ตั้งแต่ Deep Japan ครั้งที่แล้วในวันที่ 30 มีนาคมที่เราได้เขียนเรื่อง「BIKE SHARING」ไป
เช่าจักรยานเที่ยวญี่ปุ่นในที่ ๆ คุณไม่เคยไป พร้อมแนะนำช่องทางการเช่าจักรยาน
ซึ่งเป็นบริการที่ให้เราสามารถเช่าจักรยานได้ง่ายๆ ผ่านเว็ปไซต์จากมือถือหรือคอมพิวเตอร์
และที่สำคัญคือชาวต่างชาติก็สามารถใช้บริการได้ด้วย
ในครั้งนี้เราจึงจะมาเล่าการใช้บริการ「BIKE SHARING」เช่าจักรยานของโอซาก้า「HUB Chari」เพื่อเที่ยวชมรอบเมืองโอซาก้ากันต่อจากครั้งที่แล้ว
มาดูวิธีการลงทะเบียนกันอีกรอบ『HUB chari Port Map』
ก่อนอื่นก็ต้องค้นหาสเตชั่นจากลิงค์ด้านบน ที่แสดงเป็นสีแดงคือ สเตชั่นสำหรับการสมัครสมาชิกแบบลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน ที่จองและชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ส่วนที่แสดงเป็นสีฟ้าจะเป็นสเตชั่นที่พนักงานประจำการในแต่ละที่จะทำการจัดการบริการ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแบบอะนาล็อก และที่แสดงอยู่ทั้งสองฝั่งคือสเตชั่นที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ที่ลงทะเบียนแบบอะนาล็อกและสมาร์ทโฟนเลย สำหรับวิธีใช้บริการสเตชั่นของผู้ที่ลงทะเบียนแบบอะนาล็อกก็ง่ายนิดเดียว เราสามารถไปที่สเตชั่นและใช้จักรยานคันที่ว่างได้เลยแบบไม่ต้องจอง
ในกรณีของผู้ที่ต้องการใช้สเตชั่นแบบลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน『HUB Chari Log in Page』
ก่อนอื่นก็ต้องเข้าไปที่ลิ้งค์นี้เพื่อลงทะเบียนก่อน สามารถเปลี่ยนภาษาเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วย แล้วเข้าไปที่「REGISTER」อ่านข้อกำหนดแล้วก็กดไปที่「ACCEPT」
ตั้ง USER ID และ PASSWORD ใส่ชื่อ อีเมล และเบอร์โทรศัทพ์ เมื่อกด「REGISTER」ก็จะเข้าไปที่หน้าตรวจสอบข้อมูล เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
จากนั้นก็กรอกข้อมูลบัตรเครดิต(VISA / MASTER / JCB)สำหรับหักค่าใช้จ่าย ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน แค่ 3 นาทีก็เสร็จแล้ว เท่านี้เราก็สามารถใช้สเตชั่นสำหรับสมาชิกแบบสมาร์ทโฟนได้แล้ว
เมื่อเป็นสมาชิกผ่านสมาร์ทโฟนแล้ว ต่อไปก็ต้องไว้ก่อน สามารถจองได้ก่อนใช้จริง 20 นาที ต้องล๊อคอินเข้าไปก่อน ก็เลือกสเตชั่นที่ต้องการไปยืมที่「Choose from port」 เลือกสเตชั่นที่สามารถใช้ได้ และเลือกตัวเลือกไหนก็ได้ใน Bikelist เมื่อทำการจองเรียบร้อยแล้ว Pass Code ก็จะถูกส่งมาทางเมล นำ Pass Code ที่ได้ไปใส่ที่สเตชั่นที่ต้องการไปยืม เท่านี้ก็สามารถยืมจักรยานมาปั่นได้เลย
ครั้งที่แล้วเราได้เลือกใช้สเตชั่นที่อยู่ใกล้กับโยโดยะบาชิ ที่โอซาก้าเพื่อเที่ยวชมรอบเมืองโอซาก้าจนมาถึง เท็นชุคากุ ที่ปราสาทโอซาก้า
ขับไปเรื่อย ๆ ก็เจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมายทั้งคนจีน เกาหลี และคนไทย
ก่อนอื่นก็ถ่ายรูปกับปราสาทโอซาก้าเป็นที่ระลึกก่อนเลย
ด้านข้างเท็นชุคากุปราสาทโอซาก้าจะมีย่านร้านค้าเล็ก ๆ『MIRAIZA-OSAKAJO』 ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมาด้วย
เช่าจักรยานเที่ยวญี่ปุ่นในที่ ๆ คุณไม่เคยไป พร้อมแนะนำช่องทางการเช่าจักรยาน
ซึ่งเดิมทีเป็นตึกของทหาร ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 87 ที่แล้วในปีพ.ศ.2474 ถูกใช้เป็นกองบังคับการตำรวจประจำจังหวัดและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นก็ถูกปิดว่างจนกระทั่งมีการปรับปรุงใหม่เป็นย่านร้านค้าเล็ก ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวที่ปราสาทโอซาก้านั่นเอง
บริเวณทางเข้าที่มีร้านกาแฟอยู่ด้านข้าง จะมีมุม「Where are you from」ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแปะสติ้กเกอร์ประเทศของตนเองด้วย ประเทศไทยถูกแปะไว้เต็มจนไม่มีที่แปะแล้ว แสดงว่าคนไทยมาเยอะกันจริงๆ
ที่「MIRAIZA」มีทั้งร้านของฝากทั่วไป ของนินจา หรือของที่ระลึกแปลกๆด้วย พนักงานทุกคนเป็นนินจาด้วย(แต่งชุดเฉยๆน้า) จะขอถ่ายรูปกับพนักงานก็ได้นะ(ฟรี!!) หรือจะเป็นมุมแต่งชุดนินจาปาชูริเคน(อาวุธนินจาใช้สำหรับขว้างปา) ก็ได้ด้วย(300 เยน)
หลังจากได้ไปที่เท็นชุคากุ กับ「MIRAIZA」แล้วก็ไปรอบ ๆ ปราสาทโอซาก้ากันต่อ สามารถเดินจากสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด(TANIMACHI 4 CHOUME) มาถึงเท็นชุคากุบริเวณปราสาทโอซาก้ามาประมาณ 15 นาที บริเวณปราสาทโอซาก้ากว้างมาก ๆ ถ้าจะให้เดินรอบปราสาทเลยคงใช้เวลาครึ่งวัน แต่ถ้ามีจักรยานแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงก็เที่ยวได้ทั่วเลย
ผ่านออกประตู「SAKURAMON」จากเท็นชุคากุและออกจากนอกคูน้ำ ซึ่งที่ประตู「SAKURAMON」จะมีต้นซากุระใหญ่สมชื่อประตูอยู่ด้วย ปีนี้จะซากุระบานเร็วกว่าทุกๆปี ช่วงกลางเดือนก็เริ่มบานบ้างแล้ว。
จากนี้ลองมาชมวิดีโอกันดูบ้าง ในปีนี้ช่วงเดือนมีนาคมอากาศก็เริ่มอุ่นแล้ว ซึ่งถ้าเป็นปีที่ผ่านๆมา ซากุระจะเริ่มบานเรื่อยๆในช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงเมษายน โดยเฉพาะที่โตเกียว โอซาก้า นาโกย่าหรือ เมืองที่อยู่ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก จะบานเร็วขึ้นในรอบหลายสิบปีเลย (เร็วกว่าปกติ 1อาทิตย์ถึง 10 วันเลย) ซึ่งครั้งนี้เป็นช่วงที่เลยกลางเดือนมานิดเดียวก็เห็นซากุระบานไปพร้อมๆกับปั่นจักรยานได้เลย
เมื่อมาถึงสะพาน「MORINOMIYA」ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของปราสาทโอซาก้า จะเห็นซากุระบานเต็มที่เลย เมื่อมาถึงตรงนี้แล้วเราก็จะไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวชาติเยอะเท่าไหร่ จะมีแต่คนในท้องถิ่นซะส่วนใหญ่ ถ้าปั่นจักรยานแบบนี้เราก็จะปั่นไปได้เรื่อยๆ ไปในโซนของคนในท้องถิ่น ที่ไม่ใช่สถานีที่ท่องเที่ยวหลัก ได้เห็นวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นก็ดีไปอีกแบบนะ
ไปดูคลิปกันอีกรอบ จากโมริโนมิยะ MORINOMIYA ขับเรียบทางรถไฟไปทางทิศเหนือ ประมาณ 3 นาทีก็จะเจอกับ JR「สถานีโอซาก้าโจโคเอ็น」「OSAKAJOUKOUEN STATION」
ด้านหน้าสถานีจะมีย่านร้านค้าชื่อ「JO TERRACE OSAKA」 อาจเป็นสถานที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากนัก แต่เราจะเห็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ฮ่องกง และไต้หวัน เริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้กันแล้ว มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ร้านใส่ชุดแบบญี่ปุ่น หรือ STARBUCKS ที่ตกแต่งร้านดูดีกว่าที่อื่นนิดหน่อย มีร้านต่างๆมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นเพลิดเพลินกันอย่างจุใจ เมื่อผ่าน「JO TERRACE OSAKA」ไปก็จะเห็นคูน้ำด้านนอกของปราสาทโอซาก้าอยู่ด้านซ้ายมือ บริเวณคูน้ำด้านนอกของปราสาทโอซาก้าจะเป็นบริเวณพักผ่อนของคนในท้องถิ่น มีทั้งคนที่มาวิ่ง เดินเล่น นักศึกษากำลังเทรนนิ่ง หรือแม้แต่คนแก่ที่กำลังเล่นไพ่นักกระจอกกันอยู่・・・・
เราสามารถเที่ยวรอบๆโอซาก้า ได้เห็นการใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่นแบบนี้ ได้บรรยากาศไปอีกแบบเลย
หลังจากเที่ยวรอบ ๆ ปราสาทโอซาก้าแล้ว ต่อไปก็ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่าง ย่านโดทงโบริ ชินไซบาชิกันต่อ วิธีเดินทางจากปราสาทโอซาก้ามาชินไซบาชิก็ง่ายนิดเดียว
เหมือนตามคลิปวิดีโอเลย คือออกจากปราสาทโอซาก้า ขับมาตามทางโทสะโบริโดริเรียบแม่น้ำมาเรื่อยๆ ก็จะออกมาสู่ทางวันเวย์ถนนหกเลนเส้น「MIDOSUJI」เลี้ยวซ้ายที่เส้นมิโดสุจิและปั่นตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที จาก JO TERRACE มาที่ชินไซบาชิจะเป็นทางราบประมาณ 30 นาที 「Hub Chari」เราสามารถคืนจักรยานที่สเตชั่นอื่นได้ ครั้งนี้เรายืมจักรยานที่สเตชั่นโยโดยะบาชิที่อยู่ใกล้อุเมดะ โอซาก้า แต่เราจะคืนจักรยานที่ศูนย์กลางชินไซบาชิที่สเตชั่นห้างไดมารุ「DAIMARU」กัน
วิธีคืนก็ง่ายนิดเดียว ในกรณีของ「สมาชิกแบบลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน」แค่นำจักรยานไปจอดที่สเตชั่น โดยกดตัวจักรยานให้ล๊อคกับที่จอดเท่านั้น ค่าใช้จ่ายต่างๆก็จะถูกหักจากบัตรเครดิตเลย ตามระยะเวลาที่ได้ยืมไป ส่วนกรณีของ「ผู้ที่ลงทะเบียนแบบอะนาล็อก」สามารถเรียกพนักงานที่ประจำการเพื่อชำระเงินเท่านั้น
ทริปท่องเที่ยว โยโดยาบาชิ-สวนสาธารณะนาคาโนชิมะ-เท็นชุคากุปราสาทโอซาก้า-โมริโนมิยะ-JO TERRACE-และชินไซบาชิ ด้วยการปั่นจักรยานเที่ยวรอบโอซาก้าก็จบลงเท่านี้ ใช้เวลาปั่นเที่ยวประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ซึ่งทำให้เราสามารถท่องเที่ยวได้แบบสบายๆ และยังไปที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แถมยังได้ไปในที่ที่ปกติเราไม่ได้ไป ได้เห็นวิถีชีวิตคนภายในเมืองอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และมาจนถึงโดทงโบริ ชินไซบาชิเพื่อเดินเที่ยวกันต่อ
ช่วงวันหยุดสงกรานต์หรือช่วงวันหยุดในเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นอากาศกำลังพอดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป เหมาะกับการปั่นจักรยานมากๆ เลยค่ะ ใครที่สนใจลองมาปั่นจักรยาน「BIKE SHARING」เที่ยวรอบเมืองโอซาก้าแบบเราดูนะคะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ