การท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้วก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นไม่แพ้กันก็คือ “อาหาร”
ซึ่งที่ผ่านมาเราได้นำเสนออาหารขึ้นชื่อของ “โอซาก้า” “นาโกย่า” “ฮิดะทาคายาม่า” และ “ฟุกุอิ” กันไปแล้ว วันนี้ก็เป็นครั้งที่ 6
!! แล้วที่เราได้แนะนำอาหารขึ้นชื่อของแต่พื้นที่ในญี่ปุ่น ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับอาหารขึ้นชื่อของ “ชิงะ”「SHIGA」เมืองเก่าแก่ที่มีทะเลสาบ บิวาโกะ ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยเรากำลังจะแนะนำอยู่ในคอนเทนท์「Round the CHI」ของ ICHIGO-JAPAN
หากพูดถึงอาหารขึ้นชื่อของ “จังหวัดชิงะ” ก็คงจะต้องนึกถึง “เนื้อโอมิ” 「OMIGYU」เนื้อชั้นดีเทียบเคียงกับเนื้อโกเบ และอีกสิ่งหนึ่งก็คือ “ขนม” ขึ้นชื่อของพื้นที่นี้ ถึงแม้ว่าจังหวัดชิงะจะไม่ใช่จังหวัดที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยว แต่สามารถเดินทางไปอำเภอเมืองโอสึได้โดยนั่งรถไฟจากเกียวโตมาเพียง 10 นาที และเดินทางมาจากโอซาก้าเพียง 40 นาทีเท่านั้นซึ่งถือว่าใกล้มากๆ เพียงแวะเที่ยวระหว่างการท่องเที่ยวที่เกียวโตหรือโอซาก้า ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศธรรมชาติ แบบท้องถิ่นญี่ปุ่น พร้อมทานอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่นี้ได้อีกด้วย
มาเริ่มกันที่ “เนื้อโอมิ”「OMIGYU」เนื้อชั้นดี ที่เป็นหนึ่งใน「NIHON 3(SAN) DAI WAGYU」แปลว่า “เนื้อขึ้นชื่อ 3 ชนิดในญี่ปุ่น” ที่เทียบเคียงกับ「เนื้อโกเบ」และ「เนื้อมาสึซากะ」ซึ่งลักษณะเด่นของเนื้อโอมิก็คือ「ลายเนื้อละเอียด หอมมันหวาน อร่อยละลายในปาก」
เดิมทีประเทศญี่ปุ่นไม่มีวัฒนธรรมการรับประทานเนื้อ และมีการห้ามรับประทานเนื้อทั่วประเทศในสมัยเอโดะเมื่อ 400 ปีที่แล้วเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 265 ปี ซึ่งในช่วงระยะเวลานั้นมีสถานที่ที่ได้รับอนุญาติให้รับประทานเนื้อได้นั่นก็คือ อาณาเขต「แคว้นฮิโกเนะ」ทางตอนเหนือของชิงะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ด้วยความที่พื้นที่นี้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าที่ต้องใช้เนื้อเป็นวัตถุดิบ เช่น กลองญี่ปุ่น ทำให้พื้นที่นี้ได้รับการยกเว้นเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ด้วยเบื้องหลังทางประวัติศาสตร์ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับเมนูเนื้อโอมิได้อย่างเต็มอิ่มในหลายๆ ร้านภายในชิงะนั่นเอง
ในบรรดาร้าน “เนื้อโอมิ” ในจังหวัดชิงะที่เป็นแหล่งต้นกำเนิดของเนื้อโอมิ และได้แนะนำไปในทริปของ ICHIGO-JAPAN
ร้านแนะนำนี้ก็คือ ร้านเนื้อโอมิโดยเฉพาะกับ “ร้านทิฟฟานี่”「TIFFANY」ตั้งอยู่หน้าสถานีโอมิฮาจิมัง
ซึ่งร้าน「OMIGYU RESTAURANT TIFFANY」นี้เป็นร้านอาหารของร้านเนื้อชื่อดัง “คาเนะคิจิ”『KANEKICHI』โดยสามารถทานเนื้อโอมิได้ในราคาที่เหลือเชื่อ ได้รับความนิยมจากทั้งคนในท้องถิ่นและชาวต่างชาติ
ท่านสามารถเพลิดเพลินกับคอร์ส “เนื้อโอมิ” 「OMIGYU」ได้ในรูปแบบต่างๆ ทั้ง แบบสเต็ก แบบชาบูชาบู แบบสุกียากี้ ซูชิเนื้อติดมัน หรือ เนื้อสันในดิบ ซึ่งมีคอร์สและเมนูต่างๆ ดังนี้คือ “เซ็ตเนื้อสันในญี่ปุ่น”（4539 เยน）เสิร์ฟพร้อมกับ ผักย่าง สเต็ก และเครื่องดื่ม, คอร์สสเต็กเนื้อโอมิ（6912 เยน）, คอร์สเนื้อสันใน（7992 เยน）,คอร์สเนื้อโอมิชาบูชาบู（6480 เยน）, เนื้อโอมิสุกี้ยากี้（6480 เยน）เมนูต่างๆ ที่สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อโอมิได้อย่างเต็มที่ เป็นไฮไลท์ของทริปเลยทีเดียว
และพิเศษสุดๆ สำหรับ “อาหารกลางวัน” ที่สามารถทานเนื้อโอมิได้ในราคาสบายกระเป๋า เฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลาอาหารกลางวัน 11:30－14:00 เท่านั้น ในเซ็ตอาหารกลางวัน 1480 เยน โดยเมนูหลักในตัวเลือกระหว่าง สตูเนื้อ, สเต็ก หรือ แฮมเบิร์ก เสิร์ฟพร้อมกับ สลัด ซุป และเครื่องดื่ม กาแฟ หรือ ชา เป็นต้น
ร้านเนื้อโอมิ “ทิฟฟานี่”『TIFFANY』ที่ภายในเว็ปไซต์มีแม้แต่ ภาษาไทย นี้เดินจากสถานีโอมิฮาจิมัง ประตูเหนือมาเพียง 3 นาทีเท่านั้น เปิดให้บริการ รอบกลางวัน 11:00-15:00 และรอบค่ำ 17:30-20:00 หยุดทุกวันอังคาร ถึงแม้ว่าร้านนี้จะไม่ต้องจองล่วงหน้า แต่เวลาปิดร้านจะเร็วกว่าร้านอื่นๆ เพราะฉะนั้นเช็คเวลาให้ดีก่อนไปนะคะ
และของขึ้นชื่อของชิงะอีกอย่างหนึ่งก็คือ「ของหวานชิงะ」
ในจังหวัดชิงะ ที่เป็นเมืองเก่าแก่ข้างเกียวโตนี้ มีของหวานขึ้นชื่อที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศญี่ปุ่นอยู่หลายอย่าง ซึ่งร้านขนมชื่อดังของชิงะ อย่าง ร้านขนมเก่าแก่ของโอมิฮาจิมัง “ทาเนะยะ”「TANEYA」และร้านขนมเก่าแก่ของโอสึ “คะโน โชจุอัน”「KANOU SHOUJUAN」2 ร้านนี้ไม่เพียงแต่ชิงะเท่านั้น แต่ท่านยังสามารถหาซื้อขนมญี่ปุ่นชนิดต่างๆ ได้ตามสาขาในห้างสรรพสินค้าใน โอซาก้า เกียวโจ โตเกียว นาโกย่า หรือ ฟุกุโอกะ ในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นได้
ซึ่งหนึ่งในเมนูแนะนำที่จะมีเฉพาะช่วงเดินกันยายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น นั่นก็คือ ขนมขึ้นชื่อในตำนาน “คุริเก็กกะ”「KURIGEKKA」（ไซส์เล็ก 1080 เยน －）ที่มีวัตถุดิบจาก “เกาลัด” “น้ำตาล” และ “แป้ง” เท่านั้น ด้วยการดึงรสชาติความหอมของเกาลัดออกมาอย่างมีเอกลักษณ์ แม้แต่ต่างชาติก็หลงรัก รสชาติที่ไม่หวานจนเกินไปเพื่อให้ได้รสชาติเกาลัดที่ชัดเจน ยิ่งทานพร้อมกับมัทฉะเข้มข้นยิ่งทำให้ได้ลิ้มลองรสชาติที่เข้ากันมากๆ ซึ่งหาทาน “คุริเก็กกะ”「KURIGEKKA」ได้ที่ ร้านขนมชื่อดัง “ทาเนะยะ”「TANEYA」ที่มีอยู่หลายสาขาในจังหวัดชิงะ ซึ่งมีสาขาอยู่ภายใน “ทาเนยะ โอมิฮาจิมัง ฮิมูเระ
วิลเลจ”「TANEYA OMIHACHIMAN HIMURE VILLAGE」ของโอมิฮาจิมัง ที่เราได้แนะนำไปในคอนเทนท์ Round the CHI ของ ICHIGO-JAPAN
หรือ ร้านที่อยู่บริเวณปราสาทฮิโกเนะ นอกจากชิงะแล้ว ก็สามารถหาทานได้ที่ห้างสรรพสินค้าภายใน โตเกียว โอซาก้า หรือ เกียวโต อีกด้วย
“ทาเนะยะ”「TANEYA」เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่อง ขนมเกาลัดอัด “คุริเก็กกะ”「KURIGEKKA」, ขนมโมนากะ “ฟูกูมิ เท็นเป”「FUKUMI TENPEI」(ขนมแป้งกรอบนอกไส้ถั่วแดง), มันจู และบามคูเฮน เป็นต้น โดยมีสาขาหลักเป็นสถานท่ีท่องเที่ยวอยู่ในโอมิฮาจิมัง เป็นร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในโลกนิยาย ด้วยฉากหลังที่เป็นภูเขาฮาจิมัง ประกอบกับ หลังคาและพื้นที่หน้าร้านทั้งผืนเป็นทุ่งหญ้าสวยงาม นอกจากนี้ยังเปิดให้ชมภายในโรงงานทำขนมฟรี ในส่วน「LA・COLLINA OMIHACHIMAN」และยังมีคาเฟ่ ร้านอาหารให้ได้เพลินเพลิดกับขนมและอาหารนานาชนิดของที่นี่ ทั้งขนมญี่ป่นและขนมต่างประเทศ
Day3-4 ล่องเรือชมเมืองริมน้ำโบราณ “โอมิฮาจิมัง” กราบไหว้ศาลเจ้าแห่งการค้าขาย “ศาลเจ้าฮิมูเระฮาจิมังกุ”「HIMUREHACHIMANGU」ตามด้วยร้านขนมญี่ปุ่นชื่อดัง “ทาเนะยะ”『TANEYA』
ไม่ว่าจะเป็นตึกไหนก็มีมุมให้เพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูป พร้อมๆ กับทานอาหารหรือขนมภายในร้าน วิธีการเดินทาง คือ นั่งรถบัสจากหน้าสถานีโอมิฮาจิมังไปจะสะดวกที่สุด สถานีโอมิฮาจิมังนี้ก็คือสถานีที่มีร้านเนื้อโอมิ “ทิฟฟานี่” นั่งเองโดยบัสจะออกตัวชั่วโมงละ 2 เที่ยวเท่านั้น เพราะฉะนั้นควรเช็คตารางเวลาจากลิ้งค์ร้านล่างก่อนเดินทาง
【โอมิฮาจิมัง OMIHACHIMAN ⇒ LA・COLLINA 】
【 LA・COLLINA ⇒โอมิฮาจิมัง OMIHACHIMAN】
เป็นยังไงกันบ้างคะ ? ของขึ้นชื่อของ “จังหวัดชิงะ” กับ “เนื้อโอมิ”「OMIGYU」และ「ของหวานชิงะ」ด้วยความที่ชิงะเป็นที่ตั้งของทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ดังนั้นนอกจากอาหารที่ได้แนะนำไปแล้วยังมีเมนู「อาหารปลาอายุ」หรือ「ซูชิปลาฟูนะ FUNAZUSHI」ที่ตกได้จากทะเลสาบแห่งนี้ อีกทั้งยังมี「ขนมปังสลัด SARADAPAN」ที่เป็นอาหารคู่เมืองชิงะอีกด้วย
อำเภอเมืองโอสึนี้สามารถเดินทางจากเกียวโตโดยนั่งรถไฟมาเพียง 10 นาที ที่ที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับ ทะเลสาบอันกว้าง และภูเขาฮิเอที่อยู่ล้อมรอบ ไปพร้อมๆ กับอาหารขึ้นชื่อนานาชนิด ยังไงก็ลองแวะไป “ชิงะ” กันดูนะคะ แล้วคุณจะหลงรัก “ชิงะ” อย่างแน่นอน แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า
