ่งร้านโซบะแบบยืนกินที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากภายในโตเกียวก็คือร้านโซบะยืนกิน “ชินตะโดโทะ” 「SHINTAGOTO」ที่อยู่ในชานชาลาหมายเลข 6 สถานีอากิฮาบาระ รถไฟสายโซบุ AKIHABARA STATION – SOBU LINE

ด้วยการเสิร์ฟโซบะลวกใหม่กับน้ำซุปที่หอมอร่อย ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้บริการกว่า 1000 คนต่อวันเลยทีเดียว

นอกจากโซบะที่อร่อยแล้ว ราคาก็ไม่แพงอีกด้วย เมนูเรียบง่ายอย่างโซบะเย็น「MORISOBA」ราคาเพียง 290 เยน(≒90 บาท)เท่านั้น นอกจากนี้ก็มีเมนูให้เลือกหลากหลาย เช่น โซบะร้อนหน้ากุ้งเท็มปุระ「EBITENSOBA」(560 เยน)เป็นต้น

ซึ่งเมนูแนะนำอันดับหนึ่งของร้านก็คือ “โซบะ เม็มปุระผักชุนกิคุ”「SHUNGIKUTEN SOBA」(430 เยน)เมื่อสั่งอาหารแล้วที่ร้านจะใช้เวลาในการเสิร์ฟเพียง 1 นาทีเท่านั้น เพื่อให้คนทำงานได้ใช้บริการระหว่างรอเวลารถไฟในชั่วโมงเร่งรีบในทำงาน

เท็มปุระผัก(ผักมีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า “ชุนกิคุ”)บนโซบะที่ล้นออกมาจากจานก็เป็นอีกหนึ่งความตื่นตาในการถ่ายรูปลงโซเชียลได้เช่นกัน นอกจากโซบะแล้วที่ร้าน “ชินตะโดโทะ” นี้ยังสามารถสั่งเส้นอุดงแทนเส้นโซบะได้ในราคาเท่าเดิม ตามความชอบของแต่ละบุคคล

 “ชินตะโดโทะ” 「SHINTADOTO」นี้ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านโซบะ แต่เมนูอื่นๆ นอกจากโซบะก็มีให้เลือกทานเช่นกัน อย่างเช่น “แกงกะหรี่หมูทอด”「TONKATSU CURRY」(680 เยน), “คัตสึดง”「KATSUDON」(580 เยน), ข้าวหน้าไก่กับไข่ ”โอยาโกดง”「OYAKODON」(520 เยน)หรือเมนูเด่นของร้านอย่าง “แกงกะหรี่สเต็ก”「STEAK CURRY」(1100 เยน)ด้วยเนื้อสเต็กแน่นๆ บนแกงกะหรี่ต้นตำรับ ทำให้เมนูนี้ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกับ「SHUNGIKUTEN SOBA」เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าปกติแล้วเมนู “แกงกะหรี่สเต็ก” จะอยู่ที่ 1100 เยนแต่เฉพาะวัน อังคาร・พฤหัสบดี・เสาร์ และวันอาทิตย์จะลดเหลือ 690 เยนเท่านั้น ทำให้วันเหล่านี้ลูกค้ากว่าครึ่งจะสั่งเมนู “แกงกะหรี่สเต็ก” และถึงแม้ว่าราคาจะถูกลงแต่คุณภาพและปริมาณยังคงเท่าเดิม ดังนั้นทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับเมนูนี้ได้ในราคาที่ถูกลงแต่คุ้มราคามากๆ

ซึ่งร้าน “ชินตะโดโทะ” 「SHINTADOTO」นี้ตั้งอยู่ในชานชาลาหมายเลข 6 สถานีอากิฮาบาระ รถไฟสายโซบุ ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น สามารถนั่งรถไฟสายโซบุ ที่มีสถานีปลายทางชินจุกุ เพื่อมาลงที่ “สถานีอากิบาระ” เมื่อลงจากรถไฟแล้วจะเห็นบันไดที่อยู่ส่วนกลางด้านซ้ายมือ ร้านจะอยู่เลยบันไดไปอีกทางด้านซ้ายมือ ส่วนในกรณีที่นั่งสายยามาโนเตะ YAMANOTE LINE หรือ สายเคฮินโทโฮคุ KEIHIN TOHOKU LINE จากสถานีโตเกียวหรืออุเอโนะ เมื่อลงที่สถานีอากิฮาบาระแล้วจะต้องเดินขึ้นบันไดที่อยู่กลางชานชาลาเพื่อขึ้นบันไดไปที่ชานชาลาหมายเลข 6 ร้านจะอยู่ซ้ายมือทันที เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านที่ตั้งอยู่ภายในสถานีของย่านโอตาคุ หรือย่านแหล่งช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงถือได้ว่าเป็นอีกร้านหนึ่งที่สะดวกมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาลงสถานีนี้

และต่อไปก็คือร้านโซบะยืนกินของ “โอซาก้า” กับร้าน “นานิวะ โซบะ”「NANIWA SOBA」ในสถานีชินโอซาก้า ที่เป็นศูนย์รวมของรถไฟสายต่างๆ ทั้ง ชินคันเซ็น, JR สายเกียวโต หรือรถไฟแบบด่วนพิเศษที่มุ่งหน้าไปสู่ แถบโฮกุริกุ, แถบซันอิน, แถบคันไซ หรือวาคายามะ

โดยหากลงจากรถไฟชินคันเซ็น และผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วเพื่อผ่านไปยังรถไฟเส้นทั่วไป ร้านจะอยู่ข้างบันไดเลื่อนเพื่อลงไปสู่ชานชาลาหมายเลข 15・16

ที่ร้านนี้จะมีเมนูให้เลือกมากกว่า 30 เมนู เช่น เมนูพิเศษที่มีไข่และเนื้อวัวอยู่ในเมนูกับ “นานิวะ สเปเชี่ยล”「NANIWA SPECIAL」(580 เยน)”ทานูกิ โซบะ”「TANUKI SOBA」(400 เยน)”สึกิมิ จิราชิ อุดง(โซบะ)”「TSUKIMI CHIRASHI UDON(SOBA)」(400 เยน)และนอกจากโซบะหรืออุดงแล้ว ก็ยังมีเมนูอื่นๆ เช่น เซ็ตคัตสึ(750 เยน)

เท่านั้นไม่พอ ยังมีเมนูแปลกๆ อย่าง “ทาโกยากิอุดง(โซบะ)”「TAKOYAKI UDON(SOBA)」(400 เยน)ที่เป็นการรวมตัวระหว่างอุดงและอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าอย่าง “ทาโกยากิ” ทั้งอร่อยและราคาไม่แพงอีกด้วย

เมื่อเลือกอาหารจากเมนูตัวอย่างที่จัดแสดงอยู่หน้าร้านแล้ว ก็สามารถสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ทางเข้าร้านได้เลย ซึ่งที่ร้านนี้จะเป็นเมนูภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ดังนั้นสามารถถ่ายรูปเมนูอาหารที่ต้องการทานจากเมนูตัวอย่างหน้าร้านเพื่อนำมาสั่งกับพนักงานได้เลย ในเมนูเส้นสามารถเลือก อุดง หรือ โซบะ ได้ตามความชอบ แต่เราอยากจะแนะนำเป็น โซบะ

เดิมทีร้าน “นานิวะ โซบะ” แห่งนี้จะเป็นร้านอาหารแบบยืนกินเท่านั้น แต่เพิ่งได้รับการปรับปรุงเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ปัจจุบัน ภายในร้านจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ แบบยืนทาน และแบบโต๊ะนั่งทาน

ครั้งนี้เราได้สั่ง “ชินโอซาก้าโซบะใส่เนื้อวัว”「SHINOSAKA SOBA GYUUNIKU IRI」(470 เยน)เมื่อสังเกตุดูที่เส้นโซบะแล้ว จะพบว่าเส้นโซบะของที่นี่จะเป็นเส้นแบบราเม็ง ซึ่งจุดเด่นของร้านนี้ก็คือ น้ำซุปโซบะที่ใช้เส้นแบบราเม็ง หรือเส้นแบบบะหมี่เหลือง เฉพาะฉะนั้น หากใครไม่ถนัดเส้นอุดงหรือโซบะ ของญี่ปุ่น ก็สามารถทานเส้นที่คล้ายเส้นบะหมี่เหลืองแบบที่ไทยได้ ด้วยรสชาติของซุปจากสาหร่ายคมบุ ความหอมมันของเนื้อวัว และแป้งเท็มปุระ บวกกับเส้นแบบบะหมี่เหลือง ที่มีรสชาติเข้ากันอย่างลงตัว อีกทั้งยังสามารถปรุงพริกเพิ่มได้ตามความต้องการเลย

เป็นยังไงกันบ้างคะ? กับร้านค้าภายในสถานี “เอกินาคะ”「EKINAKA」ที่เรานำมาให้ทุกท่านได้รู้จักกันในวันนี้ ซึ่งเราได้แนะนำ “โซบะสถานี”「EKISOBA」ทั้งที่โตเกียว และโอซาก้า กันไปอย่างละที่ ซึ่งนอกจาก “โซบะสถานี”「EKISOBA」ที่เราได้ยกมาในครั้งนี้แล้วยังมีร้านค้าภายในสถานีอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

และเราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับร้านน่าถ่ายรูปและร้านอาหารที่สามารถทานอาหารขึ้นชื่อของแต่ละพื้นที่กันในตอนต่อไป แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าค่ะ